
1. ตรวจสอบสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ชัดเจน
2. เตรียมเอกสาร
เมื่อตรวจสอบชัดเจนว่าได้รางวัลแน่นอน ให้เตรียมเอกสาร 2 อย่างติดตัวไปด้วย นั่นคือ "สลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัล" และ "บัตรประจำตัวประชาชน"
แต่สำหรับคนที่ถูกรางวัลใหญ่แล้วกลัวว่าจะทำสลากฯ หาย ก็สามารถเขียนชื่อ-นามสกุล และหมายเลขโทรศัพท์ กำกับไว้ที่ด้านหลังของสลากฯ ถ่ายรูปให้เรียบร้อยแล้วนำไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจไว้เป็นหลักฐานก็ได้ค่ะ เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของและป้องกันการสวมรอย
3. ค้นหาจุดบริการขึ้นเงินรางวัลที่สะดวกกับเรา
แม้ว่าการขึ้นเงินรางวัลที่แผงค้าลอตเตอรี่ หรือร้านค้าที่รับซื้อรางวัล จะมีความสะดวก แต่ก็ต้องยอมถูกหักค่าธรรมเนียมตั้งแต่ 2-3% ขึ้นไป ซึ่งถ้าเราถูกรางวัลมูลค่าสูงก็จะเสียค่าธรรมเนียมแพงไปด้วย หลายคนจึงรู้สึกเสียดายเลยเลือกเดินทางไปขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จังหวัดนนทบุรี
อย่างไรก็ตาม ยังมีคนจำนวนมากอยู่ต่างจังหวัด และไม่มีเวลาเดินทางมาที่สำนักงานสลากฯ เดี๋ยวนี้จึงมีทางเลือกที่ง่ายกว่านั้นค่ะ เพราะเราสามารถนำสลากฯ ไปขึ้นเงินรางวัลได้ที่ธนาคารออมสิน ซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วประเทศ สะดวกต่อการเดินทางและประหยัดเวลามากกว่า โดยขั้นตอนการรับเงินรางวัลก็ไม่ยุ่งยากอะไร แค่เตรียมเอกสารดังนี้
- บัตรประจำตัวประชาชน (ต้องเป็นบุคคลที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ยกเว้น ผู้ที่บรรลุนิติภาวะด้วยการสมรส)
- สลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลงวดปัจจุบัน สภาพสมบรูณ์ ไม่มีรอยลบ ขูดขีด หรือชำรุด สามารถขึ้นเงินที่ธนาคารออมสินได้ทุกรางวัล ยกเว้นรางวัลที่ 1
- บัญชีเงินฝากประเภท "เผื่อเรียก" ของธนาคารออมสิน โดยต้องเป็นบุคคลเดียวกับบัตรประชาชนของผู้ที่มาขอรับเงินรางวัล เนื่องจากธนาคารจะโอนเงินรางวัลเข้าบัญชีเงินฝากของผู้ที่มาขึ้นเงินรางวัลเท่านั้น
สำหรับการขึ้นเงินรางวัลที่ธนาคารออมสินจะเสียค่าธรรมเนียมเพียงแค่ 1% ของเงินรางวัล ส่วนสลากฯ จะต้องชำระค่าอากรแสตมป์ หรือหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามอัตราต่อไปนี้
- สลากกินแบ่งรัฐบาลแบบธรรมดา ชำระค่าอากรแสตมป์ ทุก 200 บาท หรือเศษของ 200 บาท เสียอากรแสตมป์ในอัตรา 1 บาท (หรือ 0.5% ของเงินรางวัล)
- สลากการกุศล หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย 1% ของเงินรางวัล
