ขายดีมีกำไร แต่ทำไมไม่มีเงินเก็บสักที วันนี้ชวนคนขายของออนไลน์มาหาวิธีเก็บเงินกันดีกว่า
![ออมเงิน]( "ออมเงิน")
เอาเป็นว่าพ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ที่กำลังคิดอยู่ว่าทำอย่างไรถึงจะมีเงินเก็บ เรามีวิธีดี ๆ มาแนะนำกัน
![ออมเงิน]( "ออมเงิน")
เงินลงทุนกับเงินที่ได้ในการขายของควรต้องแยกบัญชีใครบัญชีมัน เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจเช็กผลกำไร-ขาดทุน เราจะได้รู้ว่ากำไรที่ได้มาคุ้มค่ากับการลงทุนไหม และเมื่อแยกบัญชีออกจากกันก็จะทำให้เรามองเห็นภาพรวมของธุรกิจมากขึ้นด้วย
การลงทุนมีความเสี่ยงในทุกกรณี ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในด้านการลงทุน เราควรแบ่งเงินมาเป็นทุนสำรองด้วย เมื่อเกิดกรณีฉุกเฉิน หรือมีเหตุไม่คาดฝัน เช่น สินค้ามีปัญหา ส่งของไม่ได้ ลูกค้าหดหาย เราจะได้มีเงินก้อนนี้เอาไว้ใช้จ่าย ดังนั้นพยายามกันเงินบางส่วนเอาไว้เป็นทุนสำรองด้วยนะคะ
3. หยุดสร้างหนี้
![ออมเงิน]( "ออมเงิน")
หนี้เป็นภาระอย่างหนึ่งที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วอาจไม่ได้จบมันง่าย ๆ และมีหลายเคสที่เผลอเรอทำหนี้ก้อนเล็กให้เป็นหนี้ก้อนใหญ่ บานปลายไม่รู้จุดจบจนต้องหมุนเงินตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต ซึ่งพอถึงจุดที่มีหนี้ การบริหารเงินให้มีความลื่นไหลอาจทำได้ยากกว่าปกติ ที่สำคัญอาจทำให้การเก็บเงินเป็นสิ่งที่ทำได้ยากด้วยเช่นกัน ดังนั้นการไม่มีหนี้เป็นการดีที่สุดค่ะ
4. เก็บเงินให้เป็นนิสัย
ไม่ว่าสถานการณ์ขายของออนไลน์ของเราจะเป็นแบบไหน ก็ควรแบ่งเงินส่วนหนึ่งไว้เพื่อเก็บออม โดยแยกบัญชีสำหรับออมไว้ต่างหากเลย อย่าไปรอให้ทุกอย่างลงตัวแล้วค่อยเริ่มเก็บเงิน แต่ควรเริ่มเก็บเงินแม้จะทีละเล็กละน้อยก็หมั่นออมเข้าไว้ ทำให้ได้ทุกเดือน แล้วเงินจำนวนเล็ก ๆ จะเติบโตเป็นเงินก้อนใหญ่ได้ในสักวันหนึ่ง
5. วางแผนการออมไว้ใช้ในวัยเกษียณ
![ออมเงิน]( "ออมเงิน")
เราไม่สามารถการันตีได้ว่าการค้าขายจะไปได้สวยตลอดกาลจริงไหมคะ หากวันใดวันหนึ่งกิจการซบเซา แล้วเราไม่ได้ตระเตรียมเงินสำหรับใช้จ่ายในวัยเกษียณไว้เลยก็อาจจะลำบากในอนาคต เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ดังนั้น เตรียมวางแผนการออมไว้ใช้ในยามเกษียณ และควรเลือกออมเงินแบบถอนออกจากบัญชีไม่ได้ เป็นการบังคับตัวเองให้ออมเงินไปในตัว อย่างการออมเงินกับกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. ก็เหมาะกับคนที่มีรายได้ไม่แน่นอน เช่น พ่อค้า-แม่ค้าที่ขายของเป็นอาชีพหลัก ไม่ได้ทำงานประจำ เพราะเป็นการออมเงินโดยสมัครใจ มีก็ออม ไม่มีก็ไม่ต้องออม ไม่เสียสิทธิ ไม่เสียค่ารักษาบัญชี และเรามั่นใจได้ว่าแก่ตัวไปมีเงินบำนาญใช้แน่ๆ
ทีนี้พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์คนไหนที่เจอปัญหาขายได้เท่าไรก็เก็บเงินไม่อยู่ หมุนเงินไม่ทัน ก็ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้กันดูนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
กองทุนการออมแห่งชาติ
ยุคนี้เป็นยุคที่การซื้อของทางออนไลน์กำลังเป็นที่นิยม การขายของออนไลน์จึงเป็นช่องทางหาเงินที่น่าสนใจไม่น้อย แถมบางคนยังค้าขายดีจนยึดเอาการขายของออนไลน์เป็นอาชีพหลักเลยก็มี แต่ถึงจะขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ได้กำไรมากมาย ทว่าหากไม่มีการวางแผนบัญชีที่ดีแล้ว พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ก็ยากที่จะมีเงินเก็บได้นะคะ ทั้งที่จริง ๆ แล้วการเก็บเงินเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจออนไลน์เลยก็ว่าได้ เพราะหากวันไหนการค้าขายไม่เป็นเหมือนที่หวัง เราก็ยังพอมีเงินสำรองไว้ใช้จ่ายหรือเป็นหลักประกัน
1. แยกบัญชีรายรับ-รายจ่าย
เงินลงทุนกับเงินที่ได้ในการขายของควรต้องแยกบัญชีใครบัญชีมัน เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจเช็กผลกำไร-ขาดทุน เราจะได้รู้ว่ากำไรที่ได้มาคุ้มค่ากับการลงทุนไหม และเมื่อแยกบัญชีออกจากกันก็จะทำให้เรามองเห็นภาพรวมของธุรกิจมากขึ้นด้วย
2. สำรองเงินไว้จ่าย
3. หยุดสร้างหนี้
4. เก็บเงินให้เป็นนิสัย
ไม่ว่าสถานการณ์ขายของออนไลน์ของเราจะเป็นแบบไหน ก็ควรแบ่งเงินส่วนหนึ่งไว้เพื่อเก็บออม โดยแยกบัญชีสำหรับออมไว้ต่างหากเลย อย่าไปรอให้ทุกอย่างลงตัวแล้วค่อยเริ่มเก็บเงิน แต่ควรเริ่มเก็บเงินแม้จะทีละเล็กละน้อยก็หมั่นออมเข้าไว้ ทำให้ได้ทุกเดือน แล้วเงินจำนวนเล็ก ๆ จะเติบโตเป็นเงินก้อนใหญ่ได้ในสักวันหนึ่ง
5. วางแผนการออมไว้ใช้ในวัยเกษียณ
เราไม่สามารถการันตีได้ว่าการค้าขายจะไปได้สวยตลอดกาลจริงไหมคะ หากวันใดวันหนึ่งกิจการซบเซา แล้วเราไม่ได้ตระเตรียมเงินสำหรับใช้จ่ายในวัยเกษียณไว้เลยก็อาจจะลำบากในอนาคต เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ดังนั้น เตรียมวางแผนการออมไว้ใช้ในยามเกษียณ และควรเลือกออมเงินแบบถอนออกจากบัญชีไม่ได้ เป็นการบังคับตัวเองให้ออมเงินไปในตัว อย่างการออมเงินกับกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. ก็เหมาะกับคนที่มีรายได้ไม่แน่นอน เช่น พ่อค้า-แม่ค้าที่ขายของเป็นอาชีพหลัก ไม่ได้ทำงานประจำ เพราะเป็นการออมเงินโดยสมัครใจ มีก็ออม ไม่มีก็ไม่ต้องออม ไม่เสียสิทธิ ไม่เสียค่ารักษาบัญชี และเรามั่นใจได้ว่าแก่ตัวไปมีเงินบำนาญใช้แน่ๆ
ทีนี้พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์คนไหนที่เจอปัญหาขายได้เท่าไรก็เก็บเงินไม่อยู่ หมุนเงินไม่ทัน ก็ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้กันดูนะคะ
กองทุนการออมแห่งชาติ
