ลูกหนี้ กยศ. 3.8 ล้านคน เตรียมเฮ จ่อถกคำนวณหนี้ตามกฎหมายใหม่ มีผลย้อนหลัง หนี้ลดกว่า 50% ลุ้นหมดหนี้ ชำระแล้วอาจได้คืน
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 ฐานเศรษฐกิจ รายงานว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย เปิดเผยว่า คณะกรรมการเตรียมนัดหารือแนวทางการแก้ปัญหาหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ซึ่งจะมีการคำนวณภาระหนี้ของลูกหนี้ใหม่ลดลงจากเดิม เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 ซึ่งมีผลบังคับเมื่อเดือนมีนาคม 2566
ผลดีของการคำนวณหนี้แบบใหม่ ลูกหนี้ได้ประโยชน์ จากหลักแสนอาจเหลือไม่กี่บาท
- ถ้าคำนวณตามภาระเดิมอาจจะมีหนี้หลักแสนบาท แต่ถ้าคำนวณใหม่หนี้อาจจะเหลือไม่กี่บาทหรืออาจจะหมดไปแล้ว และน่าจะทำให้มูลหนี้ลดลงกว่าครึ่งด้วย
- ตาม พ.ร.บ. ฉบับใหม่ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการคิดอัตราดอกเบี้ยของผู้กู้ต่ำกว่าเดิม พร้อมทั้งให้คำนวณย้อนหลังได้ ซึ่งจะทำให้ลูกหนี้ กยศ. ได้ประโยชน์มากขึ้น
- คนที่ได้ประโยชน์จะเป็นเฉพาะคนที่มีบัญชีหนี้กับ กยศ. อยู่เท่านั้น โดยมีลูกหนี้ กยศ. 3.8 ล้านคน รวมทั้งผู้ค้ำประกัน 2.4 ล้านคน ซึ่งมีมูลหนี้ประมาณ 1 ล้านล้านบาท
- ลูกหนี้บางคนที่มียอดหนี้อยู่ หากคำนวณแล้วมีการจ่ายเงินเกินมาก็อาจได้รับเงินคืนด้วย
ซึ่งแนวทางทั้งหมดจะเสนอให้กับคณะกรรมการร่วมกันพิจารณา
สำหรับ พ.ร.บ.กยศ. ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 เป็นต้นมา มีสาระสำคัญคือ กำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไม่เกิน 1% ต่อปี กรณีผิดนัดชำระลดอัตราเบี้ยปรับเหลือไม่เกิน 0.5% ต่อปี และไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันในทุกกรณี พร้อมทั้งลำดับการตัดชำระหนี้ใหม่ ซึ่งกำหนดให้นำเงินที่ผู้กู้ยืมเงินชำระไปหักต้นเงินเฉพาะส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ยหรือประโยชน์อื่นใด และเงินเพิ่ม ตามลำดับ ปัจจุบันกองทุนอยู่ระหว่างปรับปรุงระบบการตัดชําระหนี้เพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ เมื่อระบบเสร็จสมบูรณ์แล้ว กองทุนจะนำยอดรับชำระเงินทุกรายการตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 มาคำนวณการรับชำระใหม่อีกครั้งและปรับข้อมูลให้ถูกต้อง โดยจะนำเงินที่ได้รับมาหักต้นเงินเฉพาะส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ยหรือประโยชน์อื่นใด และเงินเพิ่ม ตามลำดับ และจะคำนวณเบี้ยปรับใหม่ จากเดิม 7.5% เหลือเพียง 0.5% เท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก ฐานเศรษฐกิจ