คลัง แนะประชาชนที่เตรียมรับสิทธิ เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ลงทะเบียนยืนยันตัวตนล่วงหน้าผ่านแอปฯ ทางรัฐ ทำยังไงบ้าง ดูเลยที่นี่
วันที่ 5 กรกฎาคม 2567 เดลินิวส์ รายงานว่า นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าโครงการ เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท โดยแนะนำให้ประชาชน ที่มีคุณสมบัติและสนใจลงทะเบียนเข้าร่วมลงโครงการ สามารถเข้ามาทยอยยืนยันตัวตนด้วยระบบ KYC ได้ล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน ทางรัฐ เพื่อเป็นการทยอยนำข้อมูลการยืนยันตัวตนเข้าสู่ระบบ และป้องกันการกระจุกตัวของการยืนยันตัวตน หลังระบบมีการเปิดลงทะเบียน
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ คลังยังไม่ได้เปิดลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต อย่างเป็นทางการ เพียงแต่แจ้งว่า ใครที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถไปยืนยันตัวตนล่วงหน้า ผ่านระบบแอปฯ ทางรัฐก่อน เพราะจะใช้ข้อมูลการยืนยันตัวตนนี้ มาประกอบการกับการลงทะเบียนรับสิทธิ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีคนเข้ายืนยันตัวตนล่วงหน้าได้ประมาณ 10-15 ล้านคน ขณะที่ปัจจุบันมีคนที่เข้ามายืนยันตัวตนผ่านแอปฯ ทางรัฐแล้วหลายล้านคน
ขั้นตอนการลงทะเบียนแอปฯ ทางรัฐ
1. ดาวน์โหลดแอปฯ ทางรัฐ
- ระบบ iOS ดาวน์โหลด ที่นี่
2. ลงทะเบียนใช้งานด้วยการสมัครสมาชิก
- เตรียมบัตรประชาชนเพื่อสมัครสมาชิกและลงทะเบียนใช้งาน โดยการสแกนหน้าบัตรประชาชน พร้อมสแกนใบหน้าของตัวเองเพื่อยืนยันตัวตน ตามขั้นตอนด้านล่างนี้
วิธียืนยันตัวตน แอปฯ ทางรัฐ
ในการลงทะเบียนใช้งานแอปฯ ทางรัฐ สามารถยืนยันตัวตนได้ ดังนี้
ระดับที่ 1 การยืนยันตัวผ่านการถ่ายบัตรประชาชนลงในแอปพลิเคชัน
ในการยืนยันตัวตนนี้จะสามารถใช้บริการตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐได้ทันที ซึ่งขั้นตอนนี้ง่ายมาก เพียงถ่ายรูปบัตรประชาชน และถ่ายภาพหน้าตรงตามขั้นตอนที่ระบุในแอปพลิเคชัน ก็สามารถเข้าใช้งานบริการได้เลย
ระดับที่ 2 การยืนยันตัวตนผ่านทางจุดให้บริการยืนยันตัวตน
สำหรับในบางบริการที่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องพิสูจน์ตัวตนเพิ่มเติม อย่างเช่น การตรวจสอบเครดิตบูโร ทางแอปพลิเคชัน จะต้องขอยกระดับการพิสูจน์ตัวตนเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการยืนยันว่าเจ้าของบัตรประชาชนกับผู้ที่ยืนยันตัวตนเป็นคนเดียวกัน
ในระดับนี้ สามารถยืนยันตัวตนได้ 5 ระดับ ดังนี้
- ตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐ : จะเป็นตู้คีออส ที่ให้บริการทั้งด้านข้อมูลและการลงทะเบียนต่าง ๆ ซึ่งตู้นี้จะสามารถใช้ในการยืนยันตัวตนกับแอปพลิเคชัน ทางรัฐ ได้ โดยจะต้องเตรียมบัตรประชาชนและโทรศัพท์มือถือเพื่อดำเนินการยืนยันตัวตน เมื่อได้ยืนยันตัวตนตามขั้นตอนที่แจ้งผ่านตู้แล้ว จะได้รับ QR Code เพื่อสแกนใช้งานแอปพลิเคชันทางรัฐ ถือว่าการยืนยันเสร็จเรียบร้อยภายในเวลาแปบเดียว
สำหรับวิธีการยืนยันตัวตนผ่านตู้บริการเอนกประสงค์ของภาครัฐ ทำได้โดยการเตรียมบัตรประชาชนให้พร้อม จากนั้นเสียบบัตรเข้าไปที่ตู้บริการ เลือกเมนูเปิดใช้งาน “ทางรัฐ” แล้วทำตามวิธีบนหน้าจอ เท่านั้นก็สามารถยืนยันตัวได้เรียบร้อย
- แอปพลิเคชัน D.DOPA : แอปพลิเคชันจากกรมการปกครอง ที่พัฒนาขึ้นเพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล ในชื่อว่า D.DOPA ก็เป็นอีกช่องทางที่สามารถยืนยันตัวได้ง่ายๆ นอกจากจะใช้ยืนยันตัวตนกับแอปฯ ทางรัฐแล้ว แอปนี้ยังสามารถจองคิวใช้บริการกับทางภาครัฐอย่างสำนักทะเบียนอำเภอ หรือสำนักทะเบียนท้องถิ่นทั่วประเทศได้อีกด้วย
สำหรับการยืนยันตัวตนแอปทางรัฐด้วย D.DOPA หากคุณเคยลงทะเบียนใช้บริการกับทางแอปฯ D.DOPA ก็สามารถลงทะเบียน “ทางรัฐ” ด้วยการกดที่ปุ่ม “เข้าสู่ระบบด้วย D.DOPA” ได้เลย
- ตู้บุญเติม : วิธีการยืนยันตัวตนผ่านตู้บุญเติม เพียงแค่เตรียมบัตรประชาชนและโทรศัพท์มือถือให้พร้อม จากนั้นเลือกเมนู “ทางรัฐ” บนหน้าจอ ตู้ก็จะแนะนำให้เสียบบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตน และระบบจะส่ง SMS เพื่อดำเนินการต่อในแอปพลิเคชันทางรัฐได้ทันที
- ไปรษณีย์ไทยทุกสาขา : เราสามารถยืนยันตัวตนได้ผ่านที่ทำการไปรษณีย์ไทยทุกสาขา โดยเตรียมบัตรประชาชนและโทรศัพท์มือถือ และแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์ได้เลยว่าต้องการยืนยันตัวตนแอปพลิเคชันทางรัฐ หลังจากนั้นจะได้รับ SMS ที่ส่งลิงก์เพื่อให้ดำเนินการต่อทางแอปฯ เท่านี้ก็ดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อยทันที สะดวกแบบสุดๆ
- เคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-Eleven : ช่องทางใหม่ที่เพิ่งเปิดให้ยืนยันตัวตน ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-11 ที่มีกว่า 13,000 สาขาทั่วประเทศ ก็สามารถยืนยันตัวตนแอปฯ ทางรัฐได้ เพียงกดที่เมนู “ยืนยันตัวตนที่ 7-Eleven” ระบบจะให้เราระบุเลขบัตรประชาชน และ หมายเลขโทรศัพท์ เพื่อสร้างเป็น QR Code จากนั้นแจ้งกับพนักงานที่สาขาว่าต้องการยืนยันตัวตนแอปฯ “ทางรัฐ” พนักงานก็จะสแกน QR Code ซึ่งระบบจะส่ง SMS เพื่อให้เรายืนยันตัวตนผ่านทางแอปฯ “ทางรัฐ” เท่านี้การยืนยันตัวตนก็เสร็จเรียบร้อย
วันลงทะเบียนรับสิทธิโครงการ
- จะมีการจัดงานแถลงที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะเริ่มให้ลงทะเบียนวันไหน เมื่อไร
ผู้ที่จะได้รับสิทธิตามโครงการนี้
- ต้องเป็นคนไทยที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป
- มีเงินได้ไม่เกินปีละ 8.4 แสนบาท ไม่มีเงินฝากทุกบัญชีเกิน 5 แสนบาท
การใช้งานดิจิทัลวอลเล็ต
- สามารถใช้จ่ายเงินดังกล่าวภายในเขตอำเภอ ตามบัตรประชาชนของตนเอง
- ร้านค้าที่สามารถซื้อได้ จะเป็นร้านค้าขนาดเล็ก ตั้งแต่ร้านสะดวกซื้อลงมา
- ร้านค้าที่ได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต จะสามารถนำไปใช้จ่ายนอกเขตอำเภอของตนเองได้ หรือใช้จ่ายที่ใดก็ได้
- สินค้าที่ซื้อได้นั้น จะต้องไม่เป็นด้านบริการ หรือสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอบายมุข
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์