Work from Home ยังไงถึงมีความสุข พามาดูเคล็ดลับที่จะช่วยให้ไม่เงียบเหงาในช่วงที่ต้องทำงานที่บ้าน เพื่อลดความเสี่ยงติด COVID-19
เพราะการแพร่ระบาดของโควิด 19 ออฟฟิศต่าง ๆ จึงมีมาตรการให้มนุษย์เงินเดือน Work from Home ทำงานที่บ้านมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ซึ่งถึงแม้ว่าจะส่งผลดีคือ ชีวิตพนักงานปลอดภัย และลดจำนวนผู้ป่วยใหม่ที่อาจเพิ่มขึ้น ในทางกลับกันก็อาจส่งผลให้มนุษย์เงินเดือนเกิดความเหงาและเฉาที่ต้องทำงานอยู่ที่บ้านคนเดียวได้ เพราะไม่ได้พบเจอเพื่อนร่วมงาน
1. กำหนดเวลาตื่นนอนอย่างชัดเจน
ปกติเราตื่นไปทำงานกี่โมงก็ควรลุกจากเตียงเวลานั้น หรือสายกว่าเดิมอีกนิดหน่อยก็พอได้ แต่อย่าเผลอเลื่อนนาฬิกาปลุกออกไปแล้วไปตื่นเอาเมื่ออีก 10 นาทีต้องเข้างานแล้วเชียว แบบนี้จะยิ่งทำให้เราลุกขึ้นมาทำงานแบบมึน ๆ งง ๆ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานแย่ลงไปด้วย
2. อาบน้ำ-แต่งตัวพร้อมทำงาน
ตื่นเช้าขึ้นมายังงัวเงีย กึ่งหลับกึ่งตื่น ลองอาบน้ำแต่งตัวหล่อ ๆ สวย ๆ เหมือนกับเวลาที่จะออกไปทำงานซะหน่อย ร่างกายจะได้สดชื่น พร้อมเริ่มต้นทำงานตลอดทั้งวัน อีกทั้งการแต่งตัวให้ดี ไม่ใส่ชุดอยู่บ้านทำงาน ยังเป็นการบอกตัวเองให้แยกแยะได้ว่านี่คือเวลาทำงานด้วยนะ เป็นการปลุกพลังให้ตัวเองได้แม้จะอยู่ที่บ้านก็ตาม
3. จด To Do List
2. อาบน้ำ-แต่งตัวพร้อมทำงาน
ตื่นเช้าขึ้นมายังงัวเงีย กึ่งหลับกึ่งตื่น ลองอาบน้ำแต่งตัวหล่อ ๆ สวย ๆ เหมือนกับเวลาที่จะออกไปทำงานซะหน่อย ร่างกายจะได้สดชื่น พร้อมเริ่มต้นทำงานตลอดทั้งวัน อีกทั้งการแต่งตัวให้ดี ไม่ใส่ชุดอยู่บ้านทำงาน ยังเป็นการบอกตัวเองให้แยกแยะได้ว่านี่คือเวลาทำงานด้วยนะ เป็นการปลุกพลังให้ตัวเองได้แม้จะอยู่ที่บ้านก็ตาม
3. จด To Do List
ตอนเช้า ๆ ลองนั่งไล่เรียงดูว่าวันนี้มีงานอะไรที่ต้องทำบ้าง จัดลำดับความสำคัญให้เรียบร้อยว่างานไหนด่วน งานไหนสำคัญต้องทำก่อน งานไหนรอได้ ชีวิตจะได้ไม่ต้องยุ่งวุ่นวายตลอดเวลา และไม่ต้องใช้สมองในการจดจำอะไรมากเกินไป ปล่อยให้สมองได้พักบ้างอะไรบ้าง
4. วิดีโอคอลหาเพื่อนร่วมงาน
เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีช่วยให้เราติดต่อกับคนอื่นได้ง่ายขึ้นแม้แต่ในการทำงาน ถึงอยู่ต่างที่กันก็สามารถติดต่อถึงกันได้ผ่านโปรแกรมแบบวิดีโอคอล ไม่ว่าจะเป็น Slack Zoom หรือ Google Hangout ดังนั้น หากใครคิดถึงเพื่อนร่วมงาน อยากจะพูดคุยเพื่อปรึกษา หรือหยอกล้อกันระหว่างทำงาน ก็จะได้สัมผัสทั้งภาพและเสียง เสมือนกับได้ทำงานอยู่ในห้องเดียวกัน ฉะนั้นถ้าใครทำงานที่บ้าน แต่อยากมีเพื่อนร่วมงานคอยปฏิสัมพันธ์ด้วยแล้วละก็ แนะนำให้ติดตั้งโปรแกรมวิดีโอคอล แล้วกด Meeting ได้เลย
4. วิดีโอคอลหาเพื่อนร่วมงาน
เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีช่วยให้เราติดต่อกับคนอื่นได้ง่ายขึ้นแม้แต่ในการทำงาน ถึงอยู่ต่างที่กันก็สามารถติดต่อถึงกันได้ผ่านโปรแกรมแบบวิดีโอคอล ไม่ว่าจะเป็น Slack Zoom หรือ Google Hangout ดังนั้น หากใครคิดถึงเพื่อนร่วมงาน อยากจะพูดคุยเพื่อปรึกษา หรือหยอกล้อกันระหว่างทำงาน ก็จะได้สัมผัสทั้งภาพและเสียง เสมือนกับได้ทำงานอยู่ในห้องเดียวกัน ฉะนั้นถ้าใครทำงานที่บ้าน แต่อยากมีเพื่อนร่วมงานคอยปฏิสัมพันธ์ด้วยแล้วละก็ แนะนำให้ติดตั้งโปรแกรมวิดีโอคอล แล้วกด Meeting ได้เลย
5. นัดทำกิจกรรมสนุก ๆ กับเพื่อนที่ทำงาน
การพูดคุยผ่านวิดีโอคอลอย่างเดียวอาจน่าเบื่อเกินไป ลองหากิจกรรมอะไรสนุก ๆ มาทำกับเพื่อนที่ทำงานเพิ่มเติม เพื่อสร้างบรรยากาศการทำงานระหว่างวันให้มีสีสัน เช่น นัดกินมื้อเที่ยงด้วยกัน ให้เพื่อนแต่ละคนผลัดกันเปิดเพลย์ลิสต์เพลงที่ชอบฟังในแต่ละวันหรือเล่นทายปัญหา นัดกันแต่งตัว หรือลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายระหว่างวันพร้อมกัน ซึ่งการได้ทำกิจกรรมอะไรร่วมกัน นอกจากจะช่วยให้เราไม่เหงาหรือเครียดจากการทำงาน ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนร่วมงานได้แม้ว่าตัวจะต้องไกลกันก็ตามในตอนนี้
6. เปลี่ยนสถานที่ทำงานบ้าง
นั่งทำงานในมุมเดิม ๆ ก็อาจน่าเบื่อเกินไป อาจลองเปลี่ยนสถานที่ทำงานเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง เช่น วันนี้ทำงานในห้องทำงาน พรุ่งนี้อาจย้ายไปห้องนอน ห้องรับแขก หรือโต๊ะหน้าบ้าน เพื่อไม่ให้สภาพแวดล้อมจำเจจนเกินไป
7. จัดสภาพแวดล้อมที่บ้านให้น่าทำงาน
การพูดคุยผ่านวิดีโอคอลอย่างเดียวอาจน่าเบื่อเกินไป ลองหากิจกรรมอะไรสนุก ๆ มาทำกับเพื่อนที่ทำงานเพิ่มเติม เพื่อสร้างบรรยากาศการทำงานระหว่างวันให้มีสีสัน เช่น นัดกินมื้อเที่ยงด้วยกัน ให้เพื่อนแต่ละคนผลัดกันเปิดเพลย์ลิสต์เพลงที่ชอบฟังในแต่ละวันหรือเล่นทายปัญหา นัดกันแต่งตัว หรือลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายระหว่างวันพร้อมกัน ซึ่งการได้ทำกิจกรรมอะไรร่วมกัน นอกจากจะช่วยให้เราไม่เหงาหรือเครียดจากการทำงาน ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนร่วมงานได้แม้ว่าตัวจะต้องไกลกันก็ตามในตอนนี้
6. เปลี่ยนสถานที่ทำงานบ้าง
นั่งทำงานในมุมเดิม ๆ ก็อาจน่าเบื่อเกินไป อาจลองเปลี่ยนสถานที่ทำงานเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง เช่น วันนี้ทำงานในห้องทำงาน พรุ่งนี้อาจย้ายไปห้องนอน ห้องรับแขก หรือโต๊ะหน้าบ้าน เพื่อไม่ให้สภาพแวดล้อมจำเจจนเกินไป
7. จัดสภาพแวดล้อมที่บ้านให้น่าทำงาน
หากเปลี่ยนสถานที่ไม่เวิร์ก จนสุดท้ายต้องทำงานอยู่แต่ที่บ้าน เราก็สามารถจัดสภาพแวดล้อมที่บ้านให้น่าทำงาน ไม่ต่างกับการออกไปอยู่ร้านกาแฟ หรือ CO-Working Space ด้วยตัวเองก็ได้ง่าย ๆ เช่น เพิ่มโคมไฟแสงวอร์มไวท์มาตั้งไว้ที่โต๊ะทำงานเพื่อเปลี่ยนแสงเข้มให้เป็นแสงอ่อน สร้างบรรยากาศให้ดูสบาย ๆ น่าทำงาน ซื้อ BeanBag เพื่อให้นอนเอกเขนก ทำงานได้ทุกอิริยาบถ หรือปลูกต้นไม้จิ๋ว เช่น ต้นกระบองเพชร เพิ่มบรรยากาศสีเขียวให้รู้สึกปลอดโปร่งก็ได้ เท่านี้ก็จะได้บรรยากาศสบาย ๆ น่าทำงานโดยที่ไม่ต้องเสี่ยงติดเชื้อ หรือเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็นแล้ว
8. ฟังเพลง ผ่อนคลายระหว่างทำงาน
ทำงานที่บ้านถึงจะอิสระก็จริง แต่ก็ต้องสู้กับความเครียดหรืออาการง่วงที่ถาโถมเข้ามาในแต่ละวัน จึงควรให้โอกาสตัวเองได้ผ่อนคลายและพักผ่อนระหว่างทำงานบ้าง ด้วยการฟังเพลงที่ชอบ หรือ Podcast ที่มีเนื้อหาน่าสนใจ เพราะเราสามารถฟังไปด้วย ทำงานไปด้วยได้ โดยไม่เสียเวลางาน พร้อมกับได้พักผ่อนและสร้างความบันเทิงไปในตัว ถือเป็นวิธีผ่อนคลายที่ง่ายที่สุดสำหรับคนที่ต้องทำงานอยู่ที่บ้าน และไม่ต้องการเบื่อเซ็งไปในแต่ละวัน
9. พักเบรกบ้าง
8. ฟังเพลง ผ่อนคลายระหว่างทำงาน
ทำงานที่บ้านถึงจะอิสระก็จริง แต่ก็ต้องสู้กับความเครียดหรืออาการง่วงที่ถาโถมเข้ามาในแต่ละวัน จึงควรให้โอกาสตัวเองได้ผ่อนคลายและพักผ่อนระหว่างทำงานบ้าง ด้วยการฟังเพลงที่ชอบ หรือ Podcast ที่มีเนื้อหาน่าสนใจ เพราะเราสามารถฟังไปด้วย ทำงานไปด้วยได้ โดยไม่เสียเวลางาน พร้อมกับได้พักผ่อนและสร้างความบันเทิงไปในตัว ถือเป็นวิธีผ่อนคลายที่ง่ายที่สุดสำหรับคนที่ต้องทำงานอยู่ที่บ้าน และไม่ต้องการเบื่อเซ็งไปในแต่ละวัน
9. พักเบรกบ้าง
ทำงานติดต่อกันทั้งวันมันก็ต้องมีติดขัด คิดงานไม่ออกหรือรู้สึกเบื่อกันบ้าง เป็นเรื่องปกติ แต่แทนที่จะนั่งเฉย ๆ อยู่ในสภาพการทำงานแบบเดิม อาจลองหากิจกรรมมาพักเบรก พักสายตา ช่วยให้สมองและร่างกายได้พบเจอสิ่งใหม่ ๆ บ้าง เช่น เดินเล่นในบ้าน เล่นกับสัตว์เลี้ยง เล่นเกมฝึกสมอง ลุกไปชงกาแฟ หรือดื่มน้ำหวานให้ชื่นใจ เพราะระหว่างการทำกิจกรรมเหล่านี้ อาจช่วยให้สมองปลอดโปร่งจนได้ไอเดียแปลกใหม่ที่จะมาใช้ทำงานได้อย่างคาดไม่ถึง
10. สังสรรค์กับเพื่อนผ่านวิดีโอคอล
หลังจากเลิกงานแล้ว หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ ก็อาจนัดสังสรรค์กับเพื่อนสักหน่อย เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกโดดเดี่ยว แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องนัดรวมตัวกันให้เสียเวลา เพราะสามารถวิดีโอคอลพูดคุยหรือดื่มกินร่วมกันได้แล้ว ถึงแม้จะไม่ได้เจอกันตัวเป็น ๆ แต่การได้พูดคุยกับคนที่คุ้นเคยและสนิทสนมเป็นอย่างดีก็คงจะช่วยคลายความเครียด ความเหงา จากการทำงานในแต่ละสัปดาห์ลงได้ไม่น้อย
เชื่อว่าอีกไม่นานหลาย ๆ ออฟฟิศคงจะให้พนักงานได้ Work from Home กันมากขึ้น ไม่ใช่เฉพาะแต่ช่วงที่ COVID-19 กำลังระบาด มนุษย์เงินเดือนยุคใหม่จึงควรเริ่มปรับตัวให้สามารถทำงานที่บ้านได้อย่างมีความสุขตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้คุ้นชินกับรูปแบบการทำงานที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต
10. สังสรรค์กับเพื่อนผ่านวิดีโอคอล
หลังจากเลิกงานแล้ว หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ ก็อาจนัดสังสรรค์กับเพื่อนสักหน่อย เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกโดดเดี่ยว แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องนัดรวมตัวกันให้เสียเวลา เพราะสามารถวิดีโอคอลพูดคุยหรือดื่มกินร่วมกันได้แล้ว ถึงแม้จะไม่ได้เจอกันตัวเป็น ๆ แต่การได้พูดคุยกับคนที่คุ้นเคยและสนิทสนมเป็นอย่างดีก็คงจะช่วยคลายความเครียด ความเหงา จากการทำงานในแต่ละสัปดาห์ลงได้ไม่น้อย
เชื่อว่าอีกไม่นานหลาย ๆ ออฟฟิศคงจะให้พนักงานได้ Work from Home กันมากขึ้น ไม่ใช่เฉพาะแต่ช่วงที่ COVID-19 กำลังระบาด มนุษย์เงินเดือนยุคใหม่จึงควรเริ่มปรับตัวให้สามารถทำงานที่บ้านได้อย่างมีความสุขตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้คุ้นชินกับรูปแบบการทำงานที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต
บทความที่เกี่ยวกับ Work From Home
- 9 วิธีจัดโต๊ะทำงาน Work from Home ดูดี เป็นระเบียบ แถมไม่ปวดหลัง
- วิธีจัดโต๊ะทำงานตามหลักฮวงจุ้ย Work From Home ยังไงให้เวิร์ก
- 3 ข้อควรเลี่ยงตามหลักฮวงจุ้ยโต๊ะทำงาน Work From Home และวิธีปรับให้งานรุ่ง
- 20 เพลงชิล ๆ ฟังตอนทำงานที่บ้าน เปลี่ยนบรรยากาศเงียบเหงาให้สดใส
- วิธีจัดโต๊ะทำงานตามหลักฮวงจุ้ย Work From Home ยังไงให้เวิร์ก
- 3 ข้อควรเลี่ยงตามหลักฮวงจุ้ยโต๊ะทำงาน Work From Home และวิธีปรับให้งานรุ่ง
- 20 เพลงชิล ๆ ฟังตอนทำงานที่บ้าน เปลี่ยนบรรยากาศเงียบเหงาให้สดใส
