เงินช่วยเหลือชาวนา เงินประกันรายได้ข้าว ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ ยืนยัน ประกันรายได้ข้าว เงินเข้างวดแรก 16 พ.ย. 63 ก่อนทยอยโอนให้ครบภายใน 3 วัน เผยวิธีเช็กเงินโอนเข้าหรือยังง่าย ๆ
จากกรณี คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ประกันรายได้ชาวนาและเกษตรกรปลูกยางพารา จำนวน 6.1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว วงเงินรวม 51,858 ล้านบาท และโครงการประกันรายได้ชาวสวนยาง วงเงิน 10,042 ล้านบาท ซึ่งกำหนดจะจ่ายเงินประกันรายได้ข้าวงวดแรก ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 นั้น
อ่านข่าว : เคาะแล้ว วันจ่ายเงินโครงการ ประกันราคาข้าว ประกันราคายางพารา
- ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคาประกันตันละ 14,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 16 ตัน ส่วนต่างตันละ 2,137 บาท
- ข้าวเปลือกเจ้า ราคาประกันตันละ 10,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ตัน ส่วนต่างตันละ 1,222 บาท
- ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคาประกันตันละ 11,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 25 ตัน ส่วนต่างตันละ 1,066 บาท
- ข้าวเปลือกเหนียว ราคาประกันตันละ 12,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 16 ตัน ส่วนต่างตันละ 2,084 บาท
ดังนั้น เกษตรกรที่ปลูกข้าวชนิดต่าง ๆ จะได้รับเงินส่วนต่างไม่เท่ากัน แต่หากคำนวณจากโควตาสูงสุดที่รัฐบาลให้ คือ...
- ถ้าปลูกข้าวเปลือกหอมปทุมธานี จะได้รับเงินส่วนต่างสูงสุดถึง 26,674 บาท
- ข้าวเหนียว จะได้รับเงินส่วนต่างสูงสุด 33,349 บาท
- ข้าวเปลือกเจ้า ได้รับเงินส่วนต่างสูงสุด 36,670 บาท
- ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ได้รับเงินส่วนต่างสูงสุด 34,199 บาท
- ข้าวหอมมะลิ จะได้รับเงินส่วนต่างสูงสุด 40,756 บาทต่อครัวเรือน
เงินช่วยเหลือชาวนา เงินประกันรายได้ข้าว ไร่ละ 1,000 บาท
อย่างไรก็ตาม หลังเที่ยงคืนของวันที่ 15 พฤศจิกายน เริ่มเข้าสู่วันที่ 16 พฤศจิกายน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะเริ่มทยอยโอนเงินเข้าบัญชีชาวนา โดยสามารถเช็กเงินช่วยเหลือชาวนาที่นี่ เพียงกรอกเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ถ้าเงินเข้าระบบจะแจ้งว่าโอนเรียบร้อย แต่ถ้ายังไม่เข้าต้องรอก่อน ซึ่ง ธ.ก.ส. จะทำการโอนให้เสร็จสิ้นภายใน 3 วันทำการ
ภาพจาก ธ.ก.ส.