เปิดงบส่วนราชการ โดนหั่นเข้า พ.ร.ก.โอนงบฯ เผยงบบัตรทองโดนหั่น 2.4 พันล้าน โซเชียลเทียบข่าวกองทัพบก กำลังจัดซื้อยานเกราะล้อยาง 4.5 พันล้าน
วันที่ 22 เมษายน 2563 สำนักข่าว INN รายงานว่า นางนฤมล
ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
(ครม.) มีมติเห็นชอบผลการพิจารณาโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
2563 ซึ่งจะนำมาจัดทำร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. .... ในกรอบวงเงิน
100,395 ล้านบาท โดยจะเสนอให้ ครม. พิจารณาเห็นชอบในวันที่ 19 พฤษภาคม
2563 หลังจากนั้นจะนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
และคาดว่าจะประกาศบังคับใช้ได้ประมาณกลางเดือนมิถุนายน 2563
งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ที่นำมาจัดทำร่างพระราชบัญญัติโอนงบฯ จำแนกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
1. งบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับประมาณ 46,923.9118 ล้านบาท
2. งบประมาณรายจ่ายบูรณาการ 14,236.8011 ล้านบาท
3. งบประมาณรายจ่ายทุนหมุนเวียน 2,622.0542 ล้านบาท
4. งบประมาณรายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ 36,612.2329 ล้านบาท
ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า หน่วยงานที่มีการปรับลดงบประมาณ เพื่อนำมาจัดทำร่าง
พ.ร.บ.โอนงบฯ มากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่
1. กระทรวงกลาโหม มีการปรับลดงบรวม 17,760 ล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 2,792 ล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 14,968 ล้านบาท
2. กระทรวงมหาดไทย 4,924 ล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 165 ล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 4,758 ล้านบาท
3. กระทรวงศึกษาธิการ 4,792 ล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 1,620 ล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 3,172 ล้านบาท
4. กระทรวงคมนาคม 3,453 ล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 159 ล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 3,294 ล้านบาท
5. จังหวัดและกลุ่มจังหวัด 2,537 ล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 1,760 ล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 776 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีการตัดงบของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำหรับกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ วงเงิน 2,400 ล้านบาท และตัดงบกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา วงเงิน 200.54 ล้านบาท ในช่วงการแพร่ระบาดโควิด 19
เกี่ยวกับเรื่องนี้ บอล ธนวัฒน์ วงค์ไชย นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ผู้จัดงานวิ่งไล่ลุง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ธนวัฒน์ วงค์ไชย - Tanawat Wongchai ระบุตั้งข้อสังเกตว่า งบบัตรทอง กำลังจะถูกดึงคืน ซึ่งมาพร้อมกับข่าวที่กองทัพกำลังจัดซื้อยานเกราะล้อยาง ซึ่งงบที่กำลังจะโดนดึงนั้น คืองบรักษาพยาบาลของคนไทยกว่า 49 ล้านคน ที่เราต้องไม่ยอมให้รัฐบาลดึงกลับไปโดยไม่มีเหตุผล ขอแรงช่วยกัน #Saveบัตรทอง ได้ไหม เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของทุกคน
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ที่นำมาจัดทำร่างพระราชบัญญัติโอนงบฯ จำแนกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
1. งบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับประมาณ 46,923.9118 ล้านบาท
2. งบประมาณรายจ่ายบูรณาการ 14,236.8011 ล้านบาท
3. งบประมาณรายจ่ายทุนหมุนเวียน 2,622.0542 ล้านบาท
4. งบประมาณรายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ 36,612.2329 ล้านบาท
1. กระทรวงกลาโหม มีการปรับลดงบรวม 17,760 ล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 2,792 ล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 14,968 ล้านบาท
2. กระทรวงมหาดไทย 4,924 ล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 165 ล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 4,758 ล้านบาท
3. กระทรวงศึกษาธิการ 4,792 ล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 1,620 ล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 3,172 ล้านบาท
4. กระทรวงคมนาคม 3,453 ล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 159 ล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 3,294 ล้านบาท
5. จังหวัดและกลุ่มจังหวัด 2,537 ล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 1,760 ล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 776 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีการตัดงบของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำหรับกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ วงเงิน 2,400 ล้านบาท และตัดงบกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา วงเงิน 200.54 ล้านบาท ในช่วงการแพร่ระบาดโควิด 19
เกี่ยวกับเรื่องนี้ บอล ธนวัฒน์ วงค์ไชย นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ผู้จัดงานวิ่งไล่ลุง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ธนวัฒน์ วงค์ไชย - Tanawat Wongchai ระบุตั้งข้อสังเกตว่า งบบัตรทอง กำลังจะถูกดึงคืน ซึ่งมาพร้อมกับข่าวที่กองทัพกำลังจัดซื้อยานเกราะล้อยาง ซึ่งงบที่กำลังจะโดนดึงนั้น คืองบรักษาพยาบาลของคนไทยกว่า 49 ล้านคน ที่เราต้องไม่ยอมให้รัฐบาลดึงกลับไปโดยไม่มีเหตุผล ขอแรงช่วยกัน #Saveบัตรทอง ได้ไหม เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของทุกคน
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID 19 << ได้ที่นี่
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก