x close

วิธีเช็กทองแท้ได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ รู้ไว้จะได้ไม่โดนหลอก

รวมเทคนิคเช็กทองคำแท้ ดูทองปลอมด้วยวิธีง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง สังเกตไว้จะได้ไม่โดนหลอก  

ใคร ๆ ก็รู้ดีว่า ทองคำ เป็นสินทรัพย์ที่ราคาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนจึงนิยมซื้อทองทั้งแบบรูปพรรณและแบบแท่งสะสมไว้เพื่อเก็บเป็นทรัพย์สินหรือเก็งกำไร ในช่วงที่ราคาทองขึ้น ก็เอามาปล่อยขายได้กำไร หรือช่วงไหนที่ราคาทองลงก็ไปซื้อมาตุนไว้ แต่ก็แน่นอนว่าเมื่อมีเรื่องเงินทองก็ต้องมาคู่กับมิจฉาชีพ กลุ่มคนไม่หวังดีที่ฉวยโอกาสนำทองคำปลอมมาหลอกขายคนที่ไม่รู้หรือดูไม่เป็นจนเป็นข่าวอยู่บ่อย ๆ วันนี้เราจึงมีเทคนิคและวิธีง่าย ๆ ในการสังเกตทองคำว่า เป็นของแท้หรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพกันค่ะ 

วิธีเช็กทองแท้

ประเภทของทองคำ 

ก่อนจะไปดูวิธีเช็กว่า ทองแท้ ทองปลอม เรามาทำความรู้จักประเภทของทองคำกันก่อนดีกว่า แต่ละแบบเขาเรียกว่าอะไรกันบ้าง ดังนี้

ทองคำแท่ง (Gold Bar) คือ ทองคำเนื้อบริสุทธิ์ แต่ไม่ 100% เพราะต้องมีส่วนประกอบของแร่ธาตุอื่น ๆ เช่น เงิน ทองแดง เพื่อทำให้ทองคำนั้นแข็ง ขึ้นเป็นรูปทรงได้ ส่วนใหญ่จะเป็นแท่งหรือก้อนธรรมดา ไม่มีลวดลาย โดยมาตรฐานของไทยคือ 96.5% หรือมีทองคำบริสุทธิ์อยู่จริงๆ 96.5% ส่วนที่เหลืออีก 3.5% คือส่วนประกอบอื่น ๆ

ทองรูปพรรณ (Gold Ornament) หรือทองที่นำมาทำเป็นเครื่องประดับต่าง ๆ เช่น สร้อยคอ แหวน กำไลข้อมือ-ข้อเท้า มีน้ำหนัก รูปแบบ และลวดลายที่หลากหลายแตกต่างกันไป

เหรียญทองคำ (Gold Coin) ส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็ก น้ำหนักทองไม่มากเพียง 1-2 บาท นิยมมากในหมู่นักลงทุนต่างประเทศ แต่ในไทยอาจจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเท่าไรนัก 

ทองเค ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่า ทองประเภทนี้เป็นทองแท้หรือไม่ จริง ๆ แล้ว คำว่า เค (K) คือ หน่วยของทองที่มาจาก “กะรัต (Karat) ซึ่งเป็นคำเดียวกับหน่วยของเพชรแต่เขียนต่างกันนั่นเอง หมายความว่า ทองเคเป็นทองคำแท้ที่มีส่วนผสมของทองคำตามเปอร์เซ็นต์ที่ระบุไว้ เช่น ทอง 24K มีเนื้อทอง 99.99% และทองที่ขายกันอยู่ตามห้างร้านทองทั่วไป ส่วนใหญ่จะเป็นทอง 23K ซึ่งหมายถึงมีเนื้อทองคำอยู่ประมาณ 96.5%

ซึ่งส่วนใหญ่แล้วทองคำแท้มักจะมีสีเหลืองทอง มีเปอร์เซ็นต์ความบริสุทธิ์สูง แต่ทองบางประเภทที่เป็นที่นิยมเหมือนกัน ที่เรียกว่า ทองเปอร์เซ็นต์ต่ำ คือ มีความบริสุทธิ์ต่ำกว่ามาตรฐานและมีธาตุอื่น ๆ ผสมอยู่มากกว่า 3.5% โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้มีความแข็งแรง ทนทาน หรือมีสีสันต่าง ๆ เช่น ทองคำขาว ทองคำเขียว ทองคำชมพู ทองคำแดง ทองคำดำ ทองคำเทา ทองคำฟ้า หรือแม้กระทั่งทองสัมฤทธิ์หรือทองเหลือง ส่วนทองปลอม เช่น ทองชุบ ทองไมครอน หรือทองหุ้ม พูดง่าย ๆ ก็คือ สิ่งของที่ไม่มีส่วนผสมของทองอยู่เลย เป็นเพียงการชุบหรือเคลือบภายนอกให้ดูคล้ายทองเท่านั้น

วิธีเช็กทองแท้

วิธีเช็กทองแท้แบบง่าย ๆ 

ถ้าเราไปซื้อทองคำจากร้าน ก็มั่นใจได้ประมาณหนึ่งแล้วว่านั่นเป็นทองแท้แน่นอน เพราะจะมีรายละเอียดหรือใบรับประกันของทางร้านเสมอ แต่ถ้าเป็นทองที่ได้รับจากคนอื่น หรือได้เป็นของรางวัลจากเกมรายการชิงโชคต่าง ๆ ก็มีวิธีพิจารณาและตรวจสอบแบบง่าย ๆ ว่าเป็นทองแท้หรือไม่ ดังนี้

1. ดูโลโก้ร้านและเลขเปอร์เซ็นต์

ทองคำทุกชิ้นที่ผลิตออกมาร้านทองจะต้องประทับตราผู้ผลิตหรือยี่ห้อ และระบุเปอร์เซ็นต์เอาไว้ที่ตัวทองเสมอ เป็นไปตามมาตรฐานของสมาคมค้าทองคำ โดยจะปั๊มไว้ตรงบริเวณต่าง ๆ เช่น บนผิวหน้าของทองแท่ง บริเวณห่วงใกล้ตะขอของสร้อย ด้านในแหวน หรือด้านหลังต่างหู เป็นต้น อาจจะต้องใช้แว่นขยายหรือนำไปให้ที่ร้านทองเช็กให้

2. น้ำหนัก

โดยใช้เครื่องชั่งทองที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายสำหรับการค้า จะมีความแม่นยำและเชื่อถือได้ โดยหน่วยมาตรฐานที่เป็นสากลของสมาคมค้าทองคำ ได้กำหนดน้ำหนักของทองรูปพรรณ 96.5% เอาไว้ดังนี้ 

  • ทอง 1 สลึง หนักประมาณ 3.79-3.81 กรัม 

  • ทอง 2 สลึง หนักประมาณ 7.58-7.62 กรัม 

  • ทอง 1 บาท หนักประมาณ 15.16-15.24 กรัม 

  • ทอง 2 บาท หนักประมาณ 30.32-30.4 กรัม 

โดยถ้าเป็นทองปลอมก็จะมีน้ำหนักไม่ตรงตามข้อมูล แต่มิจฉาชีพก็สามารถทำให้มีน้ำหนักใกล้เคียงกับทองแท้ได้ จึงต้องพิจารณาจากข้ออื่น ๆ เพิ่มด้วย 

วิธีเช็กทองแท้

3. ใช้เล็บจิกหรือลองกัดที่เนื้อทอง

ทองคำแท้จะมีความอ่อนตัวสูง แค่ใช้เล็บจิกหรือกัดเบา ๆ ก็ยุบตัวหรือมีรอยบุ๋มแล้ว แต่วิธีนี้อาจจะทำให้ทองเสียรูปได้ แต่วิธีนี้อาจจะแยกได้ยากหากเป็นทองคำแท้กับทองคำเปอร์เซ็นต์ต่ำ ส่วนทองปลอมจะมีความแข็งมากกว่า จะจิกหรือกัดก็แทบไม่เข้าหรือไม่บุบเลย 

4. ใช้แม่เหล็ก

ลองนำแม่เหล็กไปวางใกล้ ๆ กับทองที่ต้องการจะเช็กดู หากเป็นทองคำบริสุทธิ์แท้ ๆ จะดูดไม่ติด แต่ถ้าเกิดขยับหรือถูกดูดจนติด แสดงว่าทองชิ้นนั้นสุ่มเสี่ยงที่จะถูกสอดไส้โลหะหรือเหล็กอื่น ๆ ไว้ด้านใน

5. ดูที่ขอบหรือรอยต่อของทอง

ทองคำแท้จะมีสีเหลืองทองตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะใช้ไปนานแค่ไหน เสียดสีกันเป็นเวลานานก็จะไม่มีรอยถลอก ลอกล่อน หรือเปลี่ยนสี แต่ถ้าเป็นทองปลอม เช่น ทองหุ้มหรือทองชุบ เมื่อเวลานานเข้าก็จะเห็นการลอกหรือแยกตัวของส่วนที่หุ้มอยู่ภายในจนสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าเลย 

6. ใช้ตะไบ

หากเป็นทองแท้ หรือทองเปอร์เซ็นต์ต่ำ จะสามารถตะไบเนื้อทองด้านนอกออกมาจนเห็นผิวข้างในได้ ถ้าเป็นทองคำแท้ ด้านในก็จะเป็นสีเหลืองของทองคำบริสุทธิ์ แต่ถ้าตะไบออกมาแล้วเห็นเป็นสีวัสดุอื่น ๆ ทำใจได้เลยค่ะว่า เป็นทองปลอม หรือทองชุบ มีข้อเสียคือ อาจจะทำให้เสียน้ำหนักทองได้ 

7. ทดสอบด้วยกรดและน้ำเกลือ

เป็นวิธีที่ต้องให้ร้านทองทำให้ เพราะต้องใช้กรดไนตริกเข้มข้น วิธีการคือ นำทองไปขูดกับแผ่นหินจนได้เนื้อทองติดบนหินเล็กน้อย หยดกรดไนตริกลงไป แล้วตามด้วยน้ำเกลืออีกนิดหน่อย ซึ่งทองแท้จะไม่ละลาย แต่ถ้าเป็นทองปลอม เนื้อทองที่ทดสอบก็จะละลายหายไปอย่างเห็นได้ชัด

8. โยนลงบนกระจกเบา ๆ

ด้วยความที่ทองคำแท้มีเนื้อนุ่ม ไม่แข็งเหมือนเหล็กหรือทองแดง เมื่อโยนลงบนกระจกเบา ๆ จะเกิดเสียงที่นุ่ม ไม่แหลมดังขึ้นมา แต่ถ้าเป็นทองปลอมจะเกิดเสียงดังแหลมนั่นเอง 

9. เผาไฟ

วิธีนี้เป็นวิธีที่แม่นยำที่สุดที่ร้านทองชั้นนำส่วนใหญ่นิยมทำกัน แต่จะใช้ในกรณีจำเป็นจริง ๆ หรือใช้วิธีอื่นหมดแล้วแต่ยังไม่ชัวร์ โดยจะใช้ไฟตะเกียงหรือไฟแช็กเผาจนทองร้อนเป็นสีแดงแล้วทิ้งให้เย็น ถ้าเป็นทองแท้จะกลับมามีสีเหลืองทองเหมือนเดิม แต่ถ้าเป็นทองที่มีแร่ธาตุอื่นผสมอยู่ด้วย จะทำปฏิกิริยากับอากาศเกิดเป็นออกไซด์ ทำให้มีสีดำคล้ำลง ไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม 

เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับ 9 วิธีเช็กทองคำแท้ที่เราเอามาฝากกัน ใครที่รับซื้อทองจากคนอื่น หรือไม่ได้ซื้อจากที่ร้าน ก็สามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้กันได้ แต่เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่ดีที่สุดก็ควรเลือกซื้อทองคำจากร้านทองที่น่าเชื่อถือและมีมาตรฐานดีกว่าค่ะ 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วิธีเช็กทองแท้ได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ รู้ไว้จะได้ไม่โดนหลอก อัปเดตล่าสุด 15 ธันวาคม 2566 เวลา 09:46:01 241,785 อ่าน
TOP