เมื่อวันที่ 20 มกรคม 2557 ว่าที่เรืออากาศโท จตุรงคพล สดมณี ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง เปิดเผยว่า การชุมนุมตั้งแต่วันที่ 13 มกราคมเป็นต้นมา ได้ส่งผลกระทบต่อยอดผู้โดยสารที่มาใช้บริการมีการขยายตัวเพียง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ต่างจากในช่วงก่อนหน้านี้วันที่ 1-13 มกราคม2557 มีผู้โดยสารมาใช้บริการเพิ่มขึ้น 25% เช่นเดียวกับเที่ยวบินที่ให้บริการก็เพิ่มขึ้น 25% อย่างไรก็ตาม ทั้งปีคาดว่าจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการเพิ่มขึ้น 25%
"เที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) ในเดือนมกราคมท่าอากาศยานดอนเมือง ประเมินว่าจะมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำเข้ามาใช้บริการประมาณ 300 เที่ยวบิน แต่ปรากฏว่ามีเที่ยวบินเช่าเหมาลำเข้ามาใช้บริการจริงเพียง 150 เที่ยวบิน ลดลงถึง 50% ซึ่งเป็นผลกระทบจากมาตรการแก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญของจีน ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าไทยลดลง รวมถึงปัญหาการเมืองไทย" ว่าที่เรืออากาศโท จตุรงคพล กล่าว
ว่าที่เรืออากาศโท จตุรงคพล กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานดอนเมือง ในช่วงสถานการณ์ชุมนุมที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ว่า ได้ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดตามแผนเผชิญเหตุฉุกเฉิน โดยมีการหาข่าวจากผู้ชุมนุมในเรื่องเส้นทางการเคลื่อนขบวน การเข้มงวดตรวจสอบวัตถุแปลกปลอม การเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารอากาศ คอยดูแลความปลอดภัย รวมถึงสนธิกำลังชุดลาดตระเวนร่วม ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานดอนเมือง โดยเชื่อว่ามาตรการในระดับดังกล่าวสามารถดูแลความเรียบร้อยภายในสนามบินได้
ด้านนายพีรกันต์ แก้ววงศ์วัฒนา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรล ลิงค์ กล่าวว่า ได้กำชับให้พนักงานประจำสถานี และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพิ่มความเข้มงวดเป็นพิเศษ ซึ่งในช่วงที่มีการชุมนุมนั้นมีผู้โดยสารใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยดูจากยอดผู้โดยสารที่สูงขึ้นในวันที่ 13 มกราคม 2557 ที่ผ่านมา มีผู้โดยสารที่ใช้บริการ 67,888 คน ถึงจะไม่ใช่ยอดผู้โดยสารที่สูงที่สุดตั้งแต่เปิดให้บริการมา แต่เป็นยอดผู้โดยสารที่สูงกว่ายอดเฉลี่ยปกติ ที่เฉลี่ยอยู่ประมาณ 4-5 หมื่นคนต่อวัน ซึ่งนับว่ามียอดเฉลี่ยสูงกว่าเดิม 18%
ขณะที่ นายนาฬิกอติพัค แสงสนิท ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) กล่าวว่า ในปี 2557 จะดำเนินงานร่วมกับสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในพื้นที่พิเศษหมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยง จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อส่งเสริมการตลาดของผลิตภัณฑ์การเกษตร โดยจะส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่พิเศษได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหาร จัดการการท่องเที่ยว เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนโดยตรง
“อพท.จะเข้าไปช่วยดูแลมาตรการพิเศษ เช่น การยกเว้นภาษี ค่าธรรมเนียม การรับเงินอุดหนุน เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการและประชาชนรักษาพื้นที่ไว้ รวมทั้งการออกมาตรการด้านสวัสดิการสังคม การออกมาตรการด้านการเงิน เช่น การขยายเวลาการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้ผู้ประกอบการ ซึ่งการสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับชุมชนนักท่องเที่ยวและมรดกทางวัฒนธรรม และการสร้างประโยชน์สูงสุดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมของแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาการท่องเที่ยวไทยให้เกิดความยั่งยืน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน มีรายได้เพิ่มขึ้น และไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม” นายนาฬิกอติพัค กล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
