เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
การบินไทย จัดทำแผนฟื้นฟู เพื่อลดวิกฤตขาดทุน โดยเล็งลดขนาดองค์กร ปรับลดเที่ยวบิน ปรับลดราคาตั๋ว รวมถึงปรับแผนการบริการต่อสู้กับคู่แข่ง พร้อมแต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ ดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ
วานนี้ (24 กรกฎาคม 2557) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ที่ประชุมได้อนุมัติแผนฟื้นฟูการบินไทยแล้ว พร้อมกับแต่งตั้งผู้บริการของบริษัทเข้าร่วมเป็นคณะทำงานเฉพาะกิจในการทำแผนฟื้นฟูธุรกิจ จำนวน 5 คน โดยจะนำเสนอแผนดังกล่าวต่อกระทรวงคมนาคม ในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ หลังจากนั้นจะเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ก่อนส่งไปยังคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) หรือคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
สำหรับคณะทำงานเฉพาะกิจ ได้แก่..
นายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาอย่างยั่งยืน นายปานฑิต ชนะภัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่หน่วยธุรกิจบริการการบิน นายธีรพล โชติชนาภิบาล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ นายนิรุฒ มณีพันธ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายทรัพยากรบุคคลและกำกับกิจกรรมองค์กร นายดนุช บุนนาค รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายรายได้เสริมองค์กรทั้งนี้ แผนฟื้นฟูดังกล่าว จะเน้นไปที่เป้าหมายการปรับลดค่าใช้จ่าย จำนวน 4,000 ล้านบาท และจะเพิ่มรายได้จำนวน 3,000 ล้านบาท ภายในไตรมาส 1/58 โดยมุ่งเน้นงานด้านพาณิชย์ ด้านบริการ และด้านสายการบิน และจะปรับเที่ยวบินที่มีผู้โดยสาร อาทิ เที่ยวบินยุโรป พร้อมกับหันมาเน้นเส้นทางในภูมิภาคเอเชียมากขึ้น เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เพิ่มจุดบินใหม่เน้นที่จีนและญี่ปุ่นมากขึ้น รวมทั้งจะมีจัดโปรโมชั่นร่วมกับคิงเพาเวอร์ โดยให้ผู้โดยสารการบินไทยได้ส่วนลด 10% ในการซื้อสินค้า Duty Free เพื่อดึงดูดลูกค้า
สำหรับการปรับปรุงในด้านบริการ จะทำให้เป็น Super Premium ในชั้นเฟิร์สท์คลาส และชั้นธุรกิจ (Business) โดยไม่ปรับขึ้นราคาตั๋ว รวมทั้งเพิ่มเลาจน์รองรับผู้โดยสาร และลดตั๋วชั้นประหยัดให้แข่งกับสายการบินอื่นได้
ท้ายนี้ แผนดังกล่าวจะลดค่าทำงานล่วงเวลา (OT) และโครงการเกษียณก่อนกำหนด (Early Retire) ซึ่งขณะนี้มีผู้สมัครใจ 900 คน รวมทั้งปรับลดขั้นตอนการทำงานและปรับองค์กรให้มีขนาดเล็กลง เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการทำงาน ซึ่งแผนฟื้นฟูดังกล่าวจะใช้เวลา 1-2 ปี โดยคาดว่าจะมีกำไรในปี 2560 แต่ปี 2559 ภาพรวมจะดีขึ้น ถึงแม้จะยังขาดทุน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
