อยากร่ำรวยด้วยน้ำพักน้ำแรง แค่ขยันอย่างเดียวคงไม่พอ แต่ต้องมีนิสัยแบบเศรษฐี ที่สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยหนึ่งสมองและสองมือของตัวเองด้วย ถึงจะเรียกว่าครบเครื่อง
หลายคนมักคิดว่าความสำเร็จและความมั่งคั่งที่มาจากน้ำพักน้ำแรงนั้นต้องอาศัยความขยันเป็นหลัก
ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่ถูกไปเสียทีเดียว
เพราะเหล่าบรรดาอภิมหาเศรษฐีที่ประสบความสำเร็จจากสองมือของตนเองนั้นต่างก็มีนิสัยบางอย่างที่ช่วยผลักดันให้ตนเองไปสู่ความสำเร็จได้
ซึ่งในวันนี้เราพาไปดูกันว่านิสัยที่ว่านั้นคืออะไร
และเพราะอะไรนิสัยเหล่านี้จึงทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จ
นำพาตนเองจากจุดเริ่มต้นที่ไม่มีอะไรเลยมาสู่การเป็นบุคคลที่มั่งคั่ง
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว
นี่เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเลย
1. ออกกำลังกายเป็นประจำ
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทุกวันถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนประสบความสำเร็จ เพราะการออกกำลังกายไม่เพียงเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง แต่ยังส่งผลดีต่อสมองอีกด้วย เพราะจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเซลล์สมองมากขึ้น ทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. อ่านหนังสืออยู่เสมอ
การอ่านหนังสือเป็นการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด 88% ของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจะใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาทีต่อวันในการอ่านหนังสือ เพื่อเรียนรู้และพัฒนาตนเอง และหนังสือที่กลุ่มคนเหล่านี้อ่านส่วนใหญ่มักจะเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับประวัติของคนที่ประสบความสำเร็จ การพัฒนาตนเอง และหนังสือประวัติศาสตร์
3. ตื่นเช้า
สุภาษิตที่ว่า "นกที่ตื่นเช้า ย่อมจับหนอนได้ก่อน" ยังคงใช้ได้ดีในทุกยุคทุกสมัย และเป็นสิ่งที่นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้วยตนเองต่างยึดถือไว้เป็นหลัก จึงทำให้พวกเขาตื่นเช้าอยู่เสมอ โดยในการศึกษาหนึ่งพบว่าเกือบ 50% ของคนที่ร่ำรวยจากน้ำพักน้ำแรงของตนเองมักจะเป็นคนที่ตื่นก่อนเวลาทำงานของตัวเอง 3 ชั่วโมง ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าพวกเขาจะเผื่อเวลาไว้เพื่อเหตุการณ์ที่อาจคาดไม่ถึง ซึ่งอาจกระทบกับการทำงานของตัวเองได้
4. แสวงหาที่ปรึกษา
การมีที่ปรึกษาที่ดีเป็นเคล็ดลับในการประสบความสำเร็จของเศรษฐีจำนวนไม่น้อย ซึ่งที่ปรึกษาของพวกเขาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคนที่ประสบความสำเร็จมาก่อน หรือไม่ก็ผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์นั้น ๆ โดยที่ปรึกษาที่ดีจะต้องคอยให้กำลังใจและผลักดันให้นักธุรกิจเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง และคอยสอนว่าอะไรที่ควรหรือไม่ควรทำ รวมทั้งแบ่งปันประสบการณ์เพื่อให้นักธุรกิจนั้นได้นำมาเป็นบทเรียนประกอบการตัดสินใจ
5. ใช้เวลากับคนที่ประสบความสำเร็จ
เราจะสังเกตได้ว่าคนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ที่ประสบความสำเร็จคนอื่น ๆ นั่นก็เป็นเพราะว่าเมื่อพวกเขาอยู่ด้วยกันแล้ว ก็ต่างจะมอบแง่คิดดี ๆ ให้แก่กันและแบ่งปันประสบการณ์ให้กันอยู่เสมอ รวมทั้งคอยให้กำลังใจและนำพากันไปสู่ความสำเร็จ
6. คิดบวก
ความสำเร็จในระยะยาวนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากการทำงานหนักเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีการคิดบวกมาเสริมทัพด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ของคนที่ประสบความสำเร็จจนกลายเป็นมหาเศรษฐีด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองล้วนแต่เป็นคนที่คิดในแง่บวกอยู่เสมอ นั่นก็เป็นเพราะว่าความคิดในแง่บวกสามารถกระตุ้นให้คนเราก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ดีกว่า ในทางกลับกัน ความคิดในแง่ลบจะยิ่งบั่นทอนความมุ่งมั่นและทำให้ประสบความล้มเหลวได้ง่ายกว่า
7. ยื่นมือช่วยผู้อื่นให้ประสบความสำเร็จไปพร้อม ๆ กัน
นักธุรกิจส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จจนมั่งคั่งเชื่อว่าไม่มีใครสามารถประสบความสำเร็จได้โดยลำพัง แต่จะต้องมีกลุ่มคนที่มีความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จคอยหนุนหลังอยู่ด้วย เพราะคนที่มีเป้าหมายที่ความสำเร็จเหมือน ๆ กันจะช่วยกันผลักดันให้ทีมไปสู่ความสำเร็จได้ดีกว่าการทำอะไรเพียงลำพัง
8. วางตัวเหมาะสม และมีมารยาทที่ดี
คนที่ประสบความสำเร็จแทบจะทุกคนล้วนแต่เป็นคนที่วางตัวเหมาะสมและมีมารยาททางสังคมที่ดี เพราะนั่นเป็นหนึ่งในกุญแจสู่ความสำเร็จ การวางตัวอย่างเหมาะสมในวงสังคมจะทำให้คนอื่น ๆ มองเราในแง่บวก และอยากให้ความช่วยเหลือเมื่อร้องขอ ซึ่งมารยาทที่ดีง่าย ๆ ที่เหล่านักธุรกิจไม่เคยพลาดก็คือ การส่งการ์ดขอบคุณ หรือการแสดงความยินดีด้วยความจริงใจในโอกาสต่าง ๆ การแต่งตัวอย่างถูกกาลเทศะ รวมทั้งมารยาทบนโต๊ะอาหาร
9. ให้เวลา 15-30 นาที ต่อวันในการคิดถึงเรื่องต่าง ๆ
การคิด เป็นอีกกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จ ดังนั้นเหล่าผู้คนที่ประสบความสำเร็จจึงให้ความสำคัญกับการคิดเป็นอย่างมาก โดยมีการศึกษาหนึ่งได้เปิดเผยว่า กลุ่มคนเหล่านี้จะให้เวลาตัวเองวันละ 15-30 นาทีในช่วงเช้า เพื่อคิดถึงเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธุรกิจ สุขภาพ การเงิน หรือแม้แต่เรื่องของการกุศล ซึ่งนั่นทำให้พวกเขาสามารถจัดการสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
10. ยินดีน้อมรับข้อเสนอแนะ
ความสำเร็จจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ถ้าหากไม่มีการรับฟังข้อเสนอแนะ ฟีดแบ็กต่าง ๆ ที่ได้รับจากการดำเนินธุรกิจล้วนแต่เป็นสิ่งที่ผู้ประสบความสำเร็จนั้นต้องการ เพื่อให้ตนเองรู้ว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้น เดินไปในทางที่ถูกที่ควร ดังนั้นเหล่าบรรดาเศรษฐีที่สร้างตัวขึ้นมาด้วยตัวเองจะรับฟังความคิดเห็นจากผู้อื่นเสมอ ไม่ว่าจะเป็นแค่เพียงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตาม
11. จดบันทึกสิ่งที่ต้องทำอยู่เป็นนิจ
การดำเนินงานหรือธุรกิจต่าง ๆ ในแต่ละวันล้วนแต่มีเรื่องมากมายให้ต้องทำ ซึ่งถ้าหากเก็บทุกอย่างไว้ในหัว นอกจากอาจจะทำให้หลงลืมแล้วก็ยังทำให้สมองใช้งานอย่างหนัก และไม่เป็นผลดีต่อการใช้ความคิดในการตัดสินใจ ดังนั้นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทั้งหลาย จึงมักเลือกที่จะจดบันทึกสิ่งที่ทำไว้ในสมุดบันทึกเสมอ เพื่อให้สมองได้ทำงานด้านอื่น ๆ อย่างเต็มประสิทธิภาพ
12. ใช้เวลาทุกนาทีอย่างคุ้มค่า
อีกเคล็ดลับหนึ่งที่กลายเป็นนิสัยของบรรดาเหล่ามหาเศรษฐีระดับโลกที่สร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาด้วยตนเองนั่นก็คือ พวกเขาใช้เวลาทุกนาทีอย่างคุ้มค่าเสมอ และจะไม่ให้ความใส่ใจกับสิ่งที่ทำให้เสียเวลาเด็ดขาด เพราะพวกเขาเชื่อว่าถ้ามัวแต่ให้เวลากับทุก ๆ เรื่อง ก็จะมีแต่เสียเปล่า จากการศึกษาพบว่า 67% ของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้วยความสามารถของตัวเองใช้เวลาในการดูทีวีต่อวันน้อยกว่า 1 ชั่วโมง และ 63% ของนักธุรกิจเหล่านั้นก็ใช้เวลาไปกับกิจกรรมบนโลกออนไลน์อย่างการเล่นเฟซบุ๊กและการดูยูทูบวันละไม่ถึง 1 ชั่วโมงเช่นกัน
13. มุ่งมั่นในสิ่งที่ตัวเองสนใจ
ผู้คนส่วนใหญ่มักเลือกงานที่มีความมั่นคงเป็นอันดับแรก แต่สำหรับบรรดามหาเศรษฐีกลับเลือกงานที่ตัวเองมีความสนใจมากกว่า ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะพวกเขามีความเชื่อว่า หากเลือกทำในสิ่งที่ชอบหรือให้ความสนใจ จะทำให้พวกเขามีความมุ่งมั่นและสามารถทำงานได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
14. ไม่เดินตามใคร
จะสังเกตได้ว่ามหาเศรษฐีที่ประสบความสำเร็จจะเป็นกลุ่มคนที่ไม่ไหลไปตามกระแสนิยมของคนทั่วไป แต่จะสร้างจุดยืนของตนเองและชักจูงให้ผู้อื่นเข้าร่วมด้วยเสียมากกว่า เพราะพวกเขาเชื่อว่าการเดินตามคนอื่นนั้นไม่มีวันประสบความสำเร็จ
15. ไม่กลัวที่จะล้มเหลว
แน่นอนว่าการดำเนินธุรกิจย่อมตั้งอยู่บนความเสี่ยง และความล้มเหลวสามารถเกิดขึ้นได้ แต่บรรดาเหล่าเศรษฐีที่มั่งคั่งขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง กลับเป็นคนที่ไม่กลัวคำว่าล้มเหลว เพราะพวกเขาเชื่อว่าทุกครั้งที่ล้มเหลว นั่นคือโอกาสที่ทำให้พวกเขาได้เติบโตขึ้นนั่นเอง
เห็นไหมคะว่านิสัยใจคอก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จได้เช่นกัน ถ้าคิดจะเป็นเศรษฐีในวันหน้า ลองฝึกและปรับเปลี่ยนนิสัยตัวเองกันเสียใหม่เลย
ขอบคุณข้อมูลจาก
businessinsider.com
trustorrun.com
fastcompany.com