เผย 1 ต.ค. 64 บุหรี่ยังไม่ขึ้นราคา สรรพสามิต เตรียมลงพื้นที่เช็กสต็อกบุหรี่ ป้องกันคนฉวยโอกาสขึ้นราคาทั้งที่เป็นล็อตเก่า คาดบุหรี่ล็อตเก่าจะหมดใน 2 สัปดาห์ แนะคนซื้อเช็กจากสแตมป์ว่าเป็นล็อตไหน หากเจอขายเกินราคาร้องเรียนได้เลย
อ่านข่าว : ประกาศขึ้นภาษีบุหรี่ เริ่ม 1 ต.ค. 64 พร้อมเผยเหตุผล ทำไมต้องขึ้นราคาบุหรี่ ?!
วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ไทยพีบีเอส รายงานว่า นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า กรมสรรพสามิต เตรียมลงพื้นที่ตรวจสต็อกบุหรี่ผู้ค้าปลีกและผู้ค้าส่งทั่วประเทศ พร้อมสั่งผู้ผลิตผู้นำเข้า รายงานโครงสร้างราคาบุหรี่ใหม่ ซึ่งคาดว่าบุหรี่ที่เสียภาษีโครงสร้างเก่าในตลาดจะขายหมดใน 2 สัปดาห์
ผู้บริโภคบุหรี่สามารถสแกนสแตมป์บุหรี่ เพื่อตรวจสอบว่าเป็นบุหรี่ที่เสียภาษีใหม่หรือไม่ หากพบการขายเกินราคา โดยอ้างว่าปรับขึ้นจากภาษีใหม่สามารถร้องเรียนเพื่อเอาผิดได้ ต้องระวางโทษปรับ 2 เท่า และเงินเพิ่มร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยราคาขายปลีกบุหรี่ ในกลุ่มราคาสูงจะเพิ่มขี้นซองละ 7-10 บาท ส่วนบุหรี่ตลาดรองจะเพิ่มขึ้นซองละ 5-7 บาท จากราคาปัจจุบัน
ทั้งนี้ ภาษีอัตราใหม่จะทำให้ผู้สูบบุหรี่ลดลงช่วงแรก 3% แต่ตลาดการค้าบุหรี่จะค่อย ๆ ปรับกลยุทธ์ ไม่กระทบการจัดเก็บรายได้ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 3,500 ล้านบาท จากปัจจุบันจัดเก็บภาษีบุหรี่ไม่รวมรายได้จากกองทุนฯ และมหาดไทย ไม่น้อยกว่าปีละ 62,000 ล้านบาท
ภาพจาก Ivan Semenovych / Shutterstock.com
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยังกำหนดให้ สสส. สนับสนุนความรู้การปลูกพืชทดแทน ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบอย่างเป็นรูปธรรม และเชื่อว่าการปรับกรอบราคาแนะนำ จากเดิม 60 บาท เป็น 72 บาท จะช่วยให้ผู้ผลิตและผู้นำเข้าบุหรี่สามารถแข่งขันราคาในตลาดได้ ไม่กระทบผู้ปลูกใบยาสูบมากเกินไป เมื่อเทียบจากเดิมที่โรงงานยาสูบ ไม่สามารถแข่งขันได้ หลังผู้นำเข้าบุหรี่กดราคาขายลงมานอกจากนี้ กรมสรรพสามิต จะติดตามผลกระทบจากการปรับโครงสร้างภาษีใหม่ เพื่อพิจารณาความเหมาะสม ก่อนปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ให้เป็นอัตราเดียว โดยจะพิจารณาประกาศใช้ในภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้นและกำลังซื้อกลับมาปกติ
ส่วนปัญหาบุหรี่หนีภาษีนั้น ตอนนี้มีการพัฒนาระบบวิเคราะห์ และตรวจจับเครือข่ายลักลอบนำเข้าบุหรี่ ดำเนินการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ และนับจากนี้จะไม่ใช่แค่การจับหน้าร้านค้ารายย่อย แต่เป็นขบวนการค้าล็อตใหญ่