ได้เวลาช้อปปิ้งของขวัญปีใหม่เพื่อคนพิเศษกันแล้ว แต่ถ้าไม่อยากกระเป๋าฟีบรับปีใหม่ เลี่ยงให้ดีพฤติกรรมเหล่านี้
1. สมัครบัตรเครดิตเพียงเพราะต้องการส่วนลด
ปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่าการสมัครบัตรเครดิตนั้นง่ายกว่าแต่ก่อนมาก และบัตรเครดิตมากมายก็พากันออกโปรโมชั่นที่แสนจะล่อตาล่อใจ ไม่ว่าจะเป็นการสะสมแต้มแลกของรางวัล หรือส่วนลดในห้างสรรพสินค้า แม้ว่าจะช่วยให้คุณประหยัดขึ้นแต่ก็ไม่คุ้มกับเงินที่จะต้องเสียไปในระยะยาวเลย ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียมบัตรรายปี หรือการที่คุณอาจจะพลั้งเผลอใช้บัตรเครดิตเหล่านั้นจนกลายเป็นหนี้ อย่าให้คำว่าส่วนลดและแต้มสะสมมาบังตาเด็ดขาด
2. ใช้จ่ายเกินตัว
3. ซื้อของขวัญที่คนรับอาจลืมได้ง่าย
ทุกคนที่มอบของขวัญให้แก่กันก็หวังที่จะให้ผู้รับระลึกถึงคนให้เสมอเมื่อเห็นสิ่งของชิ้นนั้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าหลาย ๆ คนทำพลาดในเรื่องนี้ หันไปซื้อของราคาแพงที่บางทีคนรับก็ไม่มีโอกาสได้หยิบมาใช้ และอาจจะลืมว่าเคยได้รับของชิ้นนี้มาก่อน แบบนั้นนอกจากจะทำให้ของขวัญแทบไม่มีคุณค่าอะไรแล้ว ก็ยังทำให้เสียเงินไปโดยใช่เหตุ งั้นเอาเป็นว่าหันมาซื้อของขวัญที่ผู้รับมีโอกาสได้ใช้บ่อย ๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นของแพง แต่ควรเป็นของที่มีประโยชน์ใช้สอยได้จริง เพื่อที่ผู้รับจะได้นึกถึงเราทุกครั้งที่หยิบขึ้นมาใช้น่าจะดีกว่า
4. ซื้อของโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพเพียงเพราะอยากประหยัด
สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาไปเลือกซื้อของขวัญปีใหม่ การช้อปปิ้งออนไลน์จะช่วยคุณได้ แต่คุณต้องระวังเรื่องค่าขนส่งให้ดี ๆ เพราะเจ้าค่าส่งนี่ล่ะคือตัวการเปลืองงบ ยิ่งถ้าหากเป็นสินค้าที่อาจมีปัญหาตามมาทีหลัง เช่น เสื้อผ้าที่ไซส์อาจจะไม่พอดี หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่อาจจะต้องส่งกลับเพื่อเปลี่ยนเครื่อง คุณควรจะเช็กให้ดีว่าทางร้านที่คุณซื้อคิดค่าส่งสินค้าหรือไม่ หรือถ้าไม่แน่ใจคุณควรจะสั่งซื้อกับเว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์ใหญ่ ๆ ที่เชื่อถือได้ดีกว่า เพราะนอกจากจะได้สินค้าเร็วไวแล้ว สินค้าบางชิ้นก็ยังไม่มีการจัดเก็บค่าขนส่งอีกด้วย
6. เสียเงินไปกับค่าห่อของขวัญ
เปลี่ยนความคิดที่ว่าของขวัญที่มอบให้ผู้อื่นต้องห่อทุกครั้งไปได้เลย
เพราะจริง ๆ
แล้วค่าใช้จ่ายในการห่อของขวัญนั้นแทบจะเป็นรายจ่ายที่ไม่ควรเสียเลย
เนื่องจากกระดาษห่อของขวัญและโบที่ติดบนกล่องก็ต้องถูกทิ้งไปอยู่ดี
ดังนั้นแค่แกะป้ายราคาและรายละเอียดสินค้าที่ติดอยู่บนบรรจุภัณฑ์ออกเสียหน่อย
แล้วหาถุงกระดาษดี ๆ ใส่ของขวัญชิ้นนั้น มอบให้อีกฝ่าย
ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยได้อีกเยอะ
แถมถุงที่ใส่ของก็ยังได้ใช้ต่ออีกด้วย อ้อ !
หรือคุณจะทำเก๋โดยหากระดาษเหลือใช้มาห่อของขวัญเอง อย่างนี้ก็เริดอยู่นะ
7. ซื้อของโดยไม่วางแผน
หลายคนพอต้องซื้อของขวัญปีใหม่ ก็มักจะคิดถึงของขวัญที่จะมอบให้แต่ละคนไว้เพียงอย่างเดียว ซึ่งถ้าหาซื้อได้ก็ดีไป แต่ในกรณีที่หาซื้อไม่ได้ หรือเจอแล้วแต่ราคาแพงกว่า ก็ทำให้เราต้องจ่ายเงินเกินงบประมาณที่ตั้งไว้ ทางที่ดีที่สุดที่จะไม่ทำให้คุณกระเป๋าฉีกคือ วางแผนก่อนการซื้อของขวัญ อย่างน้อยคุณก็จะมีตัวเลือกหากสินค้าชิ้นนั้นราคาแพง หรือหาซื้อไม่ได้ เพื่อที่คุณจะได้ไม่จ่ายเกินงบ
8. ทิ้งใบเสร็จ
ใบเสร็จมีความสำคัญกับของขวัญทุกชิ้นที่เราซื้อมา เพราะในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาด ใบเสร็จจะช่วยให้คุณสามารถนำสินค้าเหล่านั้นไปเปลี่ยนหรือคืนได้ ช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเงินไปกับของที่ใช้การไม่ได้หรือเสียหายไปเปล่า ๆ ฉะนั้นทุกครั้งที่ซื้อของขวัญ เก็บใบเสร็จให้ดี และเก็บไว้ในที่ที่คุณหาเจอได้ง่าย รวมกันไว้ในที่ที่เดียวเลยดีที่สุด จะได้สะดวกต่อการหาเมื่อต้องการใช้
9. ซื้อของที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง
10. ซื้อของที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้
ในช่วงเทศกาลปีใหม่ งานเซลถือเป็นเป้าหมายของการเลือกซื้อของขวัญปีใหม่ที่ดีและคุ้มค่า แต่ก็อย่าลืมว่างานเซลเหล่านี้มีข้อเสียตรงที่ไม่สามารถเปลี่ยนหรือคืนสินค้าได้ และการที่คุณซื้อของขวัญให้กับคนอื่นจากงานดังกล่าว คุณก็อาจจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาเช่น ผิดขนาด ของมีตำหนิ หรือซื้อไปซ้ำกับที่ผู้รับมีอยู่แล้ว ดังนั้นควรเลือกซื้อของที่สามารถเปลี่ยนหรือคืนได้หากมีปัญหา แต่ถ้าคุณยังยืนยันจะซื้อ เช็กให้แน่ใจก่อนว่าจะไม่เกิดปัญหาตามมาทีหลัง
แม้การซื้อของขวัญปีใหม่มอบให้กันจะเป็นการส่งต่อความสุข แต่ความสุขที่ส่งมอบให้กันนั้นก็ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความพอดี อย่าให้สิ่งที่เรามอบให้ผู้อื่นกลายเป็นความทุกข์ของเราเลย ใช้จ่ายกับค่าของขวัญกันอย่างพอดี เพื่อความสุขของทั้งสองฝ่าย
lifehack.org
moneyregistrar.com
ebay.com
allwomenstalk.com
