หลายคนที่มีการใช้บัตรเครดิตอยู่เป็นประจำ และได้รับคะแนนสะสมหรือพอยท์จากการใช้บัตรเครดิต อาจเกิดข้อสงสัยว่า คะแนนที่ได้รับมานั้น ควรใช้อย่างไรที่จะเกิดประโยชน์สูงสุด เพราะปัจจุบันมีทางเลือกในการใช้คะแนนหลายแบบ ทั้งการแลก Gift Voucher หรือเงินสด การแลกรับส่วนลดเมื่อซื้อสินค้า หรือแลกไมล์เพื่อใช้ซื้อตั๋วเครื่องบิน วันนี้เรานำข้อมูลจาก K-Expert ธนาคารกสิกรไทย มาบอกต่อ
ใช้คะแนนมากกว่า 10 คะแนน เพื่อแลกรับ 1 บาท จะเริ่มไม่คุ้ม
เรามาดูการแลกคะแนนบัตรเครดิตอย่างแรกคือ การแลกรับ Gift Voucher หรือเงินสด โดยเกณฑ์ที่ผู้ออกบัตรเครดิตมักกำหนดไว้คือ 1,000 คะแนน สามารถแลกได้ 100 บาท หรือหากคำนวณออกมาจะได้ว่า เราสามารถใช้คะแนน 10 คะแนน เพื่อให้ได้รับเงินกลับมา 1 บาท ดังนั้น หากต้องใช้คะแนนมากกว่า 10 คะแนน เพื่อแลกรับเงิน 1 บาท แสดงว่า การแลกในครั้งนี้อาจไม่คุ้มค่านัก ซึ่งเราสามารถคำนวณความคุ้มค่าได้ด้วยตัวเองจากสูตร
การแลกคะแนนรูปแบบต่อมาคือ การนำคะแนนไปแลกรับส่วนลด ซึ่งปัจจุบันห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร หรือร้านค้าต่าง ๆ มักจัดโปรโมชั่นร่วมกับผู้ออกบัตรเครดิต เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาที่ถูกลง โดยเกณฑ์ในการนำคะแนนไปแลกรับส่วนลดมักมีเงื่อนไขให้ใช้คะแนนเท่ากับยอดใช้จ่าย แล้วจะได้รับส่วนลดเป็น % ของราคาสินค้า เช่น 10% 12.5% 15% เป็นต้น
ยกตัวอย่างเช่น หากซื้อสินค้าราคา 1,000 บาท แล้วมีโปรโมชั่นใช้คะแนนเท่ายอดซื้อสินค้าจะได้รับส่วนลด 10% ดังนั้น เมื่อเราใช้คะแนนบัตรเครดิต 1,000 คะแนน จะได้รับส่วนลด 100 บาท ซึ่งเท่ากับการนำคะแนนไปแลกรับ Gift Voucher หรือเงินสดในการแลกคะแนนวิธีแรก
ดังนั้น การใช้คะแนนเท่ายอดซื้อแล้วได้รับส่วนลดตั้งแต่ 10% ขึ้นไป จะมีความคุ้มค่าในการแลกคะแนน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าซื้อสินค้าราคา 1,000 บาท แล้วใช้คะแนนเท่ายอดซื้อจะได้รับส่วนลด 15% เท่ากับว่า เมื่อเราใช้คะแนน 1,000 คะแนน จะได้รับส่วนลด 150 บาทเลยทีเดียว แต่ต้องไม่ลืมที่จะตรวจสอบคะแนนบัตรเครดิตที่มีก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า
การแลกคะแนนรูปแบบสุดท้ายคือ การแลกคะแนนเป็นไมล์สะสม เพื่อแลกบัตรโดยสารสายการบินต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สายการบินที่เข้าร่วมโครงการนี้มีทั้งสายการบินฟูลเซอร์วิสต์ (Full Service) อย่างการบินไทย บางกอกแอร์เวย์ส คาเธ่ย์ แปซิฟิค และสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost) อย่างไทยแอร์เอเชีย เป็นต้น เมื่อแลกคะแนนเป็นไมล์สะสมแล้ว จะต้องชำระค่าภาษีสนามบินเพิ่มเติมด้วย
การใช้คะแนนแลกไมล์สะสมของแต่ละบัตรเครดิตมีอัตราส่วนการแลกที่แตกต่างกันออกไป จึงขอใช้ตัวอย่างอัตราส่วนการแลกไมล์ของบัตรเครดิตกสิกรไทยเพื่อใช้แลกไมล์สะสม รอยัล ออร์คิด พลัส (ROP Mileage) ของการบินไทย โดยกำหนดอัตราส่วนอยู่ที่ 3 คะแนนบัตรเครดิต จะแลกได้ 1 ไมล์สะสม รอยัล ออร์คิด พลัส หากต้องการไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นแบบชั้นประหยัด ซึ่งการบินไทยกำหนดไมล์สะสมไว้ที่ 45,000 ไมล์ จะต้องใช้คะแนนบัตรเครดิตเท่ากับ 45,000 x 3 = 135,000 คะแนน
หากเรานำค่าตั๋วเครื่องบินซึ่งอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาท มาเปรียบเทียบกับคะแนนบัตรเครดิต 135,000 คะแนน จะพบว่า ต้องใช้ 6.75 คะแนนของบัตรเครดิต เพื่อแลกค่าตั๋วเครื่องบิน 1 บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับการแลกคะแนนเพื่อได้รับ Gift Voucher หรือเงินสด ซึ่งต้องใช้ 10 คะแนน เพื่อแลกรับเงิน 1 บาท การแลกคะแนนเพื่อได้รับไมล์สะสมในตัวอย่างนี้จึงมีความคุ้มค่า ทั้งนี้ การแลกคะแนนเป็นไมล์สะสมสามารถใช้สูตรการคำนวณดังนี้
นอกจากนี้ แม้ว่าการแลกคะแนนบัตรเครดิตเป็นไมล์มีความคุ้มค่ากว่าการแลกรับเป็น Gift Voucher แต่ยอดเงินใช้จ่ายเพื่อให้ได้รับตั๋วเครื่องบินใบหนึ่งอาจต้องมียอดใช้จ่ายสูงถึงหลักล้านบาท ซึ่งต้องใช้เวลานานในการสะสม ดังนั้น การแลกรับเป็น Gift Voucher หรือแลกรับเป็นส่วนลด อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
นอกจากนี้ ในแต่ละเที่ยวบินมักกำหนดจำนวนที่นั่งของตั๋วเครื่องบินที่มาจากการแลกไมล์ ดังนั้น ควรแลกตั๋วเครื่องบินก่อนเดินทางตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้มั่นใจว่า จะสามารถเดินทางในเที่ยวบินที่กำหนดไว้ได้ ทั้งนี้ หากไม่สามารถเดินทางได้ตามเที่ยวบินที่แลกไมล์ไว้ จะมีค่าใช้จ่ายในการเลื่อนเที่ยวบินเกิดขึ้น ซึ่งปกติแล้วจะสามารถเลื่อนเที่ยวบินได้ภายใน 1 ปี
เพื่อให้ได้รับคะแนนสะสมบัตรเครดิตรวดเร็วยิ่งขึ้น การเลือกใช้บัตรเครดิตที่ให้แต้มสะสม 2 เท่า หรือ 3 เท่า ของคะแนนสะสมปกติ จะช่วยเพิ่มความคุ้มค่าในการใช้จ่าย นอกจากนี้ คะแนนสะสมของบัตรเครดิตของบางสถาบันการเงินอาจมีวันหมดอายุ ถ้าต้องการสะสมคะแนนเป็นจำนวนมาก อย่าลืมตรวจสอบวันหมดอายุด้วย
K-Expert Action
- เมื่อรูดบัตรเครดิตไปเท่าไร ให้กันเงินไว้เท่ากับยอดใช้จ่าย เพื่อเตรียมชำระบัตรเครดิต
- ชำระบัตรเครดิตเต็มจำนวนและตรงเวลา เพื่อป้องกันการเป็นหนี้บัตรเครดิต
ขอขอบคุณข้อมูลจาก