วันที่ 12 กรกฎาคม 2560 นายวีระพล จิรประดิษฐกุล โฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ปรับค่าเอฟทีงวดเดือนกันยายน-ธันวาคมนี้ อีก 8.87 สตางค์ต่อหน่วย ตามต้นทุนในการผลิตและจัดหาไฟฟ้าที่สูงขึ้นในช่วงเดือนดังกล่าว หลังจากคำนวณค่าเอฟทีแล้วอยู่ที่ -15.90 สตางค์ต่อหน่วย คาดค่าเอฟทีจะมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องจนถึงสิ้นปีนี้ และมีผลทำให้ค่าไฟฟ้าปีนี้อยู่ในช่วงขาขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาเชื้อเพลิงและการผลิตไฟฟ้า อีกอย่างหนึ่งคือ อัตราแลกเปลี่ยนที่เงินบาทแข็งค่ากว่าช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม ที่ระดับ 34.31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็น 34.19 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หรือแข็งค่าขึ้นกว่างวดก่อนประมาณ 0.12 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่ความต้องการพลังงานไฟฟ้าในช่วงเดือนกันยายน-ธันวาคม เท่ากับ 61,420
ล้านหน่วย ลดลงจากช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม เท่ากับ 4,067 ล้านหน่วย
คิดเป็นลดลง 6.21%
ซึ่งสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าในช่วงเดือนกันยายน-ธันวาคม
ยังคงใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก 63.64% รองลงมาเป็นรับซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาว 12.63% ลิกไนต์ 9.14% และถ่านหินนำเข้า
7%
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก