หุ่นยนต์ทำงานแทนคนนี่ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเคยเห็นหุ่นยนต์ทำงานบ้านมาบ้างแล้ว แต่ที่น่าตกใจคือ ในอนาคตอันใกล้ อาจไม่มีคนทำ 11 อาชีพนี้อีกต่อไป เพราะหุ่นยนต์จะมาทำหน้าที่แทน !
งานนี้บอกเลยว่าไม่ใช่แฟนแต่ก็ทำแทนได้ เพราะจากการศึกษาที่ผ่านความร่วมมือของหลาย ๆ ฝ่าย ระบุเป็นทิศทางเดียวกันว่า ในอนาคตอีกไม่น่าจะเกิน 20 ปี อาชีพต่อไปนี้อาจไม่ใช่อาชีพของคนอีกต่อไป เพราะเหล่าเครื่องกลที่เรียกกันว่าหุ่นยนต์อาจมาสวมบทบาทแทนเรา
โดยทางสำนักข่าว BBC ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และ Deloitte ระดมสมองและลองสำรวจดูว่า อาชีพไหนบ้างที่มีความเป็นไปได้สูงกับการปลดคนออกจากหน้าที่ แล้วเรียกใช้หุ่นยนต์ให้มาทำหน้าที่แทน ซึ่งอาชีพที่ตกผลึกออกมาให้เห็นก็มีดังนี้
1. อาชีพคอลเซ็นเตอร์ และเทเลเซลส์ โอกาสโดนหุ่นยนต์แย่งงานสูงถึง 99% ภายในระยะเวลาไม่เกิน 20 ปีข้างหน้า 2. พนักงานพิมพ์ดีด รวมทั้งอาชีพที่เกี่ยวกับการพิมพ์ผ่านคีย์บอร์ดทุกประเภท โอกาสโดนแย่งงานอยู่ที่ 98.5% 3. เลขานุการศาล มีความเสี่ยงประมาณ 97.6% ที่จะถูกหุ่นยนต์แย่งงาน
4. ผู้จัดการด้านการเงิน 97.6% กับโอกาสตกงานเพราะหุ่นยนต์ 5. ฝ่ายตรวจสอบและทดสอบสินค้า มีโอกาสตกงานอยู่ที่ 97.6% 6. ผู้ชั่งน้ำหนัก, ผู้ให้คะแนนการสอบ และผู้คัดเลือก โอกาสตกงานอยู่ที่ 97.6% 7. ฝ่ายขาย มีโอกาสตกงานประมาณ 97.2%
8. บรรณารักษ์ นักบัญชี ฝ่ายการเงิน ความเสี่ยงอยู่ที่ 97.0% 9. พนักงานเสนอขายประกัน เสี่ยงตกงานประมาณ 97.0%
10. พนักงานธนาคารและพนักงานไปรษณีย์ เสี่ยงตกงาน 96.8% 11. การบริหารการคลัง ขั้นผู้บริหารระดับสูงก็มีความเสี่ยงตกงานอยู่ที่ 96.8% เช่นกันทั้งนี้ทางทีมวิเคราะห์ยังเผยรายชื่อที่อาจได้รับผลกระทบน้อย หรือไม่ได้รับผลกระทบเลยกับการที่หุ่นยนต์มีบทบาทมากขึ้นมาด้วย โดยอาชีพที่มีความเสี่ยงตกงานน้อยคือ อาชีพที่เกี่ยวกับการบริการ โดยเฉพาะพนักงานโรงแรม เจ้าของกิจการ นักคิดนักเขียน รวมทั้งอาชีพคุณครู และบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งมีอัตราความเสี่ยงตกงานอยู่ที่ 0.4% เท่านั้น ส่วนอาชีพนักบำบัดทางการพูดและภาษา มีความเสี่ยงตกงานอยู่ที่ 5% และผู้ดูแลเครือข่ายสังคม (โซเชียลเน็ตเวิร์ก) รวมทั้งผู้กำกับ มีความเสี่ยงถูกหุ่นยนต์แย่งงานอยู่ที่ 7%
อย่างไรก็ตามเราจะเห็นได้เลยว่า อาชีพที่มีสิทธิ์ถูกหุ่นยนต์แย่งงานจะเป็นอาชีพที่เป็นงานที่ทำซ้ำ ๆ อย่างนั้นทุกวัน เป็นงานที่ไม่ต้องผ่านกระบวนการคิดที่ซับซ้อน ซึ่งอาจจะตั้งโปรแกรมให้หุ่นยนต์ทำงานแทนคนได้ แต่อย่างไรก็ดี การปล่อยให้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับชีวิตมากขึ้นทุกวัน ก็อาจเป็นเหมือนดาบสองคมที่ควรระวัง และต้องคอยลุ้นกันต่อไปว่าอนาคตของโลกเราจะเดินต่อไปในทิศทางไหน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Science alert
BBC
