สิทธิประกันสังคมใหม่ เพิ่มผลประโยชน์มากมายให้ผู้ประกันตน ครอบคลุมหลายกรณี ทั้งเจ็บป่วย ตาย ทุพพลภาพ ว่างงาน คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร มาเช็กกันหน่อย
งานนี้บอกได้เลยว่าคนที่อยู่ในระบบประกันสังคมเตรียมเฮกันดัง ๆ ได้เลย เพราะเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2558 พระราชบัญญัติประกันสังคม ฉบับที่ 4 พ.ศ. 2558 ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องขอบอกเลยว่าในพระราชบัญญัติฉบับนี้ได้มีการเพิ่มเติมในส่วนของสิทธิประโยชน์ทดแทนที่มีอยู่เดิม ซึ่งจะทำให้ผู้ประกันตนได้รับประโยชน์เพิ่มมากขึ้นชนิดที่เรียกได้ว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยพระราชบัญญัติฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ภายใน 120 วัน นับตั้งแต่วันที่ประกาศ นั่นก็คือจะมีผลบังคับใช้จริง ๆ ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2558 เรามาดูกันว่าสิทธิประโยชน์ทดแทนที่เพิ่มเติมขึ้นมานั้นมีอะไรบ้าง
กรณีผู้ประกันตนจงใจให้ตนเองได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือตาย โดยไม่ใช่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน
ประโยชน์ทดแทนเดิม | สิทธิประโยชน์ทดแทนใหม่ |
ไม่ได้รับความคุ้มครอง กรณีผู้ประกันตนจงใจทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือตาย | มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนหากผู้ประกันตนจงใจทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ ตาย หรือยินยอมให้ผู้อื่นก่อให้เกิดขึ้น |
กรณีผู้ประกันตนประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
ประโยชน์ทดแทนเดิม | สิทธิประโยชน์ทดแทนใหม่ |
มีสิทธิได้รับเฉพาะค่าตรวจวินิจฉัยโรค ค่าบำบัดทางการแพทย์ ค่ากินอยู่และรักษาพยาบาลในสถานพยาบาล ค่ายา และค่าเวชภัณฑ์ ค่ารถพยาบาล หรือค่าพาหนะรับส่งผู้ป่วย | ได้รับค่าส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคและค่าใช้จ่ายเป็นเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ในกรณีได้รับความเสียหายจากการรับบริการทางการแพทย์ |
กรณีทุพพลภาพ
ผู้ทุพพลภาพอยู่ก่อนวันที่ 31 มีนาคม 2558
ประโยชน์ทดแทนเดิม | สิทธิประโยชน์ทดแทนใหม่ |
ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 15 ปี | ได้รับเงินทดแทนการขายรายได้ตลอดชีวิต |
ผู้ทุพพลภาพหลังจากวันที่ 31 มีนาคม 2558 เป็นต้นไป
ประโยชน์ทดแทนเดิม | สิทธิประโยชน์ทดแทนใหม่ |
ต้องสูญเสียสมรรถภาพของร่างกายร้อยละ 50 ถึงจะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน | ไม่ต้องสูญเสียสมรรถภาพของร่างกายร้อยละ 50 ก็มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน |
กรณีเป็นผู้เจ็บป่วยเรื้อรังและทุพพลภาพ
ประโยชน์ทดแทนเดิม | สิทธิประโยชน์ทดแทนใหม่ |
ไม่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีตาย | ได้รับสิทธิประโยชน์กรณีตาย แม้ส่งเงินสมทบไม่ครบตามสิทธิ |
กรณีเสียชีวิต
แยกเป็น 2 กรณี คือ กรณีส่งเงินสมทบมาแล้ว 36 เดือน แต่ไม่ถึง 120 เดือน และกรณีที่ส่งเงินสมทบมาแล้ว 120 เดือนขึ้นไป
กรณีที่ 1 ส่งเงินสมทบมาแล้ว 36 เดือน (3 ปี) แต่ไม่ถึง 120 เดือน (10 ปี)
ประโยชน์ทดแทนเดิม | สิทธิประโยชน์ทดแทนใหม่ |
หากผู้ประกันตนถึงแก่ความตาย ให้จ่ายเงินสงเคราะห์เป็นจำนวนเท่ากับค่าจ้าง 1.5 เดือน | หากผู้ประกันตนถึงแก่ความตาย ให้จ่ายเงินสงเคราะห์เท่ากับ 50% ของค่าจ้างรายเดือน คูณด้วย 4 (เท่ากับค่าจ้างประมาณ 2 เดือน) |
กรณีที่ 2 ส่งเงินสมทบมาแล้วมากกว่า 120 เดือน (10 ปี)
ประโยชน์ทดแทนเดิม | สิทธิประโยชน์ทดแทนใหม่ |
หากผู้ประกันตนถึงแก่ความตายให้จ่ายเงินสงเคราะห์เท่ากับค่าจ้างเฉลี่ย 5 เดือน | หากผู้ประกันตนถึงแก่ความตายให้จ่ายเงินสงเคราะห์เท่ากับ 50% ของค่าจ้าง คูณด้วย 12 (เท่ากับค่าจ้างประมาณ 6 เดือน) |
กรณีคลอดบุตร
ประโยชน์ทดแทนเดิม | สิทธิประโยชน์ทดแทนใหม่ |
- มีสิทธิเบิกค่าคลอดบุตรได้ไม่เกิน 2 ครั้ง เหมาจ่ายครั้งละ 13,000 บาท - ได้รับเงินสงเคราะห์การหยุดงาน 90 วัน | - มีสิทธิเบิกค่าคลอดบุตรได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ครั้งละ 13,000 บาท - เงินสงเคราะห์การหยุดงาน 90 วัน ไม่เกิน 2 ครั้ง สำหรับผู้ประกันตนหญิง |
กรณีสงเคราะห์บุตร
ประโยชน์ทดแทนเดิม | สิทธิประโยชน์ทดแทนใหม่ |
มีสิทธิเบิกค่าสงเคราะห์บุตรอายุ 0-6 ปี ได้คราวละไม่เกิน 2 คน เหมาจ่ายรายเดือน เดือนละ 400 บาทต่อคน | มีสิทธิเบิกค่าสงเคราะห์บุตรอายุ 0-6 ปี ได้คราวละไม่เกิน 3 คน เหมาจ่ายรายเดือน เดือนละ 400 บาทต่อคน |
ประโยชน์ทดแทนเดิม | สิทธิประโยชน์ทดแทนใหม่ |
- ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับเมื่อถูกเลิกจ้างหรือลาออก | - ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับเมื่อว่างงาน กรณีนายจ้างหยุดกิจการชั่วคราว เนื่องจากเหตุสุดวิสัยโดยยังไม่มีการเลิกจ้าง เช่น กรณีสถานประกอบการถูกน้ำท่วม |
กรณีชราภาพ (เงินบำเหน็จชราภาพ)
ประโยชน์ทดแทนเดิม | สิทธิประโยชน์ทดแทนใหม่ |
- จ่ายให้ทายาทตามกฎหมายเท่านั้น คือ บิดา มารดา บุตร และคู่สมรส - บุคคลที่ไม่ใช่ทายาทตามกฎหมาย ไม่มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ - ผู้ประกันตนไม่อาจทำหนังสือระบุให้บุคคลอื่นรับเงินบำเหน็จชราภาพได้ - หากผู้ประกันตนไม่มีทายาท เงินบำเหน็จชราภาพจะตกเป็นของกองทุน | - ผู้ประกันตนสามารถทำหนังสือระบุให้บุคคลอื่นรับเงินบำเหน็จชราภาพไว้ล่วงหน้าได้ โดยมีสิทธิได้รับร่วมกับทายาท - หากผู้ประกันตนไม่มีทายาท หรือไม่มีบุคคลที่ทำหนังสือระบุ จะให้สิทธิแก่พี่ น้อง ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา |
ประโยชน์ทดแทนเดิม | สิทธิประโยชน์ทดแทนใหม่ |
คุ้มครองเฉพาะลูกจ้างชั่วคราวรายเดือน | ขยายความคุ้มครองไปถึงลูกจ้างชั่วคราวทุกประเภทของส่วนราชการ |
ประโยชน์ทดแทนเดิม | สิทธิประโยชน์ทดแทนใหม่ |
ไม่คุ้มครองลูกจ้างของนายจ้างที่มีสำนักงานในประเทศ และไปประจำทำงานในต่างประเทศ | ขยายความคุ้มครองให้กับลูกจ้างของนายจ้างที่มีสำนักงานในประเทศ และไปประจำทำงานในต่างประเทศ |
ประโยชน์ทดแทนเดิม | สิทธิประโยชน์ทดแทนใหม่ |
ต้องยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนภายใน 1 ปี | ต้องยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนภายใน 2 ปี |
ได้เห็นแบบนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับเงินที่คนทำงานที่อยู่ในระบบประกันสังคมทุกคนต้องเสียไปในทุก ๆ เดือน ทางสำนักงานประกันสังคมก็ไม่ได้เอาเงินของพวกเราไปไหน วันหนึ่งในเวลาที่เราเจ็บไข้ได้ป่วย หรือเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับตัวเรา ประกันสังคมก็จะนำเงินที่เรา ๆ ท่าน ๆ จ่ายไปในทุก ๆ เดือน กลับมาดูแลเรา ซึ่งเมื่อก่อนสิทธิอาจจะยังไม่ครอบคลุมในทุก ๆ ด้าน แต่จากการที่พระราชบัญญัติฉบับใหม่กำลังจะมีผลบังคับใช้จะเห็นได้ว่าสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เอื้อให้กับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งนี้สามารถสอบถามสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคม หรือเว็บไซต์ และสายด่วน 1506
***หมายเหตุ : อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 10.21 น. วันที่ 15 ตุลาคม 2558
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
สำนักงานประกันสังคม