
ยอดขาย มาม่า ตกวูบในรอบ 42 ปี
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ผู้บริหาร "มาม่า" เผยยอดขายปีนี้เติบโตต่ำสุดในรอบ 42 ปี เหตุเศรษฐกิจชะลอตัวและพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไป เฉลี่ย 45 ซอง/คน/ปี หันไปนิยมแบบคัพมากขึ้น
วันที่ 23 ธันวาคม 2557 นายพิพัฒ พะเนียงเวทย์ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป "มาม่า" กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจปีนี้ว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อยอดขายมาม่าให้มีอัตราเติบโตเพียงร้อยละ 0.2 ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 42 ปี ประกอบกับเป็นผลมาจากการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในไทยเริ่มอิ่มตัวอยู่ที่ระดับ 45 ซองต่อคนต่อปี สอดคล้องกับแนวโน้มของประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น ญี่ปุ่น ที่มีการบริโภค 43.4 ซองต่อคนต่อปี โดยพฤติกรรมการบริโภคได้เปลี่ยนไปบริโภคแบบถ้วย (คัพ) มากขึ้น
ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่า เศรษฐกิจไม่ดี ราคาพืชผลการเกษตรลดลงทำให้ยอดขายมาม่าลดลงตามไปด้วย ซึ่งสะท้อนมาจากตลาดหลักซึ่งเป็นกลุ่มรากหญ้าที่มีรายได้ลดลง โดยสังเกตได้ว่าขนาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบซองไม่เติบโต ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ด้านนายสุชัย รัตนเจียเจริญ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจัยลบทางการเมืองตั้งแต่ต้นปี และกลางปีเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ก็มีผลทำให้ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในช่วง 10 เดือน ของปีนี้มีอัตราเติบโตร้อยละ 1.2 ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่เติบโตสูงถึงร้อยละ 8.3
อย่างไรก็ตาม จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว บริษัทได้ปรับตัวด้วยการควบคุมค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ล่าสุดเตรียมใช้เงินกว่า 400 ล้านบาท เพื่อซื้อเครื่องจักรใหม่ให้โรงงาน 2 แห่ง ในจังหวัดลำพูน และระยอง และอีก 330 ล้านบาท ในการลงทุนตั้งโรงงานผลิตบะหมี่สำเร็จรูปในประเทศฮังการี เจาะตลาดยุโรป ส่วนแผนในต่างประเทศปี 2558 ได้ลงทุนอีก 300 ล้านบาท ขึ้นโรงงานแห่งที่ 2 ในประเทศพม่า เพื่อเพิ่มกำลังผลิตเป็น 2 เท่า รองรับการส่งออกไปทั่วโลกและกำลังศึกษาตั้งโรงงานผลิตบะหมี่สำเร็จรูปในตะวันออกกลาง ที่ได้ศึกษาไว้คือ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งจะเป็นการลงทุนอีกรูปแบบ เพื่อรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีหน้า
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
