เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ม.หอการค้า ระบุ ปฏิบัติการปิดกรุงเทพฯ หากกินเวลา 1 เดือน เสี่ยงกระทบเศรษฐกิจในประเทศกว่า 20,000 ล้านบาท ด้าน ส.อ.ท. เกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หวั่นลูกค้ายกเลิกออเดอร์ส่งออก
เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2557 นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การประกาศปิดกรุงเทพมหานครของกลุ่มประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในด้านการจับจ่ายใช้สอยและการท่องเที่ยวประมาณ 5,000-20,000 ล้านบาท หากปิดในระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน หรือจนถึงวันเลือกตั้ง
ทั้งนี้ กปปส. เน้นการแสดงออกในรูปแบบที่ต้องการให้คนหยุดงานมาร่วมชุมนุม โดยเฉพาะการปิดสถานที่สำคัญ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะครอบคลุมพื้นที่มากน้อยแค่ไหน ซึ่งที่ผ่านมา กปปส. พยายามที่จะหลีกเลี่ยงผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยไม่ปิดเส้นทางคมนาคมที่สำคัญ เช่น การโดยสารรถประจำทาง รถไฟฟ้าใต้ดิน และรถไฟฟ้าบีทีเอส ทำให้ภาพของการสัญจรยังคงทำได้ แต่อาจไม่สะดวกมากนัก โดยเฉพาะการเดินทางด้วยถนน ขณะที่การแสดงออกบนเวทีปราศรัย ก็ไม่ได้มีภาพของความรุนแรงแต่อย่างใด
ด้าน นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การประกาศชัตดาวน์กรุงเทพฯ ของกลุ่ม กปปส. วันที่ 13 มกราคม 2557 เชื่อว่ากระทบกับภาพลักษณ์ประเทศแน่นอน โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2557 เพราะปกตินักท่องเที่ยวจะเริ่มวางแผนตั้งแต่เดือนมกราคม ดังนั้นเหตุการณ์นี้อาจส่งผลให้นักท่องเที่ยวเปลี่ยนแผนไปเที่ยวประเทศอื่น ทำให้ไทยโดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ เสียโอกาส ซึ่งคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
สำหรับผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมในด้านการส่งออกนั้น คาดว่า ความไม่มั่นใจของลูกค้าต่างชาติต่อการชุมนุมเดือนมกราคมนี้ อาจทำให้ลูกค้าลดคำสั่งซื้อจาก 100 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อกระจายความเสี่ยงไปซื้อจากประเทศอื่น ทั้งนี้ จากไตรมาส 4 ของปี 2556 พบว่ามีการลดคำสั่งซื้อเหลือเพียง 70 เปอร์เซ็นต์แล้ว เป็นเหตุให้ยอดส่งออกติดลบ ทั้งที่ควรเป็นบวกเพราะเป็นช่วงเทศกาล ขณะที่ยอดส่งของอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมาก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
