รักษาโควิดที่บ้านแบบ Home Isolation หรืออยู่ใน Hospitel จะเบิกค่ารักษาพยาบาลหรือเงินชดเชยรายได้รายวันจากประกันสุขภาพ หรือประกันโควิดได้หรือไม่ ใครสงสัย มาหาคำตอบ
แม้ว่าโควิด 19 จะกลับมาระบาดอีกระลอกในช่วงต้นปี 2565 แต่สายพันธุ์โอมิครอนก็ไม่ได้ทำให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงมากนักเมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดลตา อีกทั้งคนจำนวนไม่น้อยฉีดวัคซีนโควิดครบ 2-3 เข็มแล้ว ดังนั้นคนส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อจึงมีอาการเล็กน้อย หรือแทบไม่มีอาการเลย และใช้วิธีรักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation) ศูนย์แยกกักในชุมชน (Community Isolation) หรืออาจจะอยู่ในโรงแรม หอพัก (Hotel Isolation) มีเพียงผู้ป่วยบางส่วนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือมีอาการหนักที่จะได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
คำถามก็คือ กรณีติดเชื้อโควิดแต่ไม่ได้นอนโรงพยาบาล เช่นนี้จะสามารถเคลมประกันโควิด หรือประกันสุขภาพทั่วไปได้หรือเปล่า มาไขข้อข้องใจกัน
รักษาโควิดที่บ้าน เบิกประกันได้ไหม

ประเด็นนี้มีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขที่สร้างความสับสนให้ผู้ติดเชื้ออยู่พอสมควร อย่างไรก็ตาม หลังจากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้หารือกับสมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ในเดือนมีนาคม 2565 จึงได้ข้อสรุปตรงกันว่า ให้บริษัทประกันอนุโลมจ่ายค่ารักษาพยาบาล และค่าชดเชยรายวัน กับผู้ป่วยโควิดที่รักษาตัวที่บ้าน รักษาตัวในชุมชน หรือรักษาตัวในโรงแรม-หอพัก ตามเงื่อนไขที่กำหนด และจะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 2 เดือน หลังจากนั้นทาง คปภ. จะติดตามพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะ ๆ ต่อไป

1. ค่ารักษาพยาบาล
- กรณีประกันมีความคุ้มครองแบบผู้ป่วยนอกอย่างเดียว : ให้ประกันจ่ายตามจริง แต่ไม่เกินวงเงินความคุ้มครองแบบผู้ป่วยนอก
- กรณีประกันมีความคุ้มครองแบบผู้ป่วยในอย่างเดียว : ให้ประกันจ่ายตามจริง แต่ไม่เกินวงเงินความคุ้มครองแบบผู้ป่วยใน และต้องไม่เกิน 12,000 บาท
- กรณีประกันมีความคุ้มครองทั้งแบบผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน : ให้ประกันจ่ายตามจริง แต่ไม่เกินวงเงินความคุ้มครองแบบผู้ป่วยนอก หากมีค่าใช้จ่ายที่เกินกว่าวงเงินความคุ้มครองแบบผู้ป่วยนอก ให้อนุโลมจ่ายค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่เกินวงเงินความคุ้มครองแบบผู้ป่วยใน และไม่เกิน 12,000 บาท
2. เงินชดเชยรายวัน หรือเงินชดเชยรายได้
โดยปกติเงินส่วนนี้จะได้รับเมื่อนอนพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในที่โรงพยาบาล แต่ในกรณีป่วยโควิด 19 ได้มีการอนุโลมให้คนที่รักษาตัวแบบ Home Isolation, Community Isolation หรือแบบ Hotel Isolation ได้รับค่าชดเชยรายวัน ตามเงื่อนไขคือ
1. ต้องมีผลตรวจว่าติดเชื้อโควิดโดยวิธี RT-PCR
2. เป็นผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงข้อใดข้อหนึ่งที่จะต้องเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยในในสถานพยาบาล แต่ไม่มีสถานพยาบาลรองรับ ได้แก่
- อายุมากกว่า 60 ปี
- โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) และโรคปอดเรื้อรังอื่น ๆ
- โรคไตเรื้อรัง (CKD)
- โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคหัวใจแต่กำเนิด
- โรคหลอดเลือดสมอง
- เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้
- ภาวะอ้วน (น้ำหนักมากกว่า 90 กก. หรือ BMI ตั้งแต่ 30 กก./ตร.ม. ขึ้นไป)
- ตับแข็ง
- ภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ และ lymphocyte น้อยกว่า 1,000 เซลล์/ลบ.มม.
3. ประกันโควิดเจอ จ่าย จบ
หากติดโควิดภายหลังระยะเวลารอคอย (Waiting Period) 14 วัน ไม่ว่าจะรักษาตัวแบบ Home Isolation, Community Isolation หรือ Hotel Isolation ถ้ามีหลักฐานตรวจพบเชื้อจริง เช่น ผลตรวจโควิดแบบ RT-PCR และใบรับรองแพทย์ บริษัทจะยังจ่ายเคลมประกันให้ตามจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย
ยกเว้นกรณีประกันโควิดเจอ จ่าย จบ ฉบับนั้นให้ความคุ้มครองทั้งเรื่องค่ารักษาพยาบาลและเงินชดเชยรายวันด้วย ตรงนี้ประกันต้องจ่ายเงินก้อนตามความคุ้มครองเจอ จ่าย จบ ให้ ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาลและเงินชดเชยรายวัน จะต้องพิจารณาตามเกณฑ์ที่กล่าวไปแล้วในข้อ 1. ค่ารักษาพยาบาล และข้อ 2. เงินชดเชยรายวัน

เอกสารหลัก ๆ ที่ใช้ในการเคลมประกัน ได้แก่
-
แบบฟอร์มเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของบริษัท)
-
ใบรับรองแพทย์ฉบับจริงหรือฉบับสำเนา / ผลวินิจฉัยของแพทย์จากสถานพยาบาล
-
ผลการตรวจที่ยืนยันการติดเชื้อโควิด 19 ด้วยวิธี rt pcr ที่ได้รับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือใบรายงานทางการแพทย์
-
ใบเสร็จรับเงินจากสถานพยาบาล และใบแจ้งรายการค่าใช้จ่าย (ถ้ามี)
-
สำเนาบัตรประชาชน
-
สำเนาสมุดบัญชีธนาคารหน้าแรกของผู้ทำประกัน
กรณีผู้ป่วยมีอาการโคม่าหรือเสียชีวิต จะต้องใช้เอกสารเพิ่มเติม ดังนี้
-
ประวัติการรักษาทั้งหมด
-
สำเนารายงานทางการแพทย์ที่วินิจฉัยภาวะโคม่า
-
สำเนาใบรับรองการเสียชีวิตของโรงพยาบาลหรือหน่วยงานราชการ
-
สำเนาใบมรณบัตร
-
สำเนาบัตรประชาชนของผู้รับผลประโยชน์
-
สำเนาสมุดบัญชีธนาคารหน้าแรก
บทความที่เกี่ยวกับประกันโควิด
* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 17 มีนาคม 2565
ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย, เฟซบุ๊ก PR OIC, กรมการแพทย์, Thai PBS, เรื่องเล่าเช้านี้