
ภาพจาก : MaLewMew/Shutterstock
เดินหน้าเต็มที่สำหรับโครงการคนละครึ่ง 2568 หรือคนละครึ่งพลัส โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนทั้งประชาชนทั่วไปและร้านค้าในเดือนตุลาคม สำหรับร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ร้านขายสินค้าหรือบริการที่สนใจเข้าร่วมโครงการ มาดูกันเลยว่าขั้นตอนการลงทะเบียนคนละครึ่งร้านค้าทำอย่างไร สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่งพลัส.com ได้ไหม พร้อมตอบข้อสงสัยยอดฮิต เช่น เปิดให้ลงทะเบียนวันไหน ร้านค้าประเภทใดสมัครได้บ้าง และถ้าเป็นร้านเดิมที่เคยเข้าร่วมคนละครึ่งเฟสก่อน ๆ แล้วต้องลงทะเบียนใหม่หรือไม่ สมัครเป็นร้านค้าถุงเงินอย่างไร ฯลฯ
คุณสมบัติร้านค้าคนละครึ่งพลัส

ภาพจาก : MaLewMew/Shutterstock
ร้านค้าไหนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสได้บ้าง
สำหรับร้านค้าบุคคลธรรมดา
-
ร้านขายอาหาร ร้านเครื่องดื่ม
-
ร้านขายสินค้าทั่วไป
-
ร้านค้า/บริการของวิสาหกิจชุมชน
-
ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ รถตู้โดยสารสาธารณะ รถจักรยานยนต์สาธารณะ เป็นต้น
-
ผู้ประกอบการบริการ เช่น ร้านทำผม ร้านทำเล็บ
-
ไม่ได้จดทะเบียนในรูปแบบนิติบุคคล ยกเว้นร้านธงฟ้าฯ กองทุนหมู่บ้าน วิสาหกิจชุมชน และบริการขนส่งสาธารณะมวลชน
สำหรับร้านค้านิติบุคคลหรือธุรกิจเฉพาะ
-
ผู้ประกอบการขนส่งต้องมีใบอนุญาตขนส่งสาธารณะ เช่น แท็กซี่มิเตอร์ รถตู้โดยสารสาธารณะ รถจักรยานยนต์สาธารณะ เป็นต้น
-
ร้านให้บริการนวด สปา ร้านค้านิติบุคคลขนาดเล็ก มีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี (ยื่น ภ.ง.ด.50 รอบบัญชี 2567 ข้อมูล ณ 30 ก.ย. 68)
-
ร้านค้ากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (ของ สทบ.)

ภาพจาก : คนละครึ่งพลัส.com
เงื่อนไขของร้านค้าที่ลงทะเบียนคนละครึ่งพลัสได้
1. เป็นผู้ประกอบการร้านค้าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป ที่มีสัญชาติไทย (ผู้ประกอบการร้านค้าฯ) ดังนี้
-
ผู้ประกอบการที่ไม่ใช่นิติบุคคล หรือ
-
ร้านค้าธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านค้าธงฟ้าฯ) ที่ไม่ใช่นิติบุคคล เว้นแต่เป็นร้านค้าธงฟ้าฯ ของสหกรณ์ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือ
-
ร้านค้าของกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมืองตามพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. 2547 (พ.ร.บ.กองทุนหมู่บ้านฯ) หรือ
-
ร้านค้าของวิสาหกิจชุมชนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (พ.ร.บ.ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนฯ)
-
ต้องไม่เป็นร้านค้าที่มีลักษณะเป็นร้านสะดวกซื้อที่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ และต้องมีการประกอบการที่สามารถตรวจสอบได้
2. เป็นผู้ประกอบการบริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม ที่มีสัญชาติไทย (ผู้ประกอบการบริการฯ) ดังนี้
ผู้ประกอบการบริการที่ไม่ใช่นิติบุคคล หรือ
-
ผู้ประกอบการบริการของกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมือง ตาม พ.ร.บ.กองทุนหมู่บ้านฯ หรือ
-
ผู้ประกอบการบริการของวิสาหกิจชุมชน ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนฯ
-
ต้องมีสถานประกอบการเป็นหลักแหล่งและตรวจสอบได้ และกรณีเป็นผู้ประกอบการบริการนวด สปา จะต้องได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
3. เป็นผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะ ที่มีสัญชาติไทยและไม่ใช่นิติบุคคล (ผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะฯ) ดังนี้
-
ผู้ประกอบการรถแท็กซี่ รถตู้โดยสารประจำทางที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย รถยนต์สามล้อสาธารณะ รถสองแถวรับจ้าง และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ต้องมีใบขับขี่รถสาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมาย
-
ผู้ประกอบการรถรับจ้างขนส่งผู้โดยสารที่สามารถตรวจสอบได้ เช่น สามล้อถีบ เป็นต้น
4. เป็นผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะ ได้แก่
-
รถไฟฟ้าในเขตเมือง รถไฟ รถโดยสารประจำทางสาธารณะ และเรือโดยสารสาธารณะ (ผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะฯ)
5. เป็นนิติบุคคลขนาดเล็ก เฉพาะที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 68 และงบการเงินตามมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร (ภ.ง.ด.50) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 2567
-
โดยต้องเป็นร้านขายอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป หรือให้บริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม และให้บริการขนส่งสาธารณะ มีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท ตามฐานข้อมูลของกรมสรรพากร ณ วันที่ 30 กันยายน 2568
ทั้งนี้ ผู้ให้บริการนวด สปา หรือผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ จะต้องได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
6. ร้านค้าจะต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการของรัฐ ได้แก่
-
(1) โครงการคนละครึ่ง (2) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 (3) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (4) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 และ (5) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5
ร้านค้าไหนเข้าร่วมคนละครึ่ง 2568 ไม่ได้
-
ร้านค้าที่มีคุณสมบัติไม่ตรงกับรายละเอียดข้างต้นที่กล่าวมา
-
ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า
-
ร้านที่จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ บัตรกำนัล บัตรเงินสด และบริการรูปแบบอื่น ๆ ที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า
ร้านค้าที่เคยเข้าร่วมคนละครึ่ง เฟส 5 ต้องลงทะเบียนอีกไหม
สำหรับร้านค้าที่เคยเข้าโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 เมื่อปี 2565 ที่ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ดังนี้
-
ร้านค้าถุงเงินที่เคยได้รับสิทธิคนละครึ่ง เฟส 5 และผ่านเกณฑ์ตามเงื่อนไขโครงการ
-
ร้านค้าธงฟ้าฯ ของบุคคลธรรมดา วิสาหกิจชุมชน กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และสหกรณ์ ที่ผ่านเกณฑ์ตามเงื่อนไขโครงการ
-
ร้านค้าโครงการกรุงเทพแผงลอยที่ผ่านเกณฑ์ตามเงื่อนไขโครงการ
ร้านค้าแฟรนไชส์ลงทะเบียนคนละครึ่งพลัสได้ไหม
หากเป็นธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่เป็นเฟรนไชส์และธุรกิจบริการ เช่น แฟรนไชส์ชานมไข่มุก ซูชิ น้ำปั่น ที่เจ้าของร้านไปซื้อแฟรนไชส์มา จะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสได้ (ยกเว้นนวด สปา ทำเล็บ ทำผม)
วิธีลงทะเบียนคนละครึ่งพลัส
สำหรับร้านค้า

ลงทะเบียนร้านค้าคนละครึ่งได้วันไหน
-
ร้านค้าหรือผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง 2568 สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม - 19 ธันวาคม 2568
-
กรณีเป็นร้านอาหาร เครื่องดื่ม ที่ต้องการเข้าร่วมฟู้ดเดลิเวอรี่ด้วย สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน - 19 ธันวาคม 2568
ร้านค้าเดิมที่เคยเข้าร่วมคนละครึ่ง เฟส 5 สมัครอย่างไร

ภาพจาก : คนละครึ่งพลัส.com
ร้านค้าใหม่ลงทะเบียนร้านค้าคนละครึ่งพลัสได้ที่ไหน
เอกสารสมัครคนละครึ่งสำหรับร้านค้ามีอะไรบ้าง
-
บัญชีธนาคารกรุงไทย
-
บัตรประชาชน
-
รูปถ่ายร้านค้าที่มีรูปเจ้าของขณะประกอบกิจการ
-
แบบฟอร์มใบสมัคร (มี 2 แบบ ให้เลือกแบบฟอร์มที่ตรงกับประเภทของร้านค้าตัวเอง)
• แบบฟอร์มการสมัครร้านค้าสำหรับกระทรวงมหาดไทย : สำหรับร้านอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป / ร้านค้า-บริการของวิสาหกิจชุมชน / ผู้ประกอบการรถรับจ้างขนส่งผู้โดยสาร (เช่น สามล้อถีบ) / ร้านทำผม ทำเล็บ
• แบบฟอร์มการสมัครร้านค้าสำหรับธนาคารกรุงไทย : สำหรับผู้ประกอบการขนส่งต้องมีใบอนุญาตขนส่งสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่, รถตู้โดยสารสาธารณะ, รถจักรยานยนต์สาธารณะ / ร้านให้บริการนวด สปา ร้านค้านิติบุคคลขนาดเล็ก รายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี (ยื่น ภ.ง.ด.50 รอบบัญชี 67 ข้อมูล ณ 30 ก.ย. 68) / ร้านค้ากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (ของ สทบ.)
หมายเหตุ :
-
ต้องสมัครเป็นร้านค้าถุงเงินในเว็บไซต์ และลงทะเบียนแอปฯ ถุงเงินให้เรียบร้อยก่อน เมื่อได้รับอนุมัติให้เป็นร้านค้าถุงเงิน จึงนำเอกสารต่าง ๆ และแบบฟอร์มใบสมัครไปยื่นที่ธนาคารกรุงไทย
-
ใบสมัครต้องได้รับการยืนยันประกอบกิจการจริงจากเจ้าหน้าที่รัฐ เช่น เจ้าหน้าที่สำนักงานเขต กำนัน หรือผู้ใหญ่บ้าน
-
สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่เว็บไซต์ www.คนละครึ่งพลัส.com (ระบบจะเปิดให้ดาวน์โหลดเร็ว ๆ นี้)
ขั้นตอนการลงทะเบียนคนละครึ่งร้านค้า
-
เปิดบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย (ถ้ายังไม่มี)
-
สมัครเป็นร้านค้าถุงเงินผ่านเว็บไซต์ https://tungngern.krungthai.com แล้วรอการอนุมัติ
-
ติดตั้งแอปฯ ถุงเงิน และลงทะเบียนการใช้งาน
-
เตรียมเอกสารต่าง ๆ ที่ต้องใช้ในการสมัครเป็นร้านค้าคนละครึ่ง (บัตรประชาชน/บัญชีธนาคารกรุงไทย/รูปถ่ายร้านค้าที่มีภาพเจ้าของขณะประกอบกิจการ)
-
ดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครแล้วกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
-
ยื่นเอกสารที่สาขาธนาคารกรุงไทย หรือบูธธนาคารกรุงไทยที่เปิดรับสมัคร
-
ร้านค้าที่ผ่านการอนุมัติจะได้รับ SMS และการแจ้งเตือนผ่านแอปฯ ถุงเงิน
-
เมื่อผ่านเข้าร่วมโครงการ "แบนเนอร์คนละครึ่งพลัส" จะปรากฏบนแอปฯ ถุงเงิน
-
กดยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขโครงการ
-
สามารถใช้รับชำระค่าสินค้าและบริการจากประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2568
วิธีสมัครเป็นร้านค้าถุงเงิน ทำอย่างไร

ภาพจาก : คนละครึ่งพลัส.com
ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการต้องสมัครเป็นร้านค้าถุงเงินและได้รับการอนุมัติก่อน โดยมีขั้นตอนตามนี้
1. เข้าเว็บไซต์ถุงเงินกรุงไทย https://tungngern.krungthai.com
2. กรอกข้อมูลสำหรับการลงทะเบียน
3. กรอกรหัส OTP เพื่อยืนยันการลงทะเบียน
4. กดยินยอม รับทราบ และยอมรับเงื่อนไขข้อตกลง
5. กรอกข้อมูลร้านค้าถุงเงินรูปแบบบุคคลธรรมดา
6. ตรวจสอบข้อมูลและยืนยันการสมัครร้านค้าถุงเงิน
7. สมัครร้านค้าถุงเงินสำเร็จ
วิธีสมัครแอปฯ ถุงเงิน ทำอย่างไร

หลังจากสมัครร้านค้าถุงเงินผ่านเว็บไซต์แล้วให้ดำเนินการสมัครแอปฯ ถุงเงิน ดังนี้
-
ดาวน์โหลดแอปฯ ถุงเงิน และกดติดตั้งให้เรียบร้อย
• สำหรับมือถือระบบ iOS ดาวน์โหลดได้ ที่นี่
• สำหรับมือถือระบบ Android ดาวน์โหลดได้ ที่นี่
2. เลือกเข้าใช้งานในฐานะเจ้าของร้าน หรือผู้จัดการร้าน/พนักงาน
3. เลือกวิธีเข้าใช้งานด้วยเบอร์มือถือ หรือเข้าใช้งานด้วยแอปฯ เป๋าตัง

ภาพจาก : คนละครึ่งพลัส.com

ภาพจาก : คนละครึ่งพลัส.com
ลงทะเบียนร้านค้าสำเร็จไหม จะทราบผลได้อย่างไร
สมัครคนละครึ่งพลัส ฟู้ดเดลิเวอรี่ ทำอย่างไร
สำหรับร้านอาหาร เครื่องดื่ม ที่ได้รับการอนุมัติผ่านเข้าร่วมโครงการ และต้องการเข้าร่วมฟู้ดเดลิเวอรี่ด้วย สามารถลงทะเบียนเพิ่มเติมได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน - 19 ธันวาคม 2568 โดยกดแบนเนอร์ "โครงการฟู้ดเดลิเวอรี่" บนแอปฯ ถุงเงิน เพื่อยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไข จากนั้นเลือกผูกแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ผ่านแอปฯ ถุงเงิน
ทั้งนี้ เริ่มรับสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน - 31 ธันวาคม 2568 เวลา 06.00-21.00 น.
หมายเหตุ :
-
ร้านอาหาร/เครื่องดื่ม ที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส สามารถสมัครเข้าร่วมแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ ได้ 1 แพลตฟอร์มเท่านั้น
-
ร้านค้าฟู้ดเดลิเวอรี่ต้องรับออร์เดอร์ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ก่อนเวลา 21.00 น.
-
รัฐจะสนับสนุนเงินในส่วนค่าอาหาร/เครื่องดื่มเท่านั้น ไม่รวมค่าจัดส่งหรือค่าใช้จ่ายอื่น
หลังจากขายสินค้าได้แล้วจะได้รับเงินเมื่อไหร่
รับสิทธิผ่าน QR ถุงเงิน
ระบบโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย ของร้านค้าที่ผูกกับแอปฯ ถุงเงิน แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
-
ส่วนที่ 1 : เงินส่วนของประชาชนที่ชำระผ่าน G Wallet จะได้รับตั้งแต่เวลา 02.00 น. เป็นต้นไป
-
ส่วนที่ 2 : เงินสมทบจากภาครัฐ จะได้รับตั้งแต่เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป
รับสิทธิผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่
ระบบโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย ของร้านค้าที่ผูกกับแอปฯ ถุงเงิน แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
-
ส่วนที่ 1 : เงินส่วนของประชาชนที่ชำระผ่าน G Wallet จะได้รับใน 3 วันถัดไปนับจากวันทำรายการ ตั้งแต่เวลา 02.00 น. เป็นต้นไป
-
ส่วนที่ 2 : เงินสมทบจากภาครัฐ จะได้รับใน 3 วันถัดไปนับจากวันทำรายการ ตั้งแต่เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป
นำ QR ที่สร้างจากแอปฯ ถุงเงินมาพรินต์ติดไว้ที่ร้านให้ลูกค้าสแกนได้ไหม
บทความที่เกี่ยวข้องกับคนละครึ่ง 2568
-
รวมคำถามคนละครึ่ง 2568 ลงทะเบียนอย่างไร กดรับสิทธิเมื่อไหร่ มาก่อนได้ก่อน !
-
ส่องคุณสมบัติคนละครึ่ง 2568 เพิ่มกฎข้อ 5 เข้ามา ใครผิดข้อนี้เข้าร่วมโครงการไม่ได้
-
อัปเดตด่วน ! ไทม์ไลน์คนละครึ่งพลัส 2568 เริ่มลงทะเบียนและใช้สิทธิวันไหน เช็กที่นี่
-
แอปฯ เป๋าตังเปลี่ยนเบอร์ใหม่-เปลี่ยนมือถือ ลงทะเบียนคนละครึ่ง 2568 ได้ไหม ถ้าไม่ไปธนาคาร ?
-
วิธีติดตั้งและลงทะเบียนแอปฯ เป๋าตังด้วยการสแกนใบหน้า เพื่อรับสิทธิคนละครึ่ง 2568