มหาวิทยาลัยหอการค้า เผยหนี้ครัวเรือนคนไทยเพิ่มสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พบหนี้นอกระบบมากกว่าหนี้ในระบบเป็นครั้งแรก รวมทั้งคนไทยมีปัญหาชำระหนี้น้อยลงมากขึ้นเรื่อย ๆ
วันที่ 3 กันยายน 2558 ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผย ผลการสำรวจสถานภาพหนี้ภาคครัวเรือนจากประชากรทั่วประเทศ พบว่า ปัจจุบันคนไทยมีหนี้ครัวเรือนสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อเทียบจากผลการสำรวจตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา ดังนี้
ปี 2551 หนี้ครัวเรือนของคนไทยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 135,166 บาทต่อครัวเรือน
ปี 2552 หนี้ครัวเรือนของคนไทยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 147,542 บาทต่อครัวเรือน
ปี 2553 หนี้ครัวเรือนของคนไทยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 151,432 บาทต่อครัวเรือน
ปี 2554 หนี้ครัวเรือนของคนไทยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 159,432 บาทต่อครัวเรือน
ปี 2555 หนี้ครัวเรือนของคนไทยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 168,517 บาทต่อครัวเรือน
ปี 2556 หนี้ครัวเรือนของคนไทยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 188,774 บาทต่อครัวเรือน
ปี 2557 หนี้ครัวเรือนของคนไทยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 219,158 บาทต่อครัวเรือน
ปี 2558 หนี้ครัวเรือนของคนไทยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 248,004 บาทต่อครัวเรือน
โดยในช่วง 2-3 ปีแรก มีอัตราเพิ่มขึ้นประมาณ 5% จนกระทั่งปี 2555-2556 หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นเป็น 12% หลังจากนั้นจึงเพิ่มขึ้นเป็น 16% และในปี 2557-2558 เพิ่มขึ้นเป็น 13% ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 12% ต่อปี
นอกจากนี้เมื่อเทียบสถิติการชำระหนี้ของคนไทยตั้งแต่ปี 2549-ปัจจุบัน พบว่า คนไทยมีพฤติกรรมการชำระหนี้น้อยลงไปเรื่อย ๆ รวมทั้งในปัจจุบัน คนไทยเป็นหนี้นอกระบบมากกว่าเป็นหนี้ในระบบเป็นครั้งแรก โดยกลุ่มตัวอย่างให้เหตุผลว่า กู้หนี้ในระบบเต็มวงเงินแล้ว จึงหันไปหาหนี้นอกระบบแทน
ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ตนเองเห็นด้วยกับนโยบายสินเชื่อให้กับประชาชนของรัฐบาล ในโครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อให้ประชาชนไปชำระหนี้ แต่ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ดังนั้นรัฐบาลควรเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ภาพจาก ครอบครัวข่าว 3
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
,