คลังยืนยันเดินหน้า ดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 10,000 บาท เฟส 3 เริ่มเมื่อไหร่ จ่ายผ่านช่องทางไหน เช็กที่นี่
วันที่ 28 มกราคม 2568 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการ เงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 โดยมีรายละเอียดสำคัญ ดังนี้
ไทม์ไลน์ ดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 10,000 เฟส 3
- เตรียมเงินไว้ไม่ต่ำกว่า 160,000 ล้านบาท
- จ่ายผ่านแอปฯ แจกเงินดิจิทัล และ สมาร์ตคอนแทกต์ (ใช้เป็นระบบจ่ายเงินในวอลเล็ตแบบใหม่ มีบล็อกเชนเป็นฐานข้อมูล)
- ไม่มีการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับสิทธิ์
คุณสมบัติที่คาด ของผู้ได้รับสิทธิ์ แจกเงินดิจิทัล 10,000 เฟส 3
- ลงทะเบียน และยืนยันตัวตนแอปฯ ทางรัฐ
- ประชากรที่มีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน
- สัญชาติไทย
- อายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (ก่อนวันที่ 16 กันยายน 2567)
- ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาท (สำหรับปีภาษี 2566)
- ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันเกิน 500,000 บาท (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567)
- ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ
- ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ
- ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ
กลุ่มไม่มีสมาร์ตโฟน
- จะมีความชัดเจนเรื่องไทม์ไลน์และขั้นตอนภายใน 2 สัปดาห์นี้
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้
วันที่ 28 มกราคม 2568 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการ เงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 โดยมีรายละเอียดสำคัญ ดังนี้
ไทม์ไลน์ ดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 10,000 เฟส 3
- เดินหน้าช่วงไตรมาส 2 (เมษายน - มิถุนายน 2568)
- จ่ายผ่านแอปฯ แจกเงินดิจิทัล และ สมาร์ตคอนแทกต์ (ใช้เป็นระบบจ่ายเงินในวอลเล็ตแบบใหม่ มีบล็อกเชนเป็นฐานข้อมูล)
- ไม่มีการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับสิทธิ์
คุณสมบัติที่คาด ของผู้ได้รับสิทธิ์ แจกเงินดิจิทัล 10,000 เฟส 3
- ลงทะเบียน และยืนยันตัวตนแอปฯ ทางรัฐ
- ประชากรที่มีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน
- สัญชาติไทย
- อายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (ก่อนวันที่ 16 กันยายน 2567)
- ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาท (สำหรับปีภาษี 2566)
- ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันเกิน 500,000 บาท (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567)
- ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ
- ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ
- ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ
กลุ่มไม่มีสมาร์ตโฟน
- คาดมีจำนวนไม่เกิน 1 ล้านคน ส่วนมากน่าจะอยู่ในกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้