
บัตรคนจนใช้ได้ถึงเดือนไหน
บัตรคนจนได้อะไรบ้าง
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567

1. วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค 300 บาท/เดือน
จะได้รับเงิน 300 บาท/เดือน โดยไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ แต่ใช้สำหรับซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม จากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ และยืนยันตัวตนผ่านแล้ว2. วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาท/เดือน
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้) สามารถใช้บริการรถโดยสารสาธารณะดังต่อไปนี้ ในวงเงินรวม 750 บาท/เดือน
-
รถเมล์ ขสมก.
-
รถบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)
-
รถไฟฟ้า BTS, MRT และ Airport Rail Link
-
รถไฟ
3. วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาท/3 เดือน
ใช้เป็นส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าที่กระทรวงพลังงานกำหนด
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้)วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567

เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย 100-600 บาท
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ยังไม่ได้รับเงินสงเคราะห์ฯ จำนวน 100 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 6 เดือน (ตั้งแต่เดือนเมษายน-กันยายน 2566) ทางกรมบัญชีกลางจะโอนเงินให้ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 โดยถือเป็นการโอนครั้งสุดท้ายของปีงบประมาณ 2566
ทั้งนี้ ผู้สูงอายุที่จะได้รับเงินดังกล่าวต้องเกิดก่อนวันที่ 1 กันยายน 2506 และต้องยืนยันตัวตนภายในวันที่ 26 มกราคม 2567 โดยผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก กรมบัญชีกลาง The Comptroller General’s Department
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567
เงินช่วยเหลือผู้พิการ 200 บาท

ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป มีบัตรประจำตัวผู้พิการ และได้รับสิทธิสวัสดิการรอบใหม่ โดยจะแบ่งจ่ายดังนี้
-
จำนวน 800 บาท โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ทุกวันที่ 10 ของเดือน
-
เงินเพิ่มเติมอีก 200 บาท โอนให้ทุกวันที่ 20 ของเดือน เข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก (หากวันที่ 20 ตรงกับวันหยุดราชการ จะโอนเงินให้ก่อน 1 วัน)
วิธีตรวจสอบสิทธิสวัสดิการรัฐ-สวัสดิการสังคมทางออนไลน์ เช็กง่ายจากบัตรประชาชน
สวัสดิการค่าไฟฟรีและค่าน้ำฟรี
ค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาท/เดือน/ครัวเรือน

ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ลงทะเบียนขอรับสิทธิจากการไฟฟ้าแล้ว และใช้ไฟฟ้าตามเกณฑ์ที่กำหนด ดังนี้
-
ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วย/เดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน จะได้รับสิทธิค่าไฟฟ้าฟรีตามมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบัน
-
ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย/เดือน แต่ไม่เกิน 315 บาท จะได้รับการสนับสนุนค่าไฟฟ้าในวงเงินไม่เกิน 315 บาท/ครัวเรือน/เดือน
วิธีลงทะเบียน
-
ผู้ใช้ไฟฟ้าใน กทม., สมุทรปราการ, นนทบุรี ลงทะเบียนที่การไฟฟ้านครหลวง
- ผู้ใช้ไฟฟ้าในต่างจังหวัด ลงทะเบียนที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาท/เดือน/ครัวเรือน

ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ลงทะเบียนขอรับสิทธิจากการประปาแล้ว และใช้ประปาตามเกณฑ์ที่กำหนด ดังนี้
-
หากใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท จะได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท โดยส่วนเกินต้องชำระเอง
-
หากใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าประปาเองทั้งหมด
วิธีลงทะเบียน
-
ผู้ใช้ประปาใน กทม., สมุทรปราการ, นนทบุรี ลงทะเบียนที่การประปานครหลวง
- ผู้ใช้ประปาในต่างจังหวัด ลงทะเบียนที่การประปาส่วนภูมิภาค
หมายเหตุ :
-
ใช้สิทธิได้เพียง 1 ครัวเรือน ต่อ 1 สิทธิ ต่อ 1 รหัสประจำบ้าน
-
ลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้าและค่าประปาได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน

บทความที่เกี่ยวข้องกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก กรมบัญชีกลาง The Comptroller General’s Department
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมบัญชีกลาง, Youtube MOF Channel, เฟซบุ๊ก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค PEA, เฟซบุ๊ก การไฟฟ้านครหลวง MEA