คลังจ่อเก็บแวตใหม่ 2 อัตรา หลังงบประมาณขาดดุลกว่า 6 แสนล้านบาท คาด ช่วยดึงเงินเข้าระบบได้ 1 แสนล้านบาท
วันที่ 26 กันยายน 2565 เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากรัฐบาลที่มีภาระค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ปีงบประมาณ 2566 มีรายจ่าย 3.185 ล้านล้านบาท ส่วนรายได้อยู่ที่ 2.489 ล้านล้านบาท ทำให้รัฐบาลต้องหาแนวทางเก็บรายได้เพิ่ม เพื่อลดการขาดดุลงบประมาณ ตลอดเวลาก็พยายามปฏิรูปภาษี ปรับโครงสร้างภาษี เพื่อเพิ่มรายได้และลดการขาดดุล แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้
ล่าสุด มีการหยิบยกประเด็นการจัดเก็บภาษีแวต 2 อัตรา มาหารือกันอีกครั้ง เพราะเป็นอัตราที่เป็นไปได้มากที่สุด หลายประเทศก็ใช้ในลักษณะนี้ ดังนี้
1. สินค้าจำเป็น สินค้าอุปโภคบริโภค จะไม่กระทบประชาชนส่วนใหญ่ จะจัดเก็บภาษีอัตราปกติ 7%
2. สินค้าฟุ่มเฟือย สุรา ยาสูบ เบียร์ สินค้าแบรนด์เนม ร้านอาหารราคาแพง จะจัดเก็บสูงกว่า 7% คาดว่าจะสร้างรายได้ให้รัฐมากกว่า 1 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม อัตราภาษีสูงสุดจะไม่เกิน 10%
ที่ผ่านมากระทรวงการคลังมีการเสนอปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มโดยตลอด แต่ทำไม่ได้เพราะเศรษฐกิจไม่อำนวย และฝ่ายการเมืองไม่สนับสนุนเพราะจะกระทบต่อประชาชน ดังนั้นในช่วงโควิด 19 รัฐบาลต้องออก พ.ร.ก.เงินกู้ฉบับพิเศษ 2 ฉบับ รวมวงเงินกู้ 1.5 ล้านล้านบาท รวมถึงขยายเพดานการก่อหนี้สาธารณะไม่เกิน 70% จากเดิมไม่เกิน 60% โดยในช่วงเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา หนี้สาธารณะอยู่ที่ 60.75%