ผ่อนบ้านมาหลายปี ทำไมเงินต้นลดเพียงน้อยนิด ?
ประเด็นนี้ไม่ใช่เรื่องดราม่าแต่อย่างใด โดยต้องทำความเข้าใจก่อนว่า แคมเปญสินเชื่อบ้านของธนาคารต่าง ๆ มักจัดโปรโมชันดอกเบี้ยต่ำหรือดอกเบี้ยแบบคงที่ในช่วง 1-3 ปีแรก เพื่อให้ผู้ที่เพิ่งเริ่มผ่อนบ้านจ่ายไหว ไม่เป็นภาระจนเกินไป แต่เมื่อพ้นโปรโมชันตั้งแต่ปีที่ 4-5 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านของธนาคารจะปรับเป็นแบบลอยตัวตาม MRR ณ เวลานั้น ดังนั้นเงินงวดที่จ่ายไปทุกเดือนจะถูกคิดเป็นส่วนของดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าปกติผ่อนเดือนละ 10,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ก็จะถูกตัดเป็นดอกเบี้ยประมาณ 3,000 บาท และเป็นเงินต้นประมาณ 7,000 บาท ในทางกลับกัน เมื่อดอกเบี้ยปรับขึ้นเป็น 7% ต่อปี ส่วนของดอกเบี้ยจะกลายเป็น 7,000 บาท และเหลือส่วนของเงินต้น 3,000 บาท
จะเห็นว่ายิ่งดอกเบี้ยบ้านปรับเพิ่มสูงขึ้น เงินที่ผ่อนชำระก็จะถูกตัดเป็นส่วนของดอกเบี้ยมากขึ้น จึงเหลือส่วนของเงินต้นน้อยลง ฉะนั้นหากเรามีเป้าหมายที่จะปิดหนี้บ้านโดยเร็ว ควรรู้จัก 6 เทคนิคที่จะช่วยลดเงินต้นและลดดอกเบี้ยบ้าน
6 เทคนิคผ่อนบ้านให้หมดไว
จ่ายดอกเบี้ยน้อยลง
1. ผ่อนให้เกินค่างวดทุกเดือน
หลายคนไม่ทราบว่ายอดผ่อนชำระต่อเดือนที่ธนาคารคำนวณมาให้เป็นเพียงตัวเลขขั้นต่ำเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงเราสามารถผ่อนเพิ่มจากปกติได้เลย แม้จะเป็นจำนวนน้อย ๆ อย่าง 500-1,000 บาท หรือมากกว่านั้นก็ทำได้ ขอแค่ผ่อนให้เกินขั้นต่ำบ้างก็จะช่วยลดระยะเวลาการกู้และปิดหนี้บ้านได้เร็วขึ้น
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะสินเชื่อบ้านคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก หมายความว่า ยิ่งจ่ายเงินงวดเยอะเท่าไหร่ เงินส่วนเกินจะถูกนำไปหักออกจากเงินต้นมากขึ้น และเมื่อเงินต้นลดลง ตัวเลขที่นำมาคำนวณดอกเบี้ยในงวดถัดไปก็จะน้อยลงไปเรื่อย ๆ หากลองคำนวณดูดี ๆ จะพบว่า การจ่ายค่างวดเพิ่มอีก 1 เท่าทุกเดือนนั้นช่วยให้ผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้นได้เป็น 10 ปี
2. ผ่อนให้มากขึ้นในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยต่ำหรือคงที่
3. มีเงินก้อนให้รีบโปะเพิ่ม
ต้นปีได้โบนัส ตรุษจีนได้อั่งเปา กลางปีมีรายได้พิเศษเข้ามา อย่ารอช้า ! ควรแบ่งสันปันส่วนเงินสักก้อนออกมาโปะบ้านทันทีที่มีโอกาส จะโปะเวลาไหนของปีก็ได้ เงินก้อนนี้จะถูกนำไปหักออกจากเงินต้น หนี้จะได้หมดไว ภาระดอกเบี้ยก็จะลดลง
ที่สำคัญก็คือ เมื่อต้องการโปะเงินเพิ่มรายเดือนหรือโปะเป็นเงินก้อนก็อย่าลืมแจ้งธนาคารด้วยว่าต้องการชำระหนี้บ้านเพิ่มเติมเพื่อตัดเงินต้น เนื่องจากถ้าธนาคารไม่ทราบความประสงค์ก็จะหักชำระเท่าเดิม
4. รีเทนชั่น (Retention) กับธนาคารเดิม
เมื่อผ่อนบ้านครบ 3 ปีจนพ้นช่วงโปรโมชันก็จะเข้าสู่ภาวะดอกเบี้ยลอยตัว ทำให้เงินงวดที่จ่ายไปทุกเดือนจะถูกตัดเป็นส่วนของดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น ทางหนึ่งที่แก้ปัญหาได้ก็คือ การเข้าไปเจรจาขอลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กับธนาคารเดิม หรือรีเทนชั่น (Retention) เพื่อให้ดอกเบี้ยถูกลง
วิธีนี้ผู้กู้สามารถติดต่อดำเนินการได้ง่าย ไม่ต้องเสียเวลาเตรียมเอกสารใหม่ทั้งหมด และใช้ระยะเวลาอนุมัติรวดเร็วหากเป็นลูกหนี้ที่มีประวัติดี เพราะธนาคารมีข้อมูลของเราอยู่แล้ว อีกทั้งจ่ายค่าธรรมเนียมไม่แพง ส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 1-2% ของวงเงินสินเชื่อเท่านั้น
5. รีไฟแนนซ์ (Refinance) กับธนาคารแห่งใหม่
การรีไฟแนนซ์ (Refinance) คือ การย้ายหนี้บ้านจากธนาคารเดิมไปธนาคารใหม่ที่มีดอกเบี้ยถูกกว่า เพราะหากยังผ่อนกับธนาคารเดิมที่คิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัว เราจะต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงขึ้นกว่าในช่วง 3 ปีแรก แต่ถ้าเปลี่ยนไปขอสินเชื่อบ้านจากธนาคารอื่นที่มีโปรโมชันดอกเบี้ยถูกกว่าเอามาโปะหนี้เดิม แล้วไปผ่อนกับธนาคารใหม่แทน ก็จะยังคงผ่อนในอัตราดอกเบี้ยต่ำเช่นเดิม เงินต้นก็จะลดลงได้เร็วขึ้น ประหยัดดอกเบี้ยได้หลายพันบาทต่อเดือน
ทั้งนี้ ผู้กู้สามารถขอรีไฟแนนซ์ได้ทุก ๆ 3 ปี หรือตามสัญญาที่ธนาคารเดิมกำหนด โดยต้องเตรียมเอกสารประกอบการขอสินเชื่อใหม่ทั้งหมดทุกครั้งที่ขอรีไฟแนนซ์ รวมทั้งต้องเสียค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการยื่นกู้ จึงควรพิจารณาเปรียบเทียบให้ดี เพื่อเลือกสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ที่คุ้มค่าที่สุด