เปรียบเทียบโอกาสลุ้น-ผลตอบแทนสลากออมทรัพย์ 3 ค่าย ฝากที่ไหนคุ้มสุด

เปรียบเทียบสลากออมทรัพย์ 4 รุ่น จาก 3 ธนาคาร ถ้าอยากถูกรางวัลใหญ่ ควรซื้อสลากออมทรัพย์ค่ายไหนถึงมีโอกาสมากกว่า ที่นี่มีคำตอบ

ข้อดีของการซื้อสลากออมทรัพย์ก็คือ เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ แค่ฝากให้ครบอายุสลากก็การันตีว่าเงินต้นไม่หาย และได้รับดอกเบี้ยแน่นอน แถมยังมีโอกาสลุ้นรางวัลมากมายตลอดระยะเวลาฝากเพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้สูงขึ้นด้วย ซึ่งช่วงนี้ก็มีสลากออมทรัพย์เปิดจำหน่ายอยู่หลายรุ่น จนเราเองก็เลือกไม่ถูกว่าจะซื้อสลากออมทรัพย์ของธนาคารไหนดี ถึงจะมีโอกาสถูกรางวัลได้ง่ายกว่า

วันนี้กระปุกดอทคอมจึงนำข้อมูลสลากออมทรัพย์ อายุ 1-2 ปี ที่เปิดจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน (ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2563) มาเปรียบเทียบให้เห็นกันทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่

1. สลากออมทรัพย์ ธอส. รุ่นที่ 4 ชุดเกล็ดดาว
2. สลากออมสินพิเศษดิจิทัล 1 ปี
3. สลากออมสินพิเศษ 2 ปี และสลากออมสินพิเศษดิจิทัล 2 ปี
4. สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดเกษตรยั่งยืน

ตามมาดูกันว่า สลากออมทรัพย์ชุดไหนที่ให้ผลตอบแทนดี มีโอกาสถูกรางวัลง่าย และน่าจะถูกใจสายออมชอบลุ้นมากที่สุด

สลากออมทรัพย์ ธอส. รุ่นที่ 4 ชุดเกล็ดดาว

เริ่มจากสลากออมทรัพย์ ธอส. รุ่นที่ 4 ชุดเกล็ดดาว อายุสลาก 2 ปี จำหน่ายในราคาหน่วยละ 5,000 บาท เมื่อฝากครบ 2 ปี ได้รับดอกเบี้ยตามหน้าสลาก 0.40% แน่นอน และถ้าต้องการถูกรางวัลทุกงวด จะต้องฝาก 500,000 บาท ซึ่งการันตีผลตอบแทนขั้นต่ำ 0.568% ต่อปี แต่นี่ยังไม่รวมผลตอบแทนที่อาจได้รับเพิ่มขึ้นจากการถูกรางวัลที่ 1-4 ด้วยนะ

ในส่วนของรางวัลก็น่าสนใจ มีทั้งรางวัลใหญ่ รางวัลเลขท้าย และรางวัลเลขสลับเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว ซึ่งไม่เคยมีในสลากออมทรัพย์ที่ไหนมาก่อน โดยออกรางวัลรวม 24 ครั้ง มูลค่าเงินรางวัลเป็นดังนี้

● รางวัลที่ 1 : เงินรางวัล 1 ล้านบาท จำนวน 1 รางวัลต่อหมวด
● รางวัลที่ 2 : เงินรางวัล 50,000 บาท จำนวน 4 รางวัลต่อหมวด
● รางวัลที่ 3 : เงินรางวัล 5,000 บาท จำนวน 20 รางวัลต่อหมวด
● รางวัลที่ 4 : เงินรางวัล 500 บาท จำนวน 20 รางวัลต่อหมวด
● รางวัลเลขท้าย 3 ตัว : รางวัลละ 100 บาท (หมุน 1 ครั้ง)
● รางวัลเลขสลับเลขท้าย 3 ตัว : รางวัลละ 50 บาท
● รางวัลเลขท้าย 2 ตัว : รางวัลละ 50 บาท (หมุน 1 ครั้ง)
● รางวัลเลขสลับเลขท้าย 2 ตัว : รางวัลละ 20 บาท

ถ้าคิดเฉพาะรางวัลที่ 1-4 ผู้ซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. จะมีโอกาสถูกรางวัลถึง 0.0045% ต่องวด เพราะสลากจำหน่ายทั้งสิ้น 3 หมวด หมวดละ 1 ล้านหน่วย และออกรางวัลต่อหมวด จึงลุ้นรางวัลเฉพาะใน 1 ล้านหน่วยเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีโอกาสถูกรางวัลเลขท้าย หรือเลขสลับเลขท้ายได้ง่ายขึ้น ลุ้นสนุกกว่าเดิมเป็นสองเท่า อยากลุ้นโชคก็ซื้อสลากที่สาขาของ ธอส. หรือซื้อผ่าน Application : GHB ALL ได้เลย

สลากออมสินพิเศษดิจิทัล 1 ปี

ฝั่งสลากออมสินพิเศษดิจิทัล 1 ปี เป็นสลากดิจิทัลที่จำหน่ายผ่านแอปพลิเคชัน MyMo ราคาหน่วยละ 20 บาท ซื้อขั้นต่ำครั้งละ 200 บาท แต่สลากชุดนี้ เมื่อฝากครบอายุ 1 ปี จะไม่ได้รับดอกเบี้ยเลย จึงต้องหวังถูกรางวัลเพียงอย่างเดียว หากต้องการถูกรางวัลชัวร์ ๆ ก็ต้องซื้อสลาก 10,000 หน่วย หรือคิดเป็นเงินลงทุน 200,000 บาท เพื่อถูกรางวัลเลขท้าย 4 ตัว รับผลตอบแทนขั้นต่ำ 0.24% ต่อปี

ส่วนรางวัลอื่น ๆ ของสลากออมสินพิเศษดิจิทัล 1 ปี มีดังนี้

  ● รางวัลที่ 1 : เงินรางวัล 3 ล้านบาท จำนวน 1 รางวัล (กำหนดงวดและหมวดอักษร)
  ● รางวัลที่ 2 : เงินรางวัล 100,000 บาท จำนวน 1 รางวัล (กำหนดงวดและหมวดอักษร)
  ● รางวัลที่ 3 : เงินรางวัล 2,000 บาท จำนวน 5 รางวัล
  ● รางวัลที่ 4 : เงินรางวัล 800 บาท จำนวน 10 รางวัล
  ● รางวัลที่ 5 : เงินรางวัล 200 บาท จำนวน 15 รางวัล
  ● รางวัลเลขท้าย 4 ตัว : เงินรางวัล 20 บาท จำนวน 2 รางวัล

  แม้รางวัลที่ 1 จะมีมูลค่าถึง 3 ล้านบาท แต่ต้องยอมรับว่าโอกาสถูกรางวัลค่อนข้างยาก เพราะสลากออมสินพิเศษดิจิทัล จำหน่ายหลายหมวดอักษร และไม่จำกัดงวด ซึ่งการจะได้รับเงินรางวัลที่ 1 และรางวัลที่ 2 ต้องถูกทั้งหมายเลข 7 หลัก เลขงวด และหมวดอักษร รวม 3 ส่วน จึงมีความเป็นไปได้ที่จะถูกรางวัลราว ๆ 0.00000021%

สลากออมสินพิเศษ 2 ปี
และสลากออมสินพิเศษดิจิทัล 2 ปี

สำหรับสลากออมสินพิเศษ 2 ปี และสลากออมสินพิเศษดิจิทัล 2 ปี จำหน่ายในราคาหน่วยละ 100 บาท เท่ากัน และให้ผลตอบแทนเหมือนกัน คือ กรณีฝากไม่ถึง 100,000 บาท จะได้รับดอกเบี้ยตามหน้าสลาก 0.05% ต่อปี แต่ถ้าฝาก 100,000 บาท อัตราผลตอบแทนจะเพิ่มขึ้นเป็น 0.29% ต่อปี เนื่องจากถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัว ทุกเดือน รวม 24 ครั้ง และหากฝากมูลค่า 1 ล้านบาท จะถูกรางวัลเลขท้าย 4 ตัว อีก 1 รางวัล รวมผลตอบแทนขั้นต่ำ 0.35% ต่อปี คิดเป็นจำนวนเงินตามตารางนี้

ขณะที่เงินรางวัลของสลากออมสินพิเศษ 2 ปี และสลากออมสินพิเศษดิจิทัล 2 ปี ประกอบด้วย

● รางวัลที่ 1 : เงินรางวัล 5 ล้านบาท จำนวน 1 รางวัล (กำหนดงวดและหมวดอักษร)
● รางวัลที่ 2 : เงินรางวัล 1 ล้านบาท จำนวน 1 รางวัล (กำหนดงวดและหมวดอักษร)
● รางวัลที่ 3 : เงินรางวัล 10,000 บาท จำนวน 5 รางวัล
● รางวัลที่ 4 : เงินรางวัล 3,000 บาท จำนวน 10 รางวัล
● รางวัลที่ 5 : เงินรางวัล 1,000 บาท จำนวน 15 รางวัล
● รางวัลเลขท้าย 4 ตัว : เงินรางวัล 50 บาท จำนวน 1 รางวัล
● รางวัลเลขท้าย 3 ตัว : เงินรางวัล 20 บาท จำนวน 1 รางวัล

ลองคำนวณคร่าว ๆ จะมีโอกาสถูกรางวัลใหญ่เพียง 0.0000107% เท่านั้น เนื่องจากต้องถูกรางวัลถึง 3 ส่วน คือ หมายเลข 7 หลัก เลขงวด และหมวดอักษร ซึ่งมีเกินร้อยล้านหน่วย กรณีไม่ถูกรางวัลใด ๆ เลย ผลตอบแทนตามหน้าสลากที่ได้รับจึงไม่สูงเท่าไรนัก

สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดเกษตรยั่งยืน

ปิดท้ายที่สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดเกษตรยั่งยืน ที่เป็นสลากดิจิทัลอายุ 2 ปี เช่นกัน จำหน่ายหน่วยละ 20 บาท ผ่านทางแอปพลิเคชัน A-Mobile ซื้อขั้นต่ำ 20 บาท สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท เมื่อฝากครบกำหนด ได้รับดอกเบี้ยตามหน้าสลาก 0.50% ต่อปี แต่ถ้าซื้อ 200,000 บาท ผลตอบแทนจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.12% ต่อปี เลยทีเดียว

สำหรับสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดเกษตรยั่งยืน มีเงินรางวัล 3 ประเภท คือ

● รางวัลที่ 1 (เลข 4 ตัว เสี่ยงหมวด) มูลค่า 2 ล้านบาท มีสิทธิ์ตรวจรางวัลเฉพาะงวดที่ออม
● รางวัลเลข 4 ตัว ไม่เสี่ยงหมวด มูลค่า 2,000 บาท มีสิทธิ์ตรวจรางวัลเฉพาะงวดที่ออม
● รางวัลเลข 4 ตัว ไม่เสี่ยงหมวด มูลค่า 20 บาท

จะเห็นว่าโอกาสลุ้นรางวัลที่ 1 แตกต่างจากสลากออมทรัพย์ ธอส. และสลากออมสิน เพราะการซื้อสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. แล้วฝากไว้ 2 ปี จะมีสิทธิ์ตรวจรางวัลเพียงครั้งเดียว คือในงวดแรกที่ซื้อสลากเท่านั้น ส่วนอีก 23 งวดที่เหลือ จะได้ลุ้นเพียงรางวัลเลข 4 ตัว มูลค่า 20 บาท แต่ถ้าอยากลุ้นรางวัลที่ 1 ทุกงวด ก็ต้องซื้อสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ทุกเดือน ซึ่งมีโอกาสถูกรางวัลน้อยมาก อยู่ที่ประมาณ 0.00000001%

สรุปความคุ้มค่า

หากมีเงินลงทุนไม่มาก การซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาว และสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดเกษตรยั่งยืน จะให้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยไม่ต่างกันมากนัก อย่างไรก็ตาม สลากออมทรัพย์ ธอส. จะมีโอกาสลุ้นรางวัลอื่น ๆ ได้ง่ายกว่า เนื่องจากคำนวณดูแล้วมีความเป็นไปได้ที่จะถูกรางวัลใหญ่ 0.0045% สูงกว่าสลากออมทรัพย์ของธนาคารอื่น และการซื้อสลาก 1 ครั้ง ยังได้ลุ้นทุกรางวัลถึง 24 งวด ขณะที่สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ต้องซื้อทุกงวดเท่านั้นถึงมีสิทธิ์ลุ้นรางวัล 2 ล้านบาท และ 2,000 บาท

ดังนั้น สำหรับคนที่อยากได้ผลตอบแทนดี และหวังถูกรางวัลใหญ่เพิ่มเติม สามารถซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาว ได้เลย ที่ ธอส. ทุกสาขา ทั่วประเทศ หรือคนที่มีบัญชีสลากผูกกับ Application : GHB ALL อยู่แล้ว จะซื้อผ่านแอปพลิเคชันก็สะดวกมาก ๆ โดยออกรางวัลครั้งแรกในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 แล้วมาลุ้นรางวัลด้วยกันนะ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Inbox : m.me/GHBank
ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร. 0-2645-9000
www.ghbank.co.th

เปรียบเทียบโอกาสลุ้น-ผลตอบแทนสลากออมทรัพย์ 3 ค่าย ฝากที่ไหนคุ้มสุด !