ผู้ทรงอิทธิพลของโลก กับวิถีการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่อาจจะแปลกและแตกต่างจากคนทั่วไป แต่เพราะอะไรที่ทำให้เขาเดินมาถึงจุดที่เรียกว่าประสบความสำเร็จในชีวิตได้
ซึ่งในวันนี้เราก็ได้ยก 8 ตัวอย่างคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต
และนับเป็นบุคคลผู้ทรงอิทธิพลระดับโลกมาให้ทุกคนได้ศึกษาแนวคิดและการใช้ชีวิตของเขากันตรงนี้แล้ว
ในเช้าวันใหม่ของทุก ๆ วัน 8 ผู้ทรงอิทธิพลของโลกเขาเริ่มต้นทำอะไรกันบ้าง
ลองตามไปดูพร้อมกันเลยค่ะ
1. บารัค โอบามา
อดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นเช้าวันใหม่ของทุกวันด้วยการออกกำลังกายในช่วงเวลา 06.45 น. เขาฟิตตัวเองไปกับการเล่นเวตและคาร์ดิโอสลับกัน จากนั้นจึงกลับมารับประทานอาหารเช้าร่วมกับภรรยาสุดที่รักและลูกสาวทั้ง 2 คน แล้วจึงขับรถไปส่งลูกสาวที่โรงเรียน ต่อมาถึงจะเข้าสู่โหมดการทำงานในฐานะประธานาธิบดีแห่งประเทศมหาอำนาจอย่างจริงจัง
2. เดวิด คาเมรอน
อดีตผู้นำของประเทศอังกฤษคนนี้จะไม่ดูทีวีตอนเช้าอย่างเด็ดขาด ! แต่เขาจะตื่นประมาณ 06.00 น. ทุกวัน แล้วใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงไปกับการเช็กข้อมูลข่าวสารทางการเมืองและเศรษฐกิจ จนกระทั่งเวลาประมาณ 08.00 น. เขาถึงจะเริ่มทำธุระส่วนตัวก่อนไปร่วมรับประทานอาหารเช้ากับครอบครัว ที่สำคัญเขายังตั้งกฎห้ามลูก ๆ ดูทีวีในตอนเช้าด้วยเช่นกัน เพราะเขาคิดว่า เด็ก ๆ ควรได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์อื่น ๆ ในช่วงเช้าก่อนไปโรงเรียน แทนที่จะนั่งนิ่ง ๆ ดูทีวีอยู่บนโต๊ะกินข้าว
3. วินส์ตัน เชอร์ชิล
อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศอังกฤษ วินส์ตัน เชอร์ชิล เขาจะตื่นประมาณ 07.30 น. ทุกเช้า แต่ประเด็นอยู่ที่เขาจะไม่ยอมลุกออกจากเตียงถ้ายังไม่ถึง 11.00 น. !
โดยหลายคนอาจสงสัยว่าเขาทำอะไรอยู่บนเตียงตั้งหลายชั่วโมง คำตอบก็คือเชอร์ชิลจะรับประทานอาหารเช้าบนเตียงนั้น พร้อมกับอ่านข่าวสารจากหนังสือพิมพ์หลายต่อหลายฉบับ ที่สำคัญคือเขาอ่านจนครบทุกประเด็น จากนั้นจึงค่อยเริ่มทำธุระส่วนตัว และปฏิบัติภารกิจอื่น ๆ ตามกิจวัตรประจำวัน
4. โฮวาร์ด ชูลทส์
04.30 น. คือเวลาตื่นนอนของซีอีโอสตาร์บัคส์คนนี้ และหลังตื่นนอนในทุกเช้าเขาจะพาน้องหมาทั้ง 3 ตัวไปเดินเล่น พอถึงเวลา 05.45 น. จึงกลับเข้าบ้านมาชงกาแฟให้ตัวเองและภรรยา โดยเขาจะพิถีพิถันกับการชงกาแฟแต่ละแก้วมาก ๆ เริ่มจากเมล็ดและพันธุ์กาแฟที่จะใช้ การคั่วและบดเมล็ดกาแฟ รวมไปถึงอุณหภูมิของน้ำที่จะชงเลยทีเดียว แหม…เรียกว่าไม่ให้เสียชื่อเจ้าของแบรนด์กาแฟชื่อดังก้องโลกเลยเชียวนะ
5. สตีฟ จ็อบส์
สตีฟ จ็อบส์ เป็นบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกตัวจริงเสียงจริง โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีอย่างสมาร์ทโฟน และแม้วันนี้เขาจะทิ้งไว้แค่เพียงชื่อเสียง แต่ความสำเร็จที่เขาได้ทำเอาไว้ยังตราตรึงจนใครหลายคนยึดเอาแนวคิดและการใช้ชีวิตของเขามาเป็นแบบอย่าง ซึ่งในช่วงเวลาที่เขายังมีชีวิตอยู่ สิ่งที่สตีฟ จ็อบส์ มักจะทำหลังตื่นนอนในทุกเช้าก็คือการมองหน้าตัวเองผ่านกระจกเงา และถามตัวเองซ้ำ ๆ ว่าถ้าวันนี้คือวันสุดท้ายของชีวิต เขาจะมีความสุขกับสิ่งที่คิดจะทำในวันนี้หรือไม่ และหากคำตอบคือไม่อยู่บ่อยครั้ง เขาจะเริ่มหาวิธีเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างที่เขากำลังทำอยู่
ด้วยความที่เป็นเจ้าพ่อไมโครซอฟท์ บิล เกตส์ จึงไม่ยอมให้ตัวเองมีสุขภาพที่ย่ำแย่หรือมีสภาพร่างกายที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน ดังนั้นสิ่งที่เขาทำทุกเช้าคือการออกกำลังกาย ทั้งวิ่งและคาร์ดิโอราว ๆ 1 ชั่วโมงเป็นประจำ ถึงว่า...อายุแตะเลข 6 แล้วแต่บิล เกตส์ ยังดูแข็งแรงอยู่เลยเนอะ
ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Amazon.com ดูจะแตกต่างจากคนอื่น ๆ ตรงที่เขาไม่ชอบตื่นเช้า ด้วยเหตุผลที่ว่าเบซอฟเป็นคนชอบนอนดึก และคิดว่าตัวเองควรต้องนอนให้ครบ 8 ชั่วโมง อีกทั้งเขายังเป็นคนที่ไม่เคยใช้นาฬิกาปลุกเลย เพราะเขาต้องการให้ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ และตื่นมาด้วยตัวเองมากกว่า ดังนั้นเขาจึงมักจะเลี่ยงการนัดหมายในช่วงเช้า เพราะนอกจากเขาจะไม่กำหนดเวลาตื่นที่แน่นอนแล้ว เขายังชอบใช้เวลาในช่วงเช้าไปกับการทำอาหารสบาย ๆ และเน้นปรุงอาหารสดใหม่เสิร์ฟให้กับตัวเองและครอบครัว จากนั้นจึงค่อยเริ่มต้นทำงานอย่างจริงจัง
8. มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก
ผู้ก่อตั้งโซเชียลเน็ตเวิร์ก และนับเป็นผู้สร้างปรากฏการณ์ระดับโลกอีกคนหนึ่งอย่างมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ยิ่งแปลกกว่าผู้ทรงอิทธิพลระดับโลกคนไหน ๆ เพราะเขาแทบจะนอนน้อยมาก ๆ จนแทบจะเรียกได้ว่าเข้านอนรุ่งเช้าของอีกวันเป็นประจำเลยทีเดียว ซึ่งเหตุผลที่ทำให้เขานอนดึกก็คือเรื่องงานนี่แหละค่ะ อีกทั้งในเช้าวันใหม่ของเจ้าพ่อเฟซบุ๊กก็ไม่มีอะไรมาก แค่ตื่นขึ้นมาแล้วหยิบเสื้อยืดคอกลมสีเทาเฉดที่ถูกใจในวันนั้นมาใส่ หนุ่มคนนี้ก็พร้อมจะลุยภารกิจของตัวเองแล้ว
ไม่ใช่แค่กิจกรรมที่เขาทำหลังตื่นนอนเท่านั้นหรอกนะคะที่ส่งให้เขาเหล่านี้เป็นผู้ทรงอิทธิพลระดับโลกได้ แต่ยังเป็นแนวคิดและทัศนคติในการใช้ชีวิตอีกอย่างที่ผลักดันให้เขาประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Sleepy People, Business Insider, TIME
คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและธุรกิจ
ไม่จำเป็นต้องมีต้นทุนมาตั้งแต่เกิด ไม่ใช่คนที่มีของวิเศษอยู่กับตัว
และเขาก็ไม่ได้มีเวทมนตร์ใด ๆ
เพียงแต่สิ่งที่ทำให้บุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกวิ่งทะลุเส้นชัยของชีวิตได้
เป็นแค่วิธีคิด และพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ต่างจากคนทั่วไป
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Barack Obama
1. บารัค โอบามา
อดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นเช้าวันใหม่ของทุกวันด้วยการออกกำลังกายในช่วงเวลา 06.45 น. เขาฟิตตัวเองไปกับการเล่นเวตและคาร์ดิโอสลับกัน จากนั้นจึงกลับมารับประทานอาหารเช้าร่วมกับภรรยาสุดที่รักและลูกสาวทั้ง 2 คน แล้วจึงขับรถไปส่งลูกสาวที่โรงเรียน ต่อมาถึงจะเข้าสู่โหมดการทำงานในฐานะประธานาธิบดีแห่งประเทศมหาอำนาจอย่างจริงจัง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก David Cameron
2. เดวิด คาเมรอน
อดีตผู้นำของประเทศอังกฤษคนนี้จะไม่ดูทีวีตอนเช้าอย่างเด็ดขาด ! แต่เขาจะตื่นประมาณ 06.00 น. ทุกวัน แล้วใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงไปกับการเช็กข้อมูลข่าวสารทางการเมืองและเศรษฐกิจ จนกระทั่งเวลาประมาณ 08.00 น. เขาถึงจะเริ่มทำธุระส่วนตัวก่อนไปร่วมรับประทานอาหารเช้ากับครอบครัว ที่สำคัญเขายังตั้งกฎห้ามลูก ๆ ดูทีวีในตอนเช้าด้วยเช่นกัน เพราะเขาคิดว่า เด็ก ๆ ควรได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์อื่น ๆ ในช่วงเช้าก่อนไปโรงเรียน แทนที่จะนั่งนิ่ง ๆ ดูทีวีอยู่บนโต๊ะกินข้าว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก The Churchill Centre
3. วินส์ตัน เชอร์ชิล
อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศอังกฤษ วินส์ตัน เชอร์ชิล เขาจะตื่นประมาณ 07.30 น. ทุกเช้า แต่ประเด็นอยู่ที่เขาจะไม่ยอมลุกออกจากเตียงถ้ายังไม่ถึง 11.00 น. !
โดยหลายคนอาจสงสัยว่าเขาทำอะไรอยู่บนเตียงตั้งหลายชั่วโมง คำตอบก็คือเชอร์ชิลจะรับประทานอาหารเช้าบนเตียงนั้น พร้อมกับอ่านข่าวสารจากหนังสือพิมพ์หลายต่อหลายฉบับ ที่สำคัญคือเขาอ่านจนครบทุกประเด็น จากนั้นจึงค่อยเริ่มทำธุระส่วนตัว และปฏิบัติภารกิจอื่น ๆ ตามกิจวัตรประจำวัน
ภาพจาก Starbucks Newsroom
4. โฮวาร์ด ชูลทส์
04.30 น. คือเวลาตื่นนอนของซีอีโอสตาร์บัคส์คนนี้ และหลังตื่นนอนในทุกเช้าเขาจะพาน้องหมาทั้ง 3 ตัวไปเดินเล่น พอถึงเวลา 05.45 น. จึงกลับเข้าบ้านมาชงกาแฟให้ตัวเองและภรรยา โดยเขาจะพิถีพิถันกับการชงกาแฟแต่ละแก้วมาก ๆ เริ่มจากเมล็ดและพันธุ์กาแฟที่จะใช้ การคั่วและบดเมล็ดกาแฟ รวมไปถึงอุณหภูมิของน้ำที่จะชงเลยทีเดียว แหม…เรียกว่าไม่ให้เสียชื่อเจ้าของแบรนด์กาแฟชื่อดังก้องโลกเลยเชียวนะ
ภาพจาก all about Steve Jobs
5. สตีฟ จ็อบส์
สตีฟ จ็อบส์ เป็นบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกตัวจริงเสียงจริง โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีอย่างสมาร์ทโฟน และแม้วันนี้เขาจะทิ้งไว้แค่เพียงชื่อเสียง แต่ความสำเร็จที่เขาได้ทำเอาไว้ยังตราตรึงจนใครหลายคนยึดเอาแนวคิดและการใช้ชีวิตของเขามาเป็นแบบอย่าง ซึ่งในช่วงเวลาที่เขายังมีชีวิตอยู่ สิ่งที่สตีฟ จ็อบส์ มักจะทำหลังตื่นนอนในทุกเช้าก็คือการมองหน้าตัวเองผ่านกระจกเงา และถามตัวเองซ้ำ ๆ ว่าถ้าวันนี้คือวันสุดท้ายของชีวิต เขาจะมีความสุขกับสิ่งที่คิดจะทำในวันนี้หรือไม่ และหากคำตอบคือไม่อยู่บ่อยครั้ง เขาจะเริ่มหาวิธีเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างที่เขากำลังทำอยู่
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Bill Gates
6. บิล เกตส์ด้วยความที่เป็นเจ้าพ่อไมโครซอฟท์ บิล เกตส์ จึงไม่ยอมให้ตัวเองมีสุขภาพที่ย่ำแย่หรือมีสภาพร่างกายที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน ดังนั้นสิ่งที่เขาทำทุกเช้าคือการออกกำลังกาย ทั้งวิ่งและคาร์ดิโอราว ๆ 1 ชั่วโมงเป็นประจำ ถึงว่า...อายุแตะเลข 6 แล้วแต่บิล เกตส์ ยังดูแข็งแรงอยู่เลยเนอะ
ภาพจาก Amazon.com
7. เจฟฟ์ เบซอฟผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Amazon.com ดูจะแตกต่างจากคนอื่น ๆ ตรงที่เขาไม่ชอบตื่นเช้า ด้วยเหตุผลที่ว่าเบซอฟเป็นคนชอบนอนดึก และคิดว่าตัวเองควรต้องนอนให้ครบ 8 ชั่วโมง อีกทั้งเขายังเป็นคนที่ไม่เคยใช้นาฬิกาปลุกเลย เพราะเขาต้องการให้ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ และตื่นมาด้วยตัวเองมากกว่า ดังนั้นเขาจึงมักจะเลี่ยงการนัดหมายในช่วงเช้า เพราะนอกจากเขาจะไม่กำหนดเวลาตื่นที่แน่นอนแล้ว เขายังชอบใช้เวลาในช่วงเช้าไปกับการทำอาหารสบาย ๆ และเน้นปรุงอาหารสดใหม่เสิร์ฟให้กับตัวเองและครอบครัว จากนั้นจึงค่อยเริ่มต้นทำงานอย่างจริงจัง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Mark Zuckerberg
8. มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก
ผู้ก่อตั้งโซเชียลเน็ตเวิร์ก และนับเป็นผู้สร้างปรากฏการณ์ระดับโลกอีกคนหนึ่งอย่างมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ยิ่งแปลกกว่าผู้ทรงอิทธิพลระดับโลกคนไหน ๆ เพราะเขาแทบจะนอนน้อยมาก ๆ จนแทบจะเรียกได้ว่าเข้านอนรุ่งเช้าของอีกวันเป็นประจำเลยทีเดียว ซึ่งเหตุผลที่ทำให้เขานอนดึกก็คือเรื่องงานนี่แหละค่ะ อีกทั้งในเช้าวันใหม่ของเจ้าพ่อเฟซบุ๊กก็ไม่มีอะไรมาก แค่ตื่นขึ้นมาแล้วหยิบเสื้อยืดคอกลมสีเทาเฉดที่ถูกใจในวันนั้นมาใส่ หนุ่มคนนี้ก็พร้อมจะลุยภารกิจของตัวเองแล้ว
ไม่ใช่แค่กิจกรรมที่เขาทำหลังตื่นนอนเท่านั้นหรอกนะคะที่ส่งให้เขาเหล่านี้เป็นผู้ทรงอิทธิพลระดับโลกได้ แต่ยังเป็นแนวคิดและทัศนคติในการใช้ชีวิตอีกอย่างที่ผลักดันให้เขาประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Sleepy People, Business Insider, TIME