ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala
ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง โพสต์เฟซบุ๊กแนะรัฐบาลเก็บภาษีสังคม จากคราบน้ำมัน บ่อขยะ รถซูเปอร์คาร์ หลังมีประเด็นเรือสินค้าลอบทิ้งน้ำมัน และไฟไหม้บ่อขยะ
วันนี้ (18 มีนาคม 2557) เมื่อเวลาประมาณ 10.40 น. นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว Thirachai Phuvanatnaranubala ระบุว่า อยากเสนอให้มีการจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมในส่วนของคราบน้ำมัน, บ่อขยะ และรถซูเปอร์คาร์ ซึ่งในส่วนนี้ อาจเก็บเป็นภาษีสังคม โดยภาษีสังคมที่จัดเก็บมาได้ก็จะถูกนำมาสำรองไว้ เพื่อใช้ในกรณีที่ต้องดำเนินการทำความสะอาดทะเล เมื่อพบว่ามีเรือสินค้าลอบทิ้งน้ำมัน การปรับปรุงสภาพแวดล้อมบริเวณโดยรอบบ่อขยะ รวมถึงการหาวิธีกำจัดขยะที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ
และในส่วนของการเก็บภาษีสังคมจากรถซูเปอร์คาร์ หากนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับประเทศไทยสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการเก็บค่าธรรมเนียมรถยนต์หรูหราในอัตราที่สูงกว่ารถธรรมดา เพื่อเป็นการบังคับให้คนรวยต้องช่วยเงินพัฒนาส่วนรวมมากกว่าคนอื่น ซึ่งเงินที่ได้อาจนำไปใช้บำรุงโรงพยาบาลท้องถิ่น เพื่อรองรับปัญหาอุบัติเหตุก็ได้
สำหรับข้อความทั้งหมดของนายธีระชัย มีดังนี้
"คราบน้ำมัน บ่อขยะ รถซุปเปอร์คาร์-ควรเก็บภาษีสังคม
เรื่องคราบน้ำมัน
คราบน้ำมันที่คลื่นซัดเข้าหาดทรายที่บางแสนนั้น เป็นน้ำมันที่เรือสินค้าลักลอบทิ้ง แทนที่จะทำความสะอาดตามมาตรฐาน
การใช้เรือตรวจการเพื่อป้องปรามเรื่องนี้ ทำเท่าใดก็จะไม่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะท้องทะเลนั้นกว้างขวางและถ้ามีเรือที่มักง่ายเพียงลำเดียว ก็จะเกิดความเสียหายขึ้น ต้องตามแก้ภายหลัง
ผมจึงคิดว่า น่าจะพิจารณากำหนดให้เรือสินค้าทุกลำ ที่เข้ามาในน่านน้ำไทย ต้องวางเงินประกันกับกรมเจ้าท่า เป็นจำนวน 5 เท่าของค่าใช้จ่ายทำความสะอาดมาตรฐาน สำหรับเรือขนาดนั้น ๆ จะวางเป็นเงินก็ได้ หรือวางเป็นแบงค์การันตีก็ได้ และเมื่อเรือได้ทำความสะอาดโดยผู้เชี่ยวชาญภายนอก ที่กรมเจ้าท่าขึ้นทะเบียนไว้ มีหนังสือรับรองแล้ว กรมเจ้าท่าก็ต้องคืนเงินประกันดังกล่าวโดยเร็ว
สำหรับสายการเดินเรือใหญ่ระดับโลก หากมีใช้บริการทำความสะอาดภายนอกมาตรฐานเป็นประจำอยู่แล้ว กรมเจ้าท่าจะยกเว้นเป็นเฉพาะรายก็ได้ วิธีนี้ น่าจะลดปัญหาได้มากครับ
ส่วนเรื่องบ่อขยะ
การฝังกลบขยะ เป็นวิธีที่ต้นทุนถูก และอาจจะเหมาะสมในอดีต แต่จะสร้างปัญหาระยะยาวหลายด้าน หนึ่ง ไม่มีวิธีกำจัดกลิ่น สอง น้ำฝนจะชะล้างสิ่งสกปรกออกมาตามผิวดิน สาม น้ำสกปรกจะซึมลงไปใต้ดิน ปะปนกับน้ำบาดาล สี่ จะมีก๊าซมีเทนสะสม ทำให้เกิดปัญหาไฟไหม้
แต่ในปัจจุบัน มีเทคโนโลยี่ในการเผาขยะที่ก้าวหน้า และไม่มีมลพิษ ดังนั้น จึงควรมีการพิจารณา ให้องค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น เก็บค่าธรรมเนียม พื้นที่ที่มีการวางขยะ ไม่ว่าจะได้รับอนุญาตหรือไม่
แต่เพื่อมิให้กระทบที่ว่างเปล่า ที่มีชาวบ้านแอบนำขยะไปเททิ้ง การเก็บค่าธรรมเนียม ควรเก็บสำหรับพื้นที่ เฉพาะที่มีขยะวางอยู่ เป็นเนื้อที่ของขยะ เกินกว่า 1 ไร่ขึ้นไป อัตราค่าธรรมเนียม ควรกำหนดให้ปรับสูงขึ้นๆ ทุก ๆ ปี เป็นเวลา 10 ปี จนกว่าจะถึงเพดาน ก็ให้ค้างอยู่ในระดับเพดานไปเรื่อย ๆ โดยประกาศล่วงหน้า 10 ปี การเพิ่มค่าธรรมเนียมทุกปี จะเร่งรัดเจ้าของพื้นที่ ในการขนย้ายขยะออกไปเผา
เงินค่าธรรมเนียมดังกล่าว องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ควรจะนำไปใช้เพื่อแก้ปัญหา หรือปรับปรุงสภาพแวดล้อม ให้แก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบบ่อขยะ
เรื่องซูเปอร์คาร์
เมื่อพูดถึงเรื่องภาษีสังคม ผมเห็นตัวอย่างของประเทศอิตาลี ที่ไทยควรเอาอย่างด้วย
เขาเก็บค่าธรรมเนียมรถยนต์หรูหรา ในอัตราที่สูงกว่ารถธรรมดา เพื่อเป็นการบังคับให้คนรวย ต้องช่วยเงินพัฒนาส่วนรวม มากกว่าคนอื่น ค่าธรรมเนียมดังกล่าว อาจจะกำหนดเป็นขั้นบันใด เช่น ราคารถเกิน 3 ล้านบาท 5 ล้านบาท 10 ล้านบาท ฯลฯ แต่ละขั้น ให้เก็บเป็นเปอร์เซนต์ที่สูงขึ้น ๆ
ผู้ที่ควรมีอำนาจเก็บค่าธรรมเนียมเดังกล่าว น่าจะเป็นองค์กรบริหารท้องถิ่น เพื่อใช้ในการบำรุงโรงพยาบาลท้องถิ่น สำหรับรองรับปัญหาอุบัติเหตุ เป็นต้น"
