ขสมก. เร่งปรับปรุงแผนฟื้นฟูองค์กร เตรียมงบเกือบ 5,000 ล้านบาท เปิดเออร์ลี่รีไทร์ 3,700 คน หวังลดต้นทุนองค์กร รองรับการใช้ E-Ticket เต็มรูปแบบในปี 2562
วันที่ 28 มีนาคม 2561 นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ขสมก. อยู่ระหว่างการปรับปรุงแผนฟื้นฟูองค์กร โดยได้บรรจุโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด (Early Retirement) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน เนื่องจากตอนนี้ ขสมก. มีพนักงานรวม 13,000 คน และมีสัดส่วนพนักงาน 4.9 คนต่อรถ 1 คัน แต่ในอนาคตจะลดพนักงานเหลือ 2.7 คนต่อรถ 1 คัน อย่างไรก็ดี การเปิดเออรี่รีไทร์ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ซึ่งต้องขึ้นกับความสมัครใจของพนักงานด้วย
ขณะที่ นางพนิดา ทองสุข รักษาการรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร ขสมก. ระบุว่า โครงการเออร์ลี่รีไทร์ จะใช้งบประมาณรวม 4,774 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 ปี คือปี 2561 วงเงิน 401 ล้านบาท, ปี 2562 วงเงิน 4,328 ล้านบาท และปี 2563 วงเงิน 45 ล้านบาท ตั้งเป้าจะลดพนักงานเก็บค่าโดยสารและพนักงานตรวจบัตรโดยสารลง 3,774 คน เพราะ ขสมก. จะนำระบบ E-Ticket มาใช้อย่างเต็มรูปแบบในปี 2562 เป็นต้นไป
สำหรับแผนฟื้นฟูองค์กร ขสมก. ฉบับนี้ ยังเหลือการปรับปรุงรายละเอียดเล็กน้อย ก่อนที่จะส่งหนังสือเวียนให้คณะกรรมการ (บอร์ด) เห็นชอบในหลักการ จากนั้นจึงส่งแผนฟื้นฟูให้กระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบตามลำดับต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
วันที่ 28 มีนาคม 2561 นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ขสมก. อยู่ระหว่างการปรับปรุงแผนฟื้นฟูองค์กร โดยได้บรรจุโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด (Early Retirement) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน เนื่องจากตอนนี้ ขสมก. มีพนักงานรวม 13,000 คน และมีสัดส่วนพนักงาน 4.9 คนต่อรถ 1 คัน แต่ในอนาคตจะลดพนักงานเหลือ 2.7 คนต่อรถ 1 คัน อย่างไรก็ดี การเปิดเออรี่รีไทร์ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ซึ่งต้องขึ้นกับความสมัครใจของพนักงานด้วย
สำหรับแผนฟื้นฟูองค์กร ขสมก. ฉบับนี้ ยังเหลือการปรับปรุงรายละเอียดเล็กน้อย ก่อนที่จะส่งหนังสือเวียนให้คณะกรรมการ (บอร์ด) เห็นชอบในหลักการ จากนั้นจึงส่งแผนฟื้นฟูให้กระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบตามลำดับต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก