ราคาทอง 29 มี.ค. 67 วันเดียวพุ่งขึ้น 600 บาท บาทละ 39,050 บาท ทำสถิติใหม่อีกครั้ง คาดได้เห็นทะลุ 4 หมื่น แนะช่วงราคาพุ่งควรลงทุนยังไง
วันที่ 29 มีนาคม 2567 สมาคมค้าทองคำ ประกาศครั้งที่ 2 เมื่อเวลา 12.13 น. ปรับขึ้น 600 บาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ของทองคำในประเทศที่ราคา 38,550 บาท
ราคาทองคำแท่ง และ ทองรูปพรรณ มีราคาดังนี้
ราคาทองคำแท่ง
- รับซื้อ 38,450 บาท
- ขายออก 38,550 บาท
ราคาทองรูปพรรณ
- รับซื้อ 37,763.56 บาท
- ขายออก 39,050 บาท
ปัจจัยราคาทองช่วงนี้พุ่งสูง
สาเหตุจากทิศทางดอกเบี้ยทั่วโลกขาลง หลังอัตราเงินเฟ้อปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนไหลไปมายังสินทรัพย์อื่น อย่างทองคำและคริปโต ส่งผลให้ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ฐานเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการฝ่ายบริหาร กลุ่มบริษัทในเครือเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก (MTS) กล่าวว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มจะเหวี่ยงเพิ่มขึ้นได้อีก โดยครึ่งปีหลังทองคำไทยก็มีโอกาสจะปรับเพิ่มแตะ 38,000-40,000 บาท
ปัจจัยราคาทอง เพิ่มขึ้น-ลดลง เป็นเพราะอะไร
1. นโยบายการเงินของรัฐและอัตราดอกเบี้ย
หากดอกเบี้ยปรับตัวขึ้น เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจดี ราคาทองคำจะปรับตัวลง แต่หากช่วงไหนเศรษฐกิจไม่ดี ความเชื่อมั่นในประเทศต่ำ ทองคำก็จะราคาสูงขึ้น เพราะคนหันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างทองคำแทน
2. ราคาน้ำมันและเงินเฟ้อ
น้ำมันเป็นสินค้าที่มีความต้องการสูงในตลาดโลก หากช่วงไหนที่น้ำมันแพง จึงเกิดภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลให้ ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น ตามไปด้วย
3. ค่าเงินดอลลาร์
เงินสกุลดอลลาร์เป็นสกุลเงินที่นิยมใช้กันมาก จนเป็นสื่อกลางในการซื้อขายทั่วโลก เมื่อไหร่ก็ตามที่ เงินดอลลาร์อ่อนค่า ราคาทองคำก็จะสูงขึ้น เพราะคนเน้นซื้อทองคำเก็บมูลค่าเอาไว้แทน
4. ความต้องการ ตามอุปสงค์ อุปทาน
ช่วงไหนที่มีคนต้องการซื้อทองคำสูง อย่างช่วงเทศกาลตรุษจีน คนจีนซื้อทองกันเยอะ พอมีความต้องการซื้อเยอะ ราคาทองก็จะสูง ตามกลไกตลาด
เหตุผลที่ควรลงทุนทองคำ
จากข้อมูลของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า ทองคำยังถือว่าเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ และได้ผลตอบแทนค่อนข้างดี เมื่อมองย้อนกลับไปในเดือนมกราคมปี 2514 - ธันวาคมปี 2565 ผลตอบแทนจากทองคำเฉลี่ย 7.78% ต่อปี สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกาที่เฉลี่ย 3.70% ต่อปี สะท้อนว่าทองคำได้พิสูจน์ถึงความสม่ำเสมอในสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจในช่วงภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้นักลงทุนมองว่าทองคำเป็นตัวเลือกช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนในพอร์ตลงทุนได้
ควรซื้อทองคำช่วงไหน ทองขึ้น หรือ ทองลง
นักลงทุนระยะสั้น
ควรมีการกำหนดจุดซื้อและจุดขายทองคำที่ชัดเจน เช่น หากราคาทองคำปรับลดลงมาสู่ระดับต่ำกว่าต้นทุนมายังระดับราคาที่กำหนดไว้ เพื่อขายตัดขาดทุนเพื่อให้มีเงินลงทุนในการเก็งกำไรครั้งใหม่ต่อไป ดังนั้น ควรศึกษาการวิเคราะห์ทางเทคนิค เพื่อช่วยให้ทราบจุดซื้อและจุดขายที่เหมาะสม
นักลงทุนระยะยาว
หากมองถึงผลตอบแทนเป็นการออมระยะยาว สามารถลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (DCA) ซึ่งเป็นการซื้อทองคำแบบสม่ำเสมอทุกเดือนด้วยจำนวนเงินที่เท่า ๆ กัน เป็นการสร้างวินัยในการลงทุนและช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนทองคำได้
ขอบคุณข้อมูลจาก FINNOMENA, setinvestnow, gcap
