อยากปลดหนี้ให้หมดภาระ โดยเฉพาะหนี้ที่เกิดจากการใช้เงินเกินตัว พร้อมจัดการปัญหาหนี้สินไม่ให้กลับมารังควานอีกต่อไป
การเป็นหนี้ ถือเป็นฝันร้ายของใครหลาย ๆ คน เพราะทำให้ต้องปวดหัวและเดือดร้อนอย่างมาก แถมยังเป็นเหมือนตัวถ่วงความเจริญของชีวิตอีกด้วยซ้ำ แต่บางคนพอใช้หนี้เรียบร้อยแล้ว ก็เหมือนยังไม่เข็ด กลับไปสร้างหนี้แบบเดิมอีก แล้วก็ต้องหาทางใช้หนี้ต่อไปเรื่อย ๆ พอหมดหนี้ ก็ก่อหนี้ใหม่อีก แบบนี้จนเป็นวงจรอุบาทว์
เงินที่น่าจะเอาไปออมไว้ใช้ยามแก่ เอาไปลงทุนเพื่อให้เกิดการงอกเงย หรือใช้ไปเที่ยวต่างประเทศกับแฟน กลับต้องเอาไปชำระค่านั่นค่านี่ที่ก่อไว้แทน ฉะนั้น เรามาหาวิธีจัดการหนี้ที่ให้มันจากเราไปแบบที่ไม่มีวันกลับมาดีกว่า จะได้สบายใจและมีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้นมาบ้าง ตามข้อมูลที่เว็บไซต์ มาสิ แนะนำมาดังนี้
1. ตั้งสติ ยอมรับความจริง
เป็นเหมือนกันหรือเปล่า กับการที่ทำงานมาตั้งหลายปี แต่ดันไม่มีเงินเก็บ แถมต้องจ่ายหนี้รัว ๆ ตลอดทุกเดือน บางเดือนแม้แต่ยอดจ่ายขั้นต่ำยังไม่พอจ่ายเลย ถ้าการเป็นหนี้ทำให้คุณกังวลอยู่ตลอดเวลา กระสับกระส่าย นอนไม่อิ่ม กินไม่อร่อย ชีวิตไม่แฮปปี้ ก่อนอื่น หยุดกร่นด่าตัวเองค่ะ เราผิดพลาดไปแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะซ้ำเติมตัวเอง
ยอมรับความจริงเลยว่า เรากำลังมีปัญหาและที่มีปัญหาเป็นหนี้เพราะซื้อของทั้งที่ไม่มีเงิน ไม่จัดการรายรับรายจ่ายตัวเองให้ดี และตั้งสติบอกตัวเองว่า จะปลดหนี้ให้ได้ และจะไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นอีก !
2. หยุดสร้างหนี้เพิ่ม
สาเหตุที่เราเป็นหนี้กันก็เพราะรับภาระมากเกินกว่าที่จะสามารถแบกได้ไหว บางคนไหนจะผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ไหนจะรูดบัตรเพื่อผ่อนค่าสินค้าล่วงหน้า จ่ายค่ากินค่าเที่ยวแพง ๆ โดยที่ไม่ได้นึกถึงตอนต้องชำระหนี้บัตรเครดิตคืน นี่แหละปัญหา
ฉะนั้นเราก็ควรหยุดก่อหนี้ ไม่ว่าเราจะต้องลำบากขนาดไหน ให้เลิกกู้ เลิกยืม เลิกรูดบัตรเครดิต อย่างเด็ดขาด ใช้แต่เงินสด หรือบัตรเดบิต เท่านั้นพอ
และอย่าไปพึ่งหนี้นอกระบบเด็ดขาดนะคะ จริงอยู่ที่เราได้เงินสดมาง่าย ๆ โปะหนี้ได้ แต่มันคือการสร้างหนี้ที่เลวร้ายยิ่งกว่าเดิมอีกค่ะ เพราะไหนจะโดนเอาเปรียบจากผู้ให้กู้สุดโหดกับเปอร์เซ็นต์ดอกเบี้ย ไหนจะวิธีการทวงหนี้ที่ไม่น่าไว้ใจอีก อย่าเลยดีกว่า
3. หารายได้เสริม
สำหรับคนที่คิดว่ารายได้ที่มีอยู่ประจำยังไงก็พอจะใช้หนี้แต่ละเดือน ไม่เดือดร้อนอะไรขนาดนั้น ก็ถือว่าดีไป แต่สำหรับใครที่รู้สึกว่า เงินเริ่มไม่พอใช้แต่ละเดือนแล้วหนี้ขั้นต่ำที่ต้องชำระรายเดือนยังมีไม่พอเลย คงจะถึงเวลาที่ต้องหารายได้เสริมแล้วล่ะ
ถ้าเราต้องการรายได้ที่มากขึ้น เราก็ต้องทำงานให้มากขึ้นด้วย อาจจะทำโอทีหรือรับงานฟรีแลนซ์ดูเพื่อให้ได้เงินเพิ่มมาหมุนบ้าง
สำหรับใครที่ไม่อยากทำโอทีหรือรับงานฟรีแลนซ์ อาจจะลองหาเงินเพิ่มจากการขายของที่มีในบ้านก็ได้ ลองดูว่า ข้าวของบางอย่างมีอะไรพอเอาไปขายมือสองได้บ้าง
เช่น สาว ๆ บางคนเป็นหนี้เพราะชอบใช้บัตรเครดิตรูดซื้อของแบรนด์เนม อาจจะลองเอาเสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใส่ หรือกระเป๋าใบที่ไม่ค่อยได้ใช้ ถ่ายภาพแล้วโพสต์ขายในอินเทอร์เน็ตดู หรือหนุ่ม ๆ ที่มีรองเท้ากีฬาเต็มบ้าน จะใช้วีธีนี้ดูก็ได้นะคะ
ถ้าชำระหนี้หมดแล้วยังรู้สึกชอบงานเสริมอยู่ ก็ทำไปเรื่อย ๆ เลย รายได้มากขึ้น ใคร ๆ ก็ชอบ จริงไหมล่ะ
4. เลือกชำระให้เหมาะสม
ลองลิสต์รายการหนี้ที่มีทั้งหมดลงในกระดาษดู ว่ามีหนี้อะไรบ้าง มูลค่าหนี้คงเหลือเท่าไร ต้องจ่ายเดือนละเท่าไร เป็นต้น
จากนั้น เลือกจ่ายหนี้ที่สำคัญและเบี้ยวไม่ได้เด็ดขาดก่อน เช่น หนี้ผ่อนรถ ซึ่งเป็นคดีอาญา เป็นสัญญาเช่าซื้อ ส่วนหนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคล อาจจะจ่ายเท่าที่พอจ่ายไหว แล้วติดต่อสถาบันการเงินเพื่อเจรจาประนอมหนี้ดู แต่ห้ามหนีเด็ดขาด !
แต่ถ้ามีหนี้ก้อนไหนก็ตามที่เป็นมูลค่าน้อยที่สุด ถ้าเกิดเราหาเงินก้อนมาได้เพิ่มเติมจากรายได้เสริม ให้เอามาโปะหนี้ยอดคงเหลือให้หมดเร็วที่สุด
พอเราขีดฆ่ารายการหนี้ที่เราปลดหมดเรียบร้อยแล้ว เชื่อไหมล่ะว่ากำลังใจจะเพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่าเพราะได้เห็นความสำเร็จต่อหน้า เราจะได้ฮึดมากขึ้นที่จะหาเงินมาปลดหนี้ก้อนอื่น ๆ ต่อไป
5. เปลี่ยนนิสัยการใช้เงิน
เราต้องรู้สภาพการเงินของตัวเอง เช่น มีเงินรายรับเท่าไร รายจ่ายโดยประมาณแต่ละเดือนเท่าไร มีใบแจ้งหนี้อันไหนที่ต้องชำระบ้าง แล้วต้องชำระภายในเมื่อไร เป็นต้น เพื่อที่เราจะได้บริหารจัดการเงินถูก
การทำบันทึกรายรับ-รายจ่ายจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการสังเกตตัวเองว่าเงินที่มีอยู่มันหายไปกับอะไรบ้าง ถ้าเกิดเจอสิ่งที่เราแค่อยากได้เฉย ๆ แต่ไม่ได้จำเป็นต้องซื้อจริง ๆ เราจะได้บอกตัวเองได้ว่าต้องตัดค่าอะไรออกไปบ้าง จะได้ลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นออก และมีเงินเก็บไว้ไปทำอย่างอื่น
6. ออมเงินบ้าง
หลาย ๆ คนคิดแต่ว่า บัตรเครดิตมีไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ฉะนั้นเลยพึ่งพาบัตรเครดิตอย่างมาก ไปไหนมาไหนก็ต้องพกไว้เพื่อให้สบายใจ แต่บางคนก็พึ่งมันมากจนเกินไป และควบคุมการใช้ไม่ดีพอ เลยทำให้ก่อหนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ
จะดีกว่าไหม ถ้ามีอะไรฉุกเฉินแล้วเราไม่ต้องหันไปพึ่งเงินจากอนาคตอย่างบัตรเครดิต แต่ใช้เงินออมของเราเองในการใช้จ่าย ? อาจจะเริ่มจากลองออมให้ได้สักสอง-สามพันบาทต่อเดือนก็ได้
แม้จะพยายามใช้หนี้อยู่ แต่อย่าใช้หนี้จนหมดตัว ให้แบ่ง ๆ เงินมาออมในส่วนเงินออมฉุกเฉินบ้างจะดีกว่า ถ้าเรารถเสีย ต้องเข้าโรงพยาบาลด่วน หรือมีเหตุต้องใช้เงินใด ๆ เราก็เอาเงินตรงนี้มาใช้ได้เลยโดยไม่ต้องก่อหนี้เพิ่มในบัตรเครดิต
ชีวิตที่มีแต่หนี้สิน เป็นชีวิตที่ไม่มีความสุข แต่ถ้าเราก่อหนี้ขึ้นมาแล้ว ก็ตั้งใจปลดหนี้ซะ พอปลดหนี้ได้หมดแล้วก็พยายามอย่าให้เหตุการณ์เดิม ๆ เกิดขึ้นอีก หันมาประหยัดอดออม ใช้เงินให้เป็น ออมเพื่ออนาคต และสิ่งสำคัญคือ เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่อย่างพอเพียง รู้จักพอ เท่านี้เราก็มีความสุขกับสิ่งที่มีได้แล้วค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Masii.co.th