x close

ประกันสุขภาพแบบไหนที่ผู้หญิงควรมี !

ประกันสุขภาพ
 
          ประกันสุขภาพสำหรับผู้หญิงจำเป็นมาก-น้อยแค่ไหน แล้วหากคิดจะทำประกัน ควรเลือกประกันประเภทไหนดี

          ผู้หญิงส่วนใหญ่ให้ความใส่ใจกับสมาชิกทุกคนในครอบครัวทั้งบทบาทของการเป็นแม่ เป็นน้อง เป็นพี่ จนบางครั้งก็ลืมใส่ใจหรือมองข้ามการดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองไป อีกทั้งไลฟ์สไตล์ของคนไทยในปัจจุบัน ทั้งนิสัยการกิน ภาระหน้าที่การงาน ปัญหาปากท้อง รวมถึงความเสี่ยงกับอุบัติเหตุต่าง ๆ เป็นปัจจัยเสี่ยงกับผู้หญิงทั้งกับร่างกายและจิตใจ

          ยิ่งไปกว่านั้นสังคมไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ ผู้หญิงหลาย ๆ ท่าน โดยเฉพาะคนเป็นแม่ จึงอยู่ในช่วงวัยที่ต้องเผชิญกับปัญหาเจ็บป่วยต่าง ๆ และต้องการการดูแลเป็นพิเศษ โดยข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ปี 2559 ค่ารักษาพยาบาลของคนไทยโดยรวม มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 344,000 ล้านบาท

ประกันสุขภาพ

          K-Expert บริการที่ปรึกษาด้านการเงิน ธนาคารกสิกรไทย ให้คำแนะนำว่า ด้วยวัยที่เพิ่มขึ้น ปัญหาด้านสุขภาพที่ซับซ้อน สภาพสังคมที่แปรเปลี่ยน และอัตราค่ารักษาพยาบาลที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ผู้หญิงจึงควรเตรียมตัวรับมือกับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น การซื้อประกันสุขภาพ เป็นแนวทางหนึ่งในการจัดการความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยโดยการซื้อประกันสุขภาพ เพื่อไม่ให้ต้องเผชิญกับปัญหาการแบกรับค่าใช้จ่ายมหาศาลในการรักษาพยาบาล

ประกันคุ้มครองการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร

          เป็นความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายของผู้หญิงได้ ประกันคุ้มครองการตั้งครรภ์และการคลอดบุตรจึงเป็นเรื่องที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม โดยทั่วไปความคุ้มครองจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ

          - คุ้มครองขณะตั้งครรภ์ เช่น ทารกในครรภ์เสียชีวิตในระยะเวลาที่กำหนด หรือการผ่าตัดเนื่องจากภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก
          - คุ้มครองหลังการคลอดบุตร เช่น คุณแม่หรือทารกเสียชีวิตภายในระยะเวลาที่กำหนด ทารกมีโรคประจำตัวแต่กำเนิด เป็นต้น

ประกันโรคร้าย

          จากสถิติการเสียชีวิตของคนไทยพบว่า ทุก ๆ 1 ชั่วโมงจะมีคนเสียชีวิตจาก 5 โรคหลัก ได้แก่ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือด และโรคความดันโลหิตสูง ยิ่งใครที่มีคนในครอบครัวหรือญาติพี่น้องมีประวัติการเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรง ก็ยิ่งควรทำ เพราะค่ารักษาครั้งหนึ่งอาจสูงถึงหลักแสนหรือหลักล้าน ถ้ามีเงินเก็บไม่เพียงพอ อาจส่งผลกระทบต่อการเงินได้

          ประกันโรคร้ายแรงก็มีหลายรูปแบบด้วยกัน บางแบบคุ้มครองเฉพาะโรคมะเร็ง บางแบบคุ้มครอง 4-5 โรคที่คนไทยเป็นกันมาก หรือบางแบบคุ้มครองถึง 40 หรือ 50 โรคร้ายแรง ซึ่งแบบที่ให้ความคุ้มครองหลายโรคจะมีเบี้ยประกันที่สูงกว่าแบบที่คุ้มครองเพียงไม่กี่โรคเท่านั้น

          สิ่งสำคัญ คือ ควรพิจารณารายละเอียดความคุ้มครองจากกรมธรรม์อย่างรอบคอบ เช่น ให้ความคุ้มครองโรคมะเร็งเฉพาะระยะลุกลามหรือคุ้มครองมะเร็งทุกระยะ และในส่วนของประกันสุขภาพโรคร้ายแรง ซึ่งส่วนใหญ่จะให้ความคุ้มครอง 30-40 โรคร้ายแรง ในบางกรมธรรม์เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคใดโรคหนึ่งแล้ว เมื่อบริษัทประกันจ่ายเงินชดเชยให้จะถือว่าความคุ้มครองสิ้นสุดลงทันที แต่บางกรมธรรม์ยังคงให้ความคุ้มครองสำหรับโรคร้ายแรงอื่น ๆ อยู่

นอกจากนี้ K-Expert มีคำแนะนำในการพิจารณาทำประกันสุขภาพ


ประกันสุขภาพ

ซื้อแบบแยกค่าใช้จ่าย หรือ ซื้อแบบเหมาจ่าย


          ประกันสุขภาพสามารถแบ่งเป็น 2 รูปแบบหลัก ๆ ด้วยกัน คือ แบบแยกค่าใช้จ่าย และแบบเหมาจ่าย โดยถ้ามองว่าแต่ละครั้งที่เจ็บป่วย ค่าใช้จ่ายไม่ได้สูงมากนัก ให้เลือกทำประกันสุขภาพแบบแยกค่าใช้จ่าย โดยดูว่าโรงพยาบาลที่คาดว่าจะเข้ารับบริการเมื่อเจ็บป่วยนั้น มีค่าห้องเท่าไร เพื่อเลือกซื้อวงเงินค่าห้องของแบบประกันให้สอดคล้องกัน ยิ่งค่าห้องสูง วงเงินค่ารักษา เช่น ค่าอาหาร ค่าหมอ ค่ายา ค่าผ่าตัด ค่ารักษาพยาบาลอื่น ๆ ก็ยิ่งสูงตาม แต่ถ้ามีค่าใช้จ่ายรายการใดที่เกินวงเงิน ก็ต้องออกค่าใช้จ่ายในส่วนนั้นเพิ่มเติมเอง โดยอัตราค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายจะขึ้นอยู่กับค่าห้อง

          ในกรณีต้องการได้รับความคุ้มครองจากประกันให้ครอบคลุมค่ารักษามากที่สุด ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายจะเหมาะกว่า อย่างไรก็ตาม ประกันสุขภาพแบบนี้อาจมีค่าเบี้ยประกันที่สูง เนื่องจากไม่มีการจำกัดวงเงินค่าใช้จ่ายในแต่ละรายการ และบางกรมธรรม์อาจกำหนดวงเงินสำหรับค่ารักษาบางรายการ เช่น ค่าห้อง โดยถ้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลที่มีค่าห้องสูงกว่าที่กำหนดในกรมธรรม์ จะต้องจ่ายเงินสำหรับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เองด้วย หรือซื้อประกันสุขภาพแบบแยกค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อให้มีความคุ้มครองเพิ่มขึ้นก็ได้

ซื้อเฉพาะคุ้มครองผู้ป่วยใน หรือ ซื้อเพิ่มเติมผู้ป่วยนอก


          ประกันสุขภาพโดยทั่วไป จะคุ้มครองค่ารักษากรณีที่เป็นผู้ป่วยใน คือ สามารถเบิกเคลมค่ารักษาจากประกันได้เมื่อมีการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง หรือป่วยด้วยโรคที่จัดอยู่ใน Day Case คือ เป็นโรคที่เมื่อรับการรักษาแล้ว ไม่ต้องแอดมิด สามารถกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้ และเพียงวันเดียวก็ทำงานหรือใช้ชีวิตได้ตามปกติ

          ส่วนความคุ้มครองกรณีผู้ป่วยนอก แบบที่ไม่ต้องพักฟื้นในโรงพยาบาล หรือการรักษาตามคลินิกทั่วไป มักต้องซื้อเพิ่มเติม แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการรักษาต่อครั้งมักไม่สูงนัก แต่โดยส่วนใหญ่ คนเรามีโอกาสเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้บ่อยกว่าการเจ็บป่วยแบบที่ต้องนอนโรงพยาบาล ทำให้ถ้ารวมค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งเข้าด้วยกันแล้ว อาจเป็นจำนวนเงินที่สูงได้ ดังนั้น ถ้ามองว่าตัวเองมีโอกาสเจ็บป่วยบ่อย ควรซื้อความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอกไว้ด้วย แม้ว่าต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันสูงขึ้น แต่ช่วยเพิ่มความคุ้มครองการจัดการความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยโดยการซื้อประกันสุขภาพ เป็นแนวทางหนึ่งที่ไม่ปล่อยให้โรคร้ายทำร้ายสุขภาพการเงินและสุขภาพจิตของคนในครอบครัว


ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ประกันสุขภาพแบบไหนที่ผู้หญิงควรมี ! อัปเดตล่าสุด 21 มิถุนายน 2564 เวลา 17:54:59 13,238 อ่าน
TOP