วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566

ภาพจาก : Parinya.Maneenate/Shutterstock.com
1. วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค 300 บาท/เดือน
รับเงิน 300 บาท/เดือน ใช้ซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็น รวมถึงสินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม จากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ตั้งแต่เวลา 05.00-23.00 น. ของทุกวัน และไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ และยืนยันตัวตนผ่านแล้ว
สำหรับผู้ที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติในรอบอุทธรณ์ และยืนยันตัวตนสำเร็จตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน - 26 ตุลาคม 2566 จะสามารถเริ่มใช้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป และจะได้รับสิทธิย้อนหลังอีก 7 เดือน (เมษายน-ตุลาคม 2566) จำนวน 2,100 บาท
2. วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาท/เดือน
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้) สามารถใช้บริการรถโดยสารสาธารณะดังต่อไปนี้ ในวงเงินรวม 750 บาท/เดือน
-
รถเมล์ ขสมก.
-
รถบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)
-
รถไฟฟ้า BTS, MRT และ Airport Rail Link
-
รถไฟ
3. วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาท/3 เดือน
ใช้เป็นส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าที่กระทรวงพลังงานกำหนด
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้)วันที่ 6 พฤศจิกายน 2566

เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย 100-600 บาท
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย จะได้รับเงินสงเคราะห์ฯ จำนวน 100 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 6 เดือน (ตั้งแต่เดือนเมษายน-กันยายน 2566) โดยแบ่งรอบการโอนตามวันเดือนปีเกิดของผู้สูงอายุ ซึ่งในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 ผู้ที่จะได้รับเงินคือ ผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 1 กันยายน 2506 และยืนยันตัวตนภายในวันที่ 26 ตุลาคม 2566 โดยผูกบัญชีพร้อมเพย์ภายในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566
ได้รับเงินเท่าไร : ขึ้นอยู่กับวันเดือนปีเกิด ดังนี้
-
เกิดก่อนวันที่ 1 เมษายน 2506 ได้รับสิทธิ์เดือนเมษายน-กันยายน 2566 จำนวน 600 บาท
-
เกิดระหว่างวันที่ 1-30 เมษายน 2506 ได้รับสิทธิ์เดือนพฤษภาคม-กันยายน 2566 จำนวน 500 บาท
-
เกิดระหว่างวันที่ 1-31 พฤษภาคม 2506 ได้รับสิทธิ์เดือนมิถุนายน-กันยายน 2566 จำนวน 400 บาท
-
เกิดระหว่างวันที่ 1-30 มิถุนายน 2506 ได้รับสิทธิ์เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2566 จำนวน 300 บาท
-
เกิดระหว่างวันที่ 1-31 กรกฎาคม 2506 ได้รับสิทธิ์เดือนสิงหาคม-กันยายน 2566 จำนวน 200 บาท
-
เกิดระหว่างวันที่ 1-31 สิงหาคม 2506 ได้รับสิทธิ์เดือนกันยายน 2566 จำนวน 100 บาท
โดยจะโอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก กรมบัญชีกลาง The Comptroller General’s Department
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2566
เงินช่วยเหลือผู้พิการ 200 บาท

ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : เป็นผู้พิการที่อายุ 18 ปีขึ้นไป มีบัตรประจำตัวผู้พิการ และได้รับสิทธิสวัสดิการรอบใหม่ โดยต้องยืนยันตัวตนกับธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ก่อนจึงจะได้รับสิทธิ ซึ่งจะแบ่งจ่ายดังนี้
-
800 บาท : โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเหมือนเดิม ทุกวันที่ 10 ของเดือน
-
เงินเพิ่มเติมอีก 200 บาท : โอนเงินทุกวันที่ 20 ของเดือน เข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก (หากวันที่ 20 ตรงกับวันหยุดราชการ จะโอนเงินให้ก่อน 1 วัน)
วิธีตรวจสอบสิทธิสวัสดิการรัฐ-สวัสดิการสังคมทางออนไลน์ เช็กง่ายจากบัตรประชาชน
วิธีลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟ-ค่าน้ำฟรี
ค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาท/เดือน/ครัวเรือน

ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ผู้ที่ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ และลงทะเบียนขอรับสิทธิค่าไฟฟ้าฟรีตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป โดยต้องเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าตามเงื่อนไขดังนี้
-
ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วย/เดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน จะได้รับสิทธิค่าไฟฟ้าฟรีตามมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบัน
-
ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย/เดือน แต่ไม่เกิน 315 บาท จะได้รับการสนับสนุนค่าไฟฟ้าในวงเงินไม่เกิน 315 บาท/ครัวเรือน/เดือน
วิธีลงทะเบียน
-
ผู้ใช้ไฟฟ้าใน กทม., สมุทรปราการ, นนทบุรี ลงทะเบียนที่การไฟฟ้านครหลวง
- ผู้ใช้ไฟฟ้าในต่างจังหวัด ลงทะเบียนที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาท/เดือน/ครัวเรือน

ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ผู้ที่ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ และลงทะเบียนขอรับสิทธิค่าน้ำประปาฟรีตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป โดยต้องเป็นผู้ใช้น้ำประปาตามเงื่อนไขดังนี้
-
กรณีใช้น้ำประปา เกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท จะได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท โดยส่วนเกินต้องชำระเอง
-
กรณีใช้น้ำประปา เกิน 315 บาท ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าประปาเองทั้งหมด
วิธีลงทะเบียน
-
ผู้ใช้ประปาใน กทม., สมุทรปราการ, นนทบุรี ลงทะเบียนที่การประปานครหลวง
- ผู้ใช้ประปาในต่างจังหวัด ลงทะเบียนที่การประปาส่วนภูมิภาค
หมายเหตุ :
-
ใช้สิทธิได้เพียง 1 ครัวเรือน ต่อ 1 สิทธิ ต่อ 1 รหัสประจำบ้าน
-
ลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้าและค่าประปาได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน

บทความที่เกี่ยวข้องกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก กรมบัญชีกลาง
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมบัญชีกลาง, ThaiPBS, YouTube MOF Channel, บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.com, เฟซบุ๊ก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค PEA, เฟซบุ๊ก การไฟฟ้านครหลวง MEA