รู้เท่าทันมิจฉาชีพ ป้องกันการถูกหลอกให้โอนเงิน ด้วยวิธีการตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์แปลก พร้อมสิ่งที่ต้องทำหากพลาดถูกหลอกโอนเงินไปแล้ว

นับว่าเป็นสิ่งที่ก่อกวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในยุคปัจจุบันไม่น้อยเลยกับปัญหาเบอร์โทรศัพท์แปลก ๆ ที่อาจเป็นสายจากกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อโทรศัพท์เข้ามาหลอกลวงให้โอนเงินด้วยกลอุบายต่าง ๆ และมีผู้ที่หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก โดยจากรายงานสถิติการหลอกลวงทางออนไลน์ของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พบว่ามีคนไทยถูกหลอกโอนเงินมากถึง 2.9 แสนคดี ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา และมักเป็นการหลอกขายสินค้ามากที่สุด รองลงมาเป็นการหลอกให้โอนเงิน, กู้เงินออนไลน์, ลงทุน และการข่มขู่ ในวันนี้เราจึงจะมาช่วยแนะนำวิธีตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์แปลก แบบง่าย ๆ จะได้รู้ทันไม่ถูกหลอกโกงและดูดเงิน หากเบอร์ที่โทรศัพท์เข้ามานั้นเป็นมิจฉาชีพ
5 วิธีตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์แปลก
ป้องกันตัวไว้ รู้ทันมิจฉาชีพ
ในการเช็กเบอร์แปลกที่โทรศัพท์เข้ามานั้นสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาผ่านเว็บไซต์หรือใช้แอปฯ ต่าง ๆ ซึ่งแนะนำให้ใช้หลายวิธีควบคู่กันเพื่อความแม่นยำในการตรวจสอบ
1. ค้นหาใน Google
นำเบอร์โทรศัพท์ไปค้นหาใน Google เพื่อตรวจสอบประวัติของเบอร์ดังกล่าว ซึ่งอาจเจอข้อมูลจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่สามารถบ่งบอกได้ว่าเป็นเบอร์ของใคร ใช่มิจฉาชีพหรือไม่
2. ค้นหาใน Facebook
นอกจากการค้นหาใน Google แล้วยังสามารถนำเบอร์โทรศัพท์ไปค้นหาในแพลตฟอร์มโซเชียลอย่าง Facebook ได้เช่นกัน โดยถ้าหากเบอร์ดังกล่าวได้มีการผูกกับบัญชี Facebook และตั้งค่าให้แสดงเบอร์โทรศัพท์แบบสาธารณะไว้ หรือมีการลงเบอร์โทรศัพท์ไว้ในโพสต์ใด ก็จะสามารถตรวจสอบที่มาของเบอร์นั้น ๆ ได้
3. ค้นหาใน LINE
เปิดแอปฯ LINE แล้วเข้าไปที่เมนูเพิ่มเพื่อน จากนั้นเลือกค้นหาด้วยเบอร์โทรศัพท์ กรอกเบอร์ที่สงสัยลงไปแล้วกดค้นหา ซึ่งถ้าหากเป็นเบอร์ที่ได้ผูกกับบัญชี LINE ไว้ก็จะมีการแสดงชื่อบัญชี LINE นั้น ๆ ขึ้นมาให้รู้ว่าเป็นใคร
4. ใช้แอปฯ สแกนเช็กเบอร์แปลก
แอปฯ สแกนเช็กเบอร์แปลกอย่างเช่น Whoscall เป็นแอปฯ ที่จะช่วยแจ้งให้ทราบทันทีก่อนที่จะรับสายว่าเบอร์แปลกที่โทรศัพท์เข้ามานั้นเป็นเบอร์จากไหน โดยอ้างอิงจากฐานข้อมูลที่ผู้ใช้แอปฯ Whoscall ร่วมกันรายงาน ซึ่งหากเบอร์ดังกล่าวถูกรายงานว่าเป็นเบอร์ของมิจฉาชีพหรือเบอร์ก่อกวนก็จะสามารถรู้ได้ทันที โดยสามารถดาวน์โหลดแอปฯ มาติดตั้งได้ทั้งบนโทรศัพท์มือถือ Android และ iPhone

ภาพจาก whoscall.com
5. เช็กเบอร์แปลกในเว็บไซต์ฉลาดโอน
ฉลาดโอนเป็นเว็บไซต์ที่เกิดจากความร่วมมือของกองกำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 8 และอาสาสมัครภาคประชาชนทีมงานฉลาดโอน ให้ประชาชนสามารถใช้ในการตรวจสอบข้อมูลก่อนการโอนเงินได้ว่าเป็นของมิจฉาชีพหรือไม่ โดยสามารถตรวจสอบได้ทั้งจากชื่อบัญชี เลขที่บัญชีธนาคาร รวมทั้งเบอร์โทรศัพท์และ SMS หลอกลวงต่าง ๆ
นอกจากนี้ถ้าหากใครอยากได้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลลวงและการเช็กเบอร์ของมิจฉาชีพ ก็สามารถเข้าไปอ่านบทความดี ๆ ที่กรุงศรีเพลินเพลินกันต่อได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลย
ถ้าพลาดถูกหลอกโอนเงินไปแล้ว
ต้องทําอย่างไร
เมื่อรู้ตัวว่าพลาดท่าถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินแล้ว ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. ติดต่อธนาคารเพื่ออายัดบัญชีปลายทาง
ติดต่อธนาคาร หรือสถาบันการเงิน เพื่อระงับการโอนและถอนเงิน โดยสามารถขอให้ธนาคารอายัดบัญชีปลายทางของมิจฉาชีพได้ทันทีเป็นการชั่วคราว (มีระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน) ซึ่งสามารถโทรศัพท์ติดต่อได้ที่เบอร์คอลเซ็นเตอร์-สายด่วนของธนาคาร
2. เตรียมเอกสารและหลักฐานสำหรับใช้แจ้งความ
รวบรวมหลักฐานและข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับคดี พร้อมทั้งเตรียมเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในการเข้าแจ้งความ ดังนี้
- บัตรประชาชนของผู้เสียหาย
- หลักฐานการโอนเงิน เช่น สลิปโอนเงิน สำเนาสมุดบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย
- หลักฐานในการติดต่อ เช่น บันทึกเสียงหรือแคปหน้าจอข้อความแชต
- หน้าประกาศหรือข้อความโฆษณาของมิจฉาชีพที่ใช้ในการหลอกลวง
- ข้อมูลต่าง ๆ ของมิจฉาชีพ เช่น ชื่อและเลขบัญชีธนาคาร เบอร์โทรศัพท์
- หลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

3. แจ้งความเพื่อดำเนินคดี
เข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจในท้องที่ที่เกิดเหตุภายใน 72 ชั่วโมง โดยแจ้งความประสงค์ว่าขอแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย (ไม่ใช่เพียงแค่ขอลงบันทึกประจำวัน) พร้อมทั้งให้ปากคำถึงรายละเอียดพฤติการณ์ในคดี หรือเข้าไปแจ้งความที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ thaipoliceonline.com โดยลงทะเบียนและกรอกข้อมูลพร้อมแนบหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับคดี ซึ่งเรื่องจะถูกส่งไปยังสถานีตำรวจที่ผู้แจ้งความสะดวกในการเดินทางไปแจ้งความ จากนั้นพนักงานสอบสวนจะโทรศัพท์เพื่อนัดหมายให้ไปสอบปากคำและดำเนินการต่าง ๆ ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
รวมเบอร์ธนาคาร
สำหรับโทรศัพท์แจ้งอายัดบัญชีมิจฉาชีพ
ปัจจุบันธนาคารต่าง ๆ ได้เปิดเบอร์สายด่วนเพื่อรับแจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพ ซึ่งสามารถโทรศัพท์สอบถามและแจ้งเหตุได้ตลอด 24 ชั่วโมง ดังต่อไปนี้
- ธนาคารกสิกรไทย โทร. 0-2888-8888 กด 001
- ธนาคารกรุงไทย โทร. 0-2111-1111 กด 108
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา โทร. 1572 กด 5
- ธนาคารกรุงเทพ โทร. 1333 หรือ 0-2645-5555 กด 33
- ธนาคารไทยพาณิชย์ โทร. 0-2777-7575
- ธนาคารทหารไทยธนชาต โทร. 1428 กด 03
- ธนาคารออมสิน โทร. 1115 กด 6
- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย โทร. 0-2626-7777 กด 00
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โทร. 0-2555-0555 กด *3
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์ โทร. 0-2645-9000 กด 33
- ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ โทร. 0-2359-0000 กด 8
- ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย โทร. 0-2697-5454
- ธนาคารยูโอบีและธนาคารซิตี้แบงก์ โทร. 0-2344-9555
- ธนาคารเกียรตินาคินภัทร โทร. 0-2165-5555 กด 6
- ธนาคารทิสโก้ โทร. 0-2633-6000 กด *7
- ธนาคารไอซีบีซี ไทย โทร. 0-2629-5588 กด 4
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โทร. 1302 กด 6
- ทรูมันนี่ โทร. 1240 กด 6
- ทูซีทูพี (ประเทศไทย) โทร. 0-2026-3000 กด 0
- แอดวานซ์ เอ็มเปย์ โทร. 0-2078-9299 กด 1
- ไทยไมโคร ดิจิทัล โซลูชั่นส์ โทร. 0-2697-5353 กด 0
- แมกซ์ การ์ด โทร. 1614 กด 4
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมิจฉาชีพมักจะรีบเบิกเงินออกมา หรือโอนเงินต่อไปยังบัญชีม้า ทำให้โอกาสที่จะได้เงินคืนนั้นเป็นไปได้ค่อนข้างยาก นอกเสียจากว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถจับกุมมิจฉาชีพได้ก็ยังพอมีโอกาสที่จะได้เงินคืน เพราะฉะนั้นการรู้เท่าทันมิจฉาชีพด้วยการตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์แปลก ให้ดีก่อนจะโอนเงินทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกหลอกตั้งแต่ต้นจะดีที่สุด