ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ดิ่งหนักร่วม 2,000 จุด น้ำมันดิบลด 24% หลังซาอุดีอาระเบีย เปิดฉากทำสงครามราคาน้ำมัน และปัญหาการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ในสหรัฐฯ
วันที่ 10 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนี ทำสถิติดิ่งลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลกในปี 2551 เริ่มตั้งแต่ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดร่วงลงอย่างหนัก นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับลดลงเกือบ 25% จากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตรที่นำโดยรัสเซีย ล้มเหลวในการทำข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมันในการประชุมที่กรุงเวียนนา เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
กรณีดังกล่าวจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดฉากทำสงครามราคาน้ำมันจากซาอุดีอาระเบีย
ด้วยการประกาศลดราคาขายน้ำมันอย่างเป็นทางการ (OSP)
พร้อมกับปรับเพิ่มการผลิตน้ำมัน นอกจากนี้
นักลงทุนยังคงมีความกังวลต่อการแพร่ระบาดของ COVID-19
จากปัจจัยดังกล่าวจึงส่งผลให้
- Nasdaq ปิดที่ 7,950.68 จุด ลดลง 624.94 จุด หรือ -7.29%
- S&P500 ปิดที่ 2,746.56 จุด ลดลง 225.81 จุด หรือ -7.60%
ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 10.15 ดอลลาร์ หรือ -24.6% ปิดที่ 31.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 10.91 ดอลลาร์ หรือ -24.10% ปิดที่ 34.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) เพิ่มขึ้น 3.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,675.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN