ช่วงใกล้ปีใหม่แบบนี้ หลายคนกำลังตั้งเป้าหมายใหม่ให้กับชีวิตและการเงินของตัวเอง โดยเริ่มจากการมองหาวิธีออมเงินเพื่อสร้างความมั่นคงในอนาคต และการออมผ่านสลากออมทรัพย์ ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียวสำหรับคนที่ไม่อยากเสี่ยง เพราะเงินต้นอยู่ครบเมื่อฝากครบกำหนด ได้ดอกเบี้ยแน่นอน แถมยังมีโอกาสลุ้นรางวัลได้ทุกเดือน และที่ดีไปกว่านั้นก็คือ ดอกเบี้ยและเงินรางวัลสำหรับบุคคลธรรมดาได้รับการยกเว้นภาษีด้วยค่ะ เหมาะกับคนที่อยากเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการวางรากฐานทางการเงินอย่างมั่นใจ
แต่คำถามสำคัญก็คือ เราควรซื้อสลากออมทรัพย์ของธนาคารไหนดีนะ ถึงได้รับผลตอบแทนคุ้มค่าและมีโอกาสลุ้นรางวัลง่ายที่สุด ? วันนี้เรารวบรวมข้อมูลสลากออมทรัพย์ 6 ชุด จาก 3 ธนาคาร มาเปรียบเทียบให้เห็นภาพกันดังนี้
1. สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดทองกวาวมั่งมี
2. สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพราวพิมาน ปี 2568
3. สลากออมสินพิเศษ 1 ปี และสลากออมสินพิเศษดิจิทัล 1 ปี
4. สลากออมสินพิเศษ 2 ปี และสลากออมสินพิเศษดิจิทัล 2 ปี
5. สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุด มังกรหยก
6. สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุด ขุนแผนมรกต
ลองมาดูกันว่า สลากออมทรัพย์แต่ละชุดมีจุดเด่นอย่างไร และชุดไหนถูกใจสายออมและสายลุ้นรางวัลมากที่สุด
สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดทองกวาวมั่งมี
ภาพจาก : ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ถือเป็นครั้งแรกของสลากออมทรัพย์ ธอส. เลยก็ว่าได้ที่มีผลิตภัณฑ์สลากออมทรัพย์ อายุ 1 ปี ออกมาให้เราได้เลือกออม เหมาะกับคนที่อยากพักเงินในช่วงสั้น ๆ เพื่อรับดอกเบี้ยและลุ้นรางวัลไปพร้อมกัน
อย่างชุดนี้ "สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดทองกวาวมั่งมี" ที่จะเริ่มจำหน่ายวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เป็นสลากอายุ 1 ปี ที่รับฝากในราคาหน่วยละ 1,000 บาท จุดเด่นอยู่ตรงที่ให้ดอกเบี้ยหน้าสลาก 0.50% ต่อปี มากกว่าอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยเงินฝากออมทรัพย์ธนาคารใหญ่ ๆ (ณ เดือนพฤศจิกายน 2568) โอกาสถูกรางวัลเลขท้ายง่าย เพราะมีรางวัลเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว และยังมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลใหญ่เพิ่มด้วยนะคะ
โดยเฉพาะเมื่อฝาก 100,000 บาทขึ้นไป จะการันตีถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว ทุกงวด รับผลตอบแทนขั้นต่ำเพิ่มขึ้นเป็น 1.10% ต่อปี หรือหากฝาก 1 ล้านบาทขึ้นไป มีสิทธิ์ถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว และ 3 ตัว ทุกงวด ได้รับผลตอบแทนขั้นต่ำเพิ่มเป็น 1.22% ต่อปีทันที
เงินรางวัลสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดทองกวาวมั่งมี
คนที่ฝากสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดทองกวาวมั่งมี จะมีสิทธิ์ได้ลุ้นรางวัลรวม 12 งวด โดยออกรางวัลทุกวันที่ 16 ของเดือน ดังนี้
- รางวัลที่ 1 : รางวัลละ 3 ล้านบาท (1 รางวัล) เสี่ยงหมวด
- รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 : รางวัลละ 50,000 บาท (2 รางวัล) ออกหมวดเดียวกับรางวัลที่ 1
- รางวัลที่ 2 : รางวัลละ 10,000 บาท (10 รางวัลต่อหมวด)
- รางวัลเลขท้าย 3 ตัว : รางวัลละ 100 บาท (หมุน 1 ครั้ง)
- รางวัลเลขท้าย 2 ตัว : รางวัลละ 50 บาท (หมุน 1 ครั้ง)
โอกาสถูกรางวัลใหญ่ของสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดทองกวาวมั่งมี
สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดทองกวาวมั่งมี เปิดรับฝากเพียง 2 หมวด หมวดละ 10 ล้านหน่วย ได้ลุ้นรางวัลใหญ่ 3 ล้านบาท ทุกเดือน รวม 12 ครั้ง ซึ่งการซื้อสลาก 1 หน่วย จะมีโอกาสถูกรางวัลที่ 1 อยู่ที่ 1 ต่อ 20 ล้าน หรือถ้ารวมโอกาสถูกรางวัลใหญ่ทั้งหมด (รางวัลที่ 1 และรางวัลที่ 2) ความน่าจะเป็นอยู่ที่ 0.00010% ต่องวด
ส่วนใครเป็นสายลุ้นเลขท้ายคงถูกใจ เพราะมีโอกาสถูกรางวัลเลขท้ายถึง 1.1% ต่อการซื้อสลาก 1 หน่วย ยิ่งซื้อหลายหน่วย เปอร์เซ็นต์การถูกรางวัลก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นค่ะ ยกตัวอย่างเช่น
- ซื้อสลาก 100,000 บาท (100 หน่วย) มีโอกาสถูกรางวัลที่ 1 เท่ากับ 1 ต่อ 200,000 และถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัวแน่นอน ครบกำหนดได้เงินต้นคืนพร้อมผลตอบแทนขั้นต่ำรวม 1,100 บาท
- ซื้อสลาก 500,000 บาท (500 หน่วย) มีโอกาสถูกรางวัลที่ 1 อยู่ที่ 1 ต่อ 40,000 และถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัวแน่นอน ครบกำหนดได้เงินต้นคืนพร้อมผลตอบแทนขั้นต่ำรวม 5,500 บาท
- ซื้อสลาก 1 ล้านบาท (1,000 หน่วย) โอกาสถูกรางวัลที่ 1 เพิ่มขึ้นเป็น 1 ต่อ 20,000 รวมกับการถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว ทุกงวด ครบกำหนดได้เงินต้นคืนพร้อมผลตอบแทนขั้นต่ำรวม 12,200 บาท
จะเห็นว่าเมื่อออมมากขึ้น อัตราดอกเบี้ยรวมเงินที่ถูกรางวัลขั้นต่ำก็จะเพิ่มพูนขึ้นไปอีก
ข้อมูลเพิ่มเติม : ธนาคารอาคารสงเคราะห์
สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพราวพิมาน ปี 2568
ภาพจาก : ธนาคารอาคารสงเคราะห์
"สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพราวพิมาน ปี 2568" เริ่มจำหน่ายวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เป็นสลากออมทรัพย์อายุ 1 ปี ที่เพิ่งเปิดตัวจาก ธอส. อีกหนึ่งชุด แม้จะมีราคาต่อหน่วยสูงถึง 10 ล้านบาท แต่ก็มาพร้อมดอกเบี้ยหน้าสลากสูงที่สุดในบรรดาสลากทั้งหมด คือ 1.30% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของเงินฝากประจำ 1 ปี (ณ เดือนพฤศจิกายน 2568)
สลากชุดนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่มีเงินออมก้อนใหญ่ ต้องการรับผลตอบแทนที่แน่นอน โดยไม่อยากเสี่ยงกับการสูญเสียเงินต้น และยังมีโอกาสถูกรางวัลง่ายกว่าสลากชุดอื่น เนื่องจากมีรางวัลเลขท้าย 1 ตัวให้ลุ้น แต่ถ้าต้องการการันตีถูกรางวัลเลขท้าย 1 ตัว ทุกงวด ต้องฝากขั้นต่ำ 100 ล้านบาท ทำให้ผลตอบแทนรวมเพิ่มขึ้นเป็น 1.42% ต่อปีเลยทีเดียว
เงินรางวัลสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพราวพิมาน ปี 2568
สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพราวพิมาน ปี 2568 ออกรางวัลทุกวันที่ 16 ของเดือน โดยมีให้ลุ้น 4 รางวัล คือ
- รางวัลที่ 1 : รางวัลละ 1 ล้านบาท (1 รางวัลต่อหมวด)
- รางวัลที่ 2 : รางวัลละ 100,000 บาท (2 รางวัลต่อหมวด)
- รางวัลที่ 3 : รางวัลละ 20,000 บาท (10 รางวัลต่อหมวด)
- รางวัลเลขท้าย 1 ตัว : รางวัลละ 10,000 บาท (หมุน 1 ครั้ง)
โอกาสถูกรางวัลใหญ่ของสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพราวพิมาน ปี 2568
ต้องบอกว่า สลากชุดนี้เหมาะกับสายลุ้นรางวัลแบบสุด ๆ เพราะมีแค่ 2 หมวด หมวดละ 1,000 หน่วยเท่านั้น และยังออกรางวัลแบบต่อหมวด ทำให้การลุ้นรางวัลจำกัดอยู่แค่ในกลุ่ม 1,000 หน่วย จึงมีโอกาสถูกรางวัลง่ายกว่าสลากชุดอื่น ๆ ที่มีหลายล้านหน่วยต่อชุด โดยการซื้อสลาก ธอส. พราวพิมาน ปี 2568 จำนวน 1 หน่วย จะมีโอกาสถูกรางวัลใหญ่รวมถึง 1.30% แบ่งเป็นโอกาสถูกรางวัลต่าง ๆ ดังนี้
- โอกาสถูกรางวัลที่ 1 เท่ากับ 1 ต่อ 1,000
- โอกาสถูกรางวัลที่ 2 เท่ากับ 1 ต่อ 500
- โอกาสถูกรางวัลที่ 3 เท่ากับ 1 ต่อ 100
นอกจากนี้ยังมีรางวัลเลขท้าย 1 ตัว ที่มีโอกาสถูกรางวัล 1 ต่อ 10 หรือคิดเป็น 10% ต่อ 1 หน่วย เรียกได้ว่าเป็นสลากที่ลุ้นสนุกทุกงวดจริง ๆ
ข้อมูลเพิ่มเติม : ธนาคารอาคารสงเคราะห์
สลากออมสินพิเศษ 1 ปี
และสลากออมสินพิเศษดิจิทัล 1 ปี
ภาพจาก : ธนาคารออมสิน
เงินรางวัลสลากออมสินพิเศษ 1 ปี
สลากออมสินพิเศษ 1 ปี และสลากออมสินพิเศษดิจิทัล 1 ปี ออกรางวัลทุกวันที่ 16 ของเดือน โดยมีรางวัลให้ลุ้น 12 งวด แบ่งเป็น
- รางวัลที่ 1 : รางวัลละ 10 ล้านบาท (1 รางวัล) กำหนดงวดและหมวดอักษร
- รางวัลที่ 2 : รางวัลละ 1 ล้านบาท (1 รางวัล) กำหนดงวดและหมวดอักษร
- รางวัลที่ 3 : รางวัลละ 10,000 บาท (5 รางวัล)
- รางวัลที่ 4 : รางวัลละ 3,000 บาท (10 รางวัล)
- รางวัลที่ 5 : รางวัลละ 1,000 บาท (15 รางวัล)
- รางวัลเลขท้าย 4 ตัว : รางวัลละ 200 บาท
- รางวัลเลขท้าย 3 ตัว : รางวัลละ 50 บาท
โอกาสถูกรางวัลใหญ่ของสลากออมสินพิเศษ 1 ปี
เนื่องจากสลากออมสินพิเศษเปิดรับฝากไม่จำกัด จำนวนหน่วยของสลากจะเพิ่มขึ้นในทุกงวด โดยจากข้อมูลการออกรางวัลสลากออมสินพิเศษ 1 ปี ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 พบว่ามีทั้งหมด 701 หมวด หรือเทียบเท่ากับสลากประมาณ 7,010 ล้านหน่วย
ความยากก็คือ การออกรางวัลที่ 1 มูลค่า 10 ล้านบาทของสลากออมสิน ต้องเสี่ยงทั้งหมวดและงวดด้วย ดังนั้น หากเราซื้อเพียง 1 หน่วย โอกาสถูกรางวัลที่ 1 จะอยู่ที่ประมาณ 1 ต่อ 7,010 ล้านหน่วยขึ้นไป ซึ่งถือว่าไม่ง่ายเลยที่จะถูกรางวัล แต่สลากชุดนี้ก็ยังมีรางวัลอื่น ๆ รวมทั้งรางวัลเลขท้ายให้ได้ลุ้นอยู่เหมือนกัน โดยมีโอกาสถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัว อยู่ที่ 1 ต่อ 1,000
สลากออมสินพิเศษ 2 ปี
และสลากออมสินพิเศษดิจิทัล 2 ปี
ภาพจาก : ธนาคารออมสิน
เงินรางวัลสลากออมสินพิเศษ 2 ปี
สลากออมสินพิเศษ 2 ปี และสลากออมสินพิเศษดิจิทัล 2 ปี เป็นสลากชุดเดียวที่ออกรางวัลทุกวันที่ 1 ของเดือน โดยมีรางวัลให้ลุ้น 24 งวด คือ
- รางวัลที่ 1 : รางวัลละ 30 ล้านบาท (1 รางวัล) กำหนดงวดและหมวดอักษร
- รางวัลที่ 2 : รางวัลละ 1 ล้านบาท (1 รางวัล) กำหนดงวดและหมวดอักษร
- รางวัลที่ 3 : รางวัลละ 10,000 บาท (5 รางวัล)
- รางวัลที่ 4 : รางวัลละ 3,000 บาท (10 รางวัล)
- รางวัลที่ 5 : รางวัลละ 1,000 บาท (15 รางวัล)
- รางวัลเลขท้าย 4 ตัว : รางวัลละ 600 บาท
โอกาสถูกรางวัลใหญ่ของสลากออมสินพิเศษ 2 ปี
ด้วยจำนวนหน่วยที่เปิดรับฝาก ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 สูงถึง 888 หมวด หรือเทียบเท่ากับสลากประมาณ 8,880 ล้านหน่วย ทำให้การลุ้นรางวัลใหญ่ไม่ง่ายนัก เนื่องจากรางวัลที่ 1 และรางวัลที่ 2 ของรุ่นนี้ ต้องเสี่ยงทั้งงวดและหมวดอักษร
ดังนั้น กรณีซื้อเพียง 1 หน่วย โอกาสถูกรางวัลที่ 1 หรือรางวัลที่ 2 จึงอยู่ที่ประมาณ 1 ต่อ 8,880 ล้าน เรียกได้ว่าต้องมีแต้มบุญสูงจริง ๆ ค่ะ ถึงจะรับโชค 30 ล้านบาท ส่วนรางวัลเลขท้าย 4 ตัว แม้จะลุ้นง่ายกว่า แต่โอกาสถูกรางวัลก็ยังคงอยู่ที่ประมาณ 1 ต่อ 10,000
สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดมังกรหยก
ภาพจาก : ธ.ก.ส.
เงินรางวัลสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดมังกรหยก
สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดมังกรหยก ออกรางวัลทุกวันที่ 16 ของเดือน รวม 24 งวด โดยมีรางวัลให้ได้ลุ้นดังนี้
- รางวัลที่ 1 : รางวัลละ 10 ล้านบาท (1 รางวัล) เสี่ยงหมวด
- รางวัลที่ 1 ต่างหมวด : รางวัลละ 10,000 บาท (99 รางวัล)
- รางวัลที่ 2 : รางวัลละ 5,000 บาท (หมุน 3 ครั้ง)
- รางวัลที่ 3 : รางวัลละ 2,500 บาท (หมุน 10 ครั้ง)
- รางวัลเลขท้าย 4 ตัว : รางวัลละ 600 บาท (หมุน 1 ครั้ง)
- รางวัลเลขท้าย 3 ตัว : รางวัลละ 10 บาท (หมุน 2 ครั้ง)
- รางวัลพิเศษ : รางวัลละ 1 ล้านบาท (เสี่ยงหมวด) ออกรางวัลครั้งละ 2 รางวัล จำนวน 8 ครั้ง (รวมทั้งหมด 16 รางวัล) ในทุกไตรมาสของปี 2568-2570
โอกาสถูกรางวัลใหญ่ของสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดมังกรหยก
สลาก ธ.ก.ส. ชุดมังกรหยก จำหน่ายทั้งหมด 100 หมวด หมวดละ 10 ล้านหน่วย กรณีซื้อ 1 หน่วย ความน่าจะเป็นที่จะถูกรางวัลที่ 1 (ต้องเสี่ยงหมวดด้วย) อยู่ที่ประมาณ 1 ต่อ 1,000 ล้าน ถือว่าค่อนข้างยากทีเดียว แต่มีรางวัลปลอบใจเป็นรางวัลที่ 1 ต่างหมวด ให้ได้ลุ้นอยู่ที่ 1 ต่อ 10 ล้านค่ะ นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษมูลค่า 1 ล้านบาท ออกรางวัลทุกไตรมาส รวมทั้งหมด 16 รางวัล โดยต้องเสี่ยงหมวดเช่นกัน
ข้อมูลเพิ่มเติม : ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดขุนแผนมรกต
ภาพจาก : ธ.ก.ส.
เงินรางวัลสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดขุนแผนมรกต
สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดขุนแผนมรกต มีรางวัลต่าง ๆ ให้ได้ลุ้น 24 งวด ทุกวันที่ 16 ของเดือน คือ
- รางวัลที่ 1 : รางวัลละ 40 ล้านบาท (1 รางวัล) เสี่ยงหมวด
- รางวัลที่ 1 ต่างหมวด : รางวัลละ 1,000,000 บาท (4 รางวัล)
- รางวัลที่ 2 : รางวัลละ 50,000 บาท (หมุน 3 ครั้ง)
- รางวัลที่ 3 : รางวัลละ 30,000 บาท (หมุน 10 ครั้ง)
- รางวัลที่ 4 : รางวัลละ 10,000 บาท (หมุน 20 ครั้ง)
- รางวัลที่ 5 : รางวัลละ 5,000 บาท (หมุน 100 ครั้ง)
- รางวัลเลขท้าย 4 ตัว : รางวัลละ 500 บาท (หมุน 1 ครั้ง)
- รางวัลเลขท้าย 3 ตัว : รางวัลละ 200 บาท (หมุน 2 ครั้ง)
โอกาสถูกรางวัลใหญ่ของสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดขุนแผนมรกต
ต้องบอกว่ารางวัลที่ 1-5 ของสลากชุดนี้ให้เงินรางวัลสูงกว่าสลากชุดอื่น ๆ โดยหากซื้อสลาก 1 หน่วย (ราคา 2,000 บาท) โอกาสถูกรางวัลที่ 1 มูลค่า 40 ล้านบาท อยู่ที่ประมาณ 1 ต่อ 50 ล้าน ส่วนรางวัลที่ 1 ต่างหมวด อยู่ที่ 1 ต่อ 10 ล้าน ซึ่งจัดว่าไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากจนเกินไป พร้อมกับได้ลุ้นรางวัลอื่น ๆ เพิ่มเติม
ข้อมูลเพิ่มเติม : ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
สรุปความคุ้มค่า
ซื้อสลากออมทรัพย์ชุดไหนดี
เปรียบเทียบผลตอบแทนขั้นต่ำที่ได้รับ
หากพิจารณาเรื่องดอกเบี้ยและผลตอบแทนขั้นต่ำต่อปี (เมื่อฝากครบกำหนด) จะเห็นว่าสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดทองกวาวมั่งมี ให้ผลตอบแทนสูงที่สุด เมื่อซื้อสลากตั้งแต่ 1,000 บาท จนถึงไม่เกิน 10 ล้านบาทค่ะ เทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คือ
- ซื้อสลากไม่ถึง 100,000 บาท : สลาก ธอส. ชุดทองกวาวมั่งมี ให้ดอกเบี้ย 0.50% ต่อปี รองลงมาคือ สลาก ธ.ก.ส. ชุดขุนแผนมรกต 0.475% ต่อปี และสลากออมสินพิเศษ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 0.325% ต่อปี
- ซื้อสลาก 100,000 บาทขึ้นไป แต่ไม่ถึง 1 ล้านบาท : สลาก ธอส. ชุดทองกวาวมั่งมี ให้ผลตอบแทน 1.10% ต่อปี ในขณะที่สลากออมทรัพย์ชุดอื่น ๆ ให้ผลตอบแทนต่ำกว่า 1.00% ต่อปี ทุกชุด
- ซื้อสลาก 1 ล้านบาท : สลาก ธอส. ชุดทองกวาวมั่งมี ก็ยังยืนหนึ่ง ด้วยผลตอบแทน 1.22% ต่อปี ตามมาด้วยสลาก ธ.ก.ส. ชุดมังกรหยก 1.16% ต่อปี และสลากออมสินพิเศษทั้งสองชุดที่ให้ผลตอบแทนไล่เลี่ยกันที่ 1.04% ต่อปี
แต่หากมีเงินออมก้อนใหญ่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ต้องยกให้สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพราวพิมาน ปี 2568 โดดเด่นที่สุด ด้วยผลตอบแทน 1.30% ต่อปี รองลงมาก็คือ สลาก ธอส. ชุดทองกวาวมั่งมี ที่ให้ผลตอบแทน 1.22% ต่อปี ซึ่งทั้งสองชุดให้ผลตอบแทนมากกว่าอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยเงินฝากประจำทั่วไป ที่สำคัญก็คือ ดอกเบี้ยและเงินรางวัลจากสลากออมทรัพย์สำหรับบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษีเหมือนเงินฝากประจำด้วยค่ะ
ทั้งนี้ ผลตอบแทนดังกล่าวยังไม่รวมกรณีถูกรางวัลอื่น ๆ ซึ่งสลากออมทรัพย์แต่ละชุดมีโอกาสถูกรางวัลที่แตกต่างกันไป
เปรียบเทียบโอกาสถูกรางวัลที่ 1
สำหรับสายลุ้นรางวัลใหญ่ที่มีงบซื้อสลากต่ำกว่า 10 ล้านบาท สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดทองกวาวมั่งมี ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะมีโอกาสถูกรางวัลที่ 1 สูงกว่าสลากชุดอื่นอย่างชัดเจน แม้ซื้อเพียง 1 หน่วย (1,000 บาท) ก็ยังมีโอกาสถูกรางวัลที่ 1 อยู่ที่ 1 ต่อ 20 ล้าน เมื่อเทียบกับสลากออมทรัพย์ชุดอื่น ๆ ที่ต้องใช้โอกาสระดับหลักร้อยล้านขึ้นไป
ในกรณีที่ซื้อ สลาก ธอส. ชุดทองกวาวมั่งมี 1 ล้านบาท โอกาสถูกรางวัลจะมากขึ้นเป็นระดับหลักหมื่น คือ 1 ต่อ 20,000 ส่วนสลาก ธ.ก.ส. ทั้งสองชุด มีโอกาสอยู่ที่ประมาณ 1 ต่อ 100,000 และสำหรับสลากออมสินพิเศษ 1 ปี โอกาสจะอยู่ที่ระดับ 1 ต่อ 700,000 ขึ้นไปค่ะ
อย่างไรก็ตาม หากเป็นการซื้อสลากตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพราวพิมาน ปี 2568 ได้ลุ้นง่ายที่สุด ด้วยโอกาส 1 ต่อ 1,000 รองลงมาคือ สลาก ธอส. ชุดทองกวาวมั่งมี 1 ต่อ 2,000 ส่วน สลาก ธ.ก.ส. ทั้งสองชุด มีโอกาสเท่ากัน คือ 1 ต่อ 10,000 ขณะที่สลากออมสินทั้งสองชุด ลุ้นยากที่สุด แต่ก็แลกมากับรางวัลที่ 1 ที่มีมูลค่าหลักสิบล้านบาท
สรุปแล้ว สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพราวพิมาน ปี 2568 ให้ผลตอบแทนดีที่สุด และมีโอกาสลุ้นรางวัลง่ายที่สุด เมื่อซื้อในจำนวนเงินเท่ากัน แต่ถ้ามีงบไม่ถึง 10 ล้านบาท การเลือกฝากสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดทองกวาวมั่งมี ก็น่าสนใจมาก เพราะทั้งผลตอบแทนและโอกาสถูกรางวัลที่ 1 สูงกว่าสลากชุดอื่น ๆ ในระดับราคาใกล้เคียงกัน
อีกหนึ่งจุดเด่นของสลากออมทรัพย์ ธอส. ทั้งสองชุด คือ ระยะเวลาฝากสั้นเพียง 1 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักเงินไว้รอใช้ตามเป้าหมาย หรือรอโอกาสลงทุนอื่น ๆ โดยเงินต้นไม่หายค่ะ






