กรมสรรพสามิต เปิดราคาเหล้า-บุหรี่-เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล หลังปรับโครงสร้างภาษี ดันราคาบุหรี่ เพิ่มขึ้น 2-15 บาท ส่วน เหล้า 8-30 บาท
หลังจากที่ คณะรัฐมนตรี ไฟเขียว ปรับโครงสร้างภาษีสุรา-ยาสูบ-ไพ่ โดยประกาศใช้เป็นทางการเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2560 ซึ่งย้ำว่าไม่กระทบผู้บริโภค เพราะเก็บภาษีตามความฟุ่มเฟือยและผลกระทบต่อสุขภาพ [อ่านข่าว : กระอัก ! ครม. ปล่อยขึ้นภาษีสุรา-ยาสูบ-ไพ่ มีผล 16 กันยายน นี้ คลิก]
โดยล่าสุด (17 กันยายน) พบว่า อัตราภาษีสรรพสามิตตามกฎหมายฉบับใหม่ ที่ได้เริ่มมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา ตามประกาศของกรมสรรพสามิต มีดังนี้
หลังจากที่ คณะรัฐมนตรี ไฟเขียว ปรับโครงสร้างภาษีสุรา-ยาสูบ-ไพ่ โดยประกาศใช้เป็นทางการเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2560 ซึ่งย้ำว่าไม่กระทบผู้บริโภค เพราะเก็บภาษีตามความฟุ่มเฟือยและผลกระทบต่อสุขภาพ [อ่านข่าว : กระอัก ! ครม. ปล่อยขึ้นภาษีสุรา-ยาสูบ-ไพ่ มีผล 16 กันยายน นี้ คลิก]
โดยล่าสุด (17 กันยายน) พบว่า อัตราภาษีสรรพสามิตตามกฎหมายฉบับใหม่ ที่ได้เริ่มมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา ตามประกาศของกรมสรรพสามิต มีดังนี้
- เบียร์
ปรับเพิ่มขึ้น 50 สตางค์ ถึง 2.66 บาทต่อกระป๋อง และปรับขึ้น 2 บาทต่อขวด
- ไวน์
ไวน์นำเข้า หากมีราคาเกิน 1,000 บาท จะมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 110 ต่อขวด ส่วนไวน์ที่มีราคาต่ำกว่า 1,000 บาท จะมีราคาลดลง 25 บาทต่อขวด
- สุราขาว
ปรับขึ้น 0.84 สตางค์ ถึง 3.49 บาทต่อขวด ตามขนาดดีกรี แต่หากเป็นสุรากลั่นในประเทศ ขนาดขวด 700 มิลลิลิตร ถ้าเป็น 28 ดีกรี จะปรับขึ้น 8 บาทต่อขวด แต่หากเป็น 40 ดีกรี จะปรับขึ้น 30 บาทต่อขวด ส่วนสุรานำเข้า ราคาจะปรับลดลง 3-20 บาทต่อขวด
- บุหรี่
หากราคาต่ำกว่าซองละ 60 บาท จะจัดเก็บในอัตราร้อยละ 20 หรือเพิ่มขึ้น 4-15 บาทต่อซอง ส่วนบุหรี่ที่ราคาเกิน 60 บาท จะจัดเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 40 หรือราคาจะเพิ่มขึ้น 2-14 บาทต่อซอง โดยในช่วง 2 ปีแรกจะจัดเก็บใน 2 อัตรา และหลังจากนั้นจะใช้อัตราที่เท่ากัน ที่ร้อยละ 40 เพื่อให้อุตสาหกรรมบุหรี่ได้มีเวลาปรับตัว
ปรับเพิ่มขึ้น 50 สตางค์ ถึง 2.66 บาทต่อกระป๋อง และปรับขึ้น 2 บาทต่อขวด
- ไวน์
ไวน์นำเข้า หากมีราคาเกิน 1,000 บาท จะมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 110 ต่อขวด ส่วนไวน์ที่มีราคาต่ำกว่า 1,000 บาท จะมีราคาลดลง 25 บาทต่อขวด
- สุราขาว
ปรับขึ้น 0.84 สตางค์ ถึง 3.49 บาทต่อขวด ตามขนาดดีกรี แต่หากเป็นสุรากลั่นในประเทศ ขนาดขวด 700 มิลลิลิตร ถ้าเป็น 28 ดีกรี จะปรับขึ้น 8 บาทต่อขวด แต่หากเป็น 40 ดีกรี จะปรับขึ้น 30 บาทต่อขวด ส่วนสุรานำเข้า ราคาจะปรับลดลง 3-20 บาทต่อขวด
- บุหรี่
หากราคาต่ำกว่าซองละ 60 บาท จะจัดเก็บในอัตราร้อยละ 20 หรือเพิ่มขึ้น 4-15 บาทต่อซอง ส่วนบุหรี่ที่ราคาเกิน 60 บาท จะจัดเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 40 หรือราคาจะเพิ่มขึ้น 2-14 บาทต่อซอง โดยในช่วง 2 ปีแรกจะจัดเก็บใน 2 อัตรา และหลังจากนั้นจะใช้อัตราที่เท่ากัน ที่ร้อยละ 40 เพื่อให้อุตสาหกรรมบุหรี่ได้มีเวลาปรับตัว
- เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสม
น้ำอัดลม ปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 13-50 สตางค์
เครื่องดื่มบำรุงกำลัง ปรับเพิ่มขึ้น 32-90 สตางค์ ยกเว้นขนาด 150 ซี.ซี. ลดลง 11 สตางค์
น้ำผัก-ผลไม้ เพิ่มขึ้นประมาณ 0.06-54 สตางค์ต่อลิตร
ชาเขียวเพิ่มขึ้น 1.13-2.50 บาท สตางค์ต่อลิตร
กาแฟเพิ่มขึ้น 1.35 บาท
- น้ำอัดลมไม่มีน้ำตาล เช่น โค้กซีโร่ เป็บซี่ แมกซ์
ลดลง 25-36 สตางค์ ซึ่งการที่จัดเก็บจากค่าความหวานของน้ำตาล ถือเป็นอัตราภาษีใหม่ที่ไทยไม่เคยจัดเก็บมาก่อน
ทั้งนี้นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า การปรับโครงสร้างและแนวทางการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตใหม่ จะทำให้ภาพรวมการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ของจำนวนภาษีที่เคยจัดเก็บ หรือประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยมองว่าภาระภาษีที่เพิ่มขึ้น จะไม่กระทบประชาชนส่วนใหญ่
สำหรับ ปัญหาการกักตุนสินค้า ยืนยันว่า สามารถตรวจสอบได้ ดังนั้นจึงเตือนผู้ค้าอย่าฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา หากพบจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พุทธศักราช 2542 ผู้ใดกักตุนสินค้าควบคุม โดยมีสินค้าควบคุมไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่กำหนด หรือไม่นำสินค้าควบคุมที่มีไว้ออกจำหน่าย หรือเสนอขายตามปกติ หรือปฏิเสธการจำหน่ายโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @onenews31
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก