หลังจากโควิด 19 กลับมาแพร่ระบาดเป็นวงกว้างอีกครั้ง ทำให้รัฐบาลต้องกำหนดพื้นที่ควบคุมเพื่อเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ส่งผลให้หลายจังหวัดต้องสั่งปิดกิจการบางประเภท จึงกระทบต่อผู้ประกอบการ ลูกจ้าง และพนักงานที่ต้องสูญเสียรายได้และความสามารถในการชำระหนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้
ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย ระยะที่ 3 โดยลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม - 31 ธันวาคม 2564 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19 ระลอกใหม่ โดยแบงก์ชาติได้กำหนดมาตรการการให้ความช่วยเหลือขั้นต่ำไว้ ดังนี้
พักชำระเงินต้น-ดอกเบี้ย 2 เดือน (งวดเดือนสิงหาคมและกันยายน 2564)
-
สำหรับลูกค้าสินเชื่อธุรกิจ SME และสินเชื่อรายย่อย ที่ถูกสั่งปิดกิจการตามประกาศของรัฐ เมื่อครบกำหนดพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 2 เดือน ให้ลูกหนี้จ่ายชำระเงินงวดตามสัญญาเงินกู้เดิม โดยเงินต้นและดอกเบี้ยที่ตั้งพักไว้ ให้ชำระในงวดสุดท้ายของสัญญา
-
ลูกหนี้ต้องไม่เป็นหนี้ด้อยคุณภาพ (NPLs) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564
- เว็บไซต์ www.gsb.or.th
- ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 เวลา 08.00 น. ถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2564 เวลา 16.30 น.
พักชำระหนี้เงินต้น-ดอกเบี้ย 6 เดือน (งวดเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม 2564)
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ
-
สำหรับลูกค้าสินเชื่อรายย่อย วงเงินกู้ไม่เกิน 200,000 บาท ที่ไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน (ยกเว้น ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ)
ช่องทางลงทะเบียน
1. รอการเปิดสิทธิ์ที่แอปฯ MyMo
2. ธนาคารทยอยเปิดสิทธิ์
- เฟสแรก เริ่มวันที่ 25 กรกฎาคม 2564
- เฟสสอง เดือนสิงหาคม 2564
3. ลูกค้ากดรับสิทธิ์ที่แอปฯ MyMo เท่านั้น
** สำหรับลูกค้าที่ไม่มีแอปฯ MyMo ให้ติดต่อธนาคารออมสินทุกสาขา เพื่อเปิดใช้บริการ
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เว็บไซต์ธนาคารออมสิน
- โทร. 1115
สินเชื่อสู้ภัย COVID-19
- ให้วงเงินกู้รายละไม่เกิน 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.35% ต่อปี
- ผ่อนชำระได้ไม่เกิน 3 ปี โดยปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 งวดแรก
- เป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรือผู้ประกอบการรายย่อย หรือผู้มีรายได้ประจำ (พนักงานบริษัทเอกชน)
- ยื่นคำขอกู้ผ่านแอปฯ MyMo เท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม - 31 ธันวาคม 2564
- เฟส 1 เริ่มกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 เฉพาะลูกค้าในพื้นที่สีแดงเข้ม 6 จังหวัด (กรุงเทพมหานคร, นนทบุรี, ปทุมธานี, ชลบุรี, สมุทรปราการ และเชียงใหม่) และมีแอปฯ Mymo ก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม 2564)
- เฟส 2 เริ่มกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2564 สำหรับลูกค้าในพื้นที่ทั่วไป และมีแอปฯ Mymo ก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม 2564)
- เฟส 3 สำหรับลูกค้ากลุ่มอื่น ๆ ธนาคารจะแจ้งให้ทราบต่อไป
- เว็บไซต์ธนาคารออมสิน
- โทร. 1115
มาตรการ 9, 10, 11 และ 11 New Entry เลือกจ่ายเงินงวดเหลือ 25% หรือ 50% หรือ 75%
- สำหรับลูกค้าที่ไม่เคยเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือของธนาคารมาก่อน มีสถานะบัญชีปกติ และไม่อยู่ระหว่างการประนอมหนี้
ช่องทางลงทะเบียน
1. Mobile Application GHB ALL
2. Line GHB Buddy : https://lin.ee/ErOyx0Lk
3. เว็บไซต์ ธอส.
-
สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ ลงทะเบียนมาตรการที่ 9, 11 และ 11 New Entry ได้ภายในวันที่ 16 สิงหาคม 2564
-
สำหรับลูกหนี้สถานะ NPL ลงทะเบียนมาตรการที่ 10 ได้ภายในวันที่ 29 สิงหาคม 2564
- อัปโหลดหลักฐานยืนยันว่าได้รับผลกระทบทางรายได้ผ่านทาง Application : GHB ALL ให้ธนาคารพิจารณา เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองจากหน่วยงานต้นสังกัด ภาพถ่าย หรือ Statement เป็นต้น
มาตรการที่ 12 : เลือกจ่ายเงินงวดผ่อนชำระหรือพักชำระหนี้ ในกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs สินเชื่อประเภทแฟลต
- ขยายความช่วยเหลือสำหรับลูกค้าเดิมที่อยู่ในมาตรการ 12 ในกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs สินเชื่อประเภทแฟลต แบ่งเป็น
- 1. เลือกจ่ายเงินงวดผ่อนชำระ (ตัดเงินต้นและตัดดอกเบี้ย) เหลือ 25% หรือ 50% หรือ 70% ของเงินงวดผ่อนชำระในปัจจุบันเป็นระยะเวลาไม่เกินเดือนตุลาคม 2564 หรือ
- 2. พักชำระหนี้ถึงเดือนธันวาคม 2564 หากได้รับผลกระทบรุนแรงที่ไม่สามารถประเมินกระแสเงินสดของกิจการ หรือไม่สามารถเปิดดำเนินกิจการได้ตามปกติ
ช่องทางลงทะเบียน มาตรการ 12
-
ยื่นคำขอเข้ามาตรการได้ที่สาขาทั่วประเทศ
-
กลุ่มลูกค้าที่อยู่ระหว่างการรับความช่วยเหลือในมาตรการที่ 12 และจะครบกำหนดระยะเวลาความช่วยเหลือในเดือนพฤษภาคม 2564 สามารถยื่นคำขอเข้ามาตรการได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน 2564 และได้รับสิทธิ์ช่วยเหลือตั้งแต่เดือนมิถุนายน-ธันวาคม 2564 ระยะเวลาสูงสุด 7 เดือน
มาตรการที่ 13 : พักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน
- สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ (ไม่เป็น NPL ไม่อยู่ในขั้นตอนของกฎหมาย และไม่อยู่ระหว่างทำข้อตกลงประนอมหนี้)
- ครอบคลุมทั้งลูกค้าที่ไม่เคย หรือเคยใช้ หรืออยู่ระหว่างใช้มาตรการความช่วยเหลือเดิมของธนาคาร
- ต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จาก COVID-19 รวมถึงยังไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ตามสัญญาเงินกู้
มาตรการที่ 14 พักชำระเงินต้นและจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน พร้อมลดดอกเบี้ยลงเหลือ 3.90% ต่อปี
- สำหรับลูกค้าที่สถานะ NPL และลูกค้า NPL ที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งจะพ้นสิทธิ์การปรับโครงสร้างหนี้ที่ใช้อยู่หากใช้มาตรการที่ 14
- ต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพ หรือทำธุรกิจ หรือการค้า เนื่องจาก COVID-19 และไม่สามารถผ่อนชำระเงินงวดให้ธนาคารได้ตามสัญญาเงินกู้ หรือข้อตกลงปรับโครงสร้างหนี้หรือตามคำพิพากษา
ช่องทางลงทะเบียน มาตรการ 13 และมาตรการ 14
1. Mobile Application GHB ALL
2. Line GHB Buddy : https://lin.ee/ErOyx0Lk
3. เว็บไซต์ ธอส.
-
สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ ลงทะเบียนมาตรการที่ 13 ได้ภายในวันที่ 16 สิงหาคม 2564
-
สำหรับลูกหนี้สถานะ NPL ลงทะเบียนมาตรการที่ 14 ได้ภายในวันที่ 29 สิงหาคม 2564
- อัปโหลดหลักฐานยืนยันว่าได้รับผลกระทบทางรายได้ผ่านทาง Application : GHB ALL ให้ธนาคารพิจารณา เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองจากหน่วยงานต้นสังกัด ภาพถ่าย หรือ Statement เป็นต้น
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เว็บไซต์ ธอส., เว็บไซต์ ธอส.
- โทร. 02-645-9000
มาตรการที่ 15 พักชำระเงินต้นและพักชำระดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 เดือน
มาตรการที่ 16 พักชำระเงินต้นและพักชำระดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 เดือน
- สำหรับลูกค้าที่เป็นนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการทั้งในพื้นที่ควบคุมฯ และนอกพื้นที่ควบคุมฯ ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ และยังไม่สามารถผ่อนชำระเงินงวดได้
ช่องทางลงทะเบียน มาตรการ 15 และมาตรการ 16
- Application : GHB ALL หรือ
- Line GHB Buddy
- ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 เวลา 09.00 น. ถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2564 เวลา 20.00 น.
- ต้อง Upload หลักฐานยืนยันการได้รับผลกระทบทางรายได้ผ่านทาง Application : GHB ALL หรือ GHB Buddy ให้ธนาคารพิจารณา เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองจากหน่วยงานต้นสังกัด ภาพถ่าย หรือ Statement เป็นต้น
- กรณีไม่มีสมาร์ตโฟนสามารถกรอกข้อมูลได้ที่ www.ghbank.co.th
ข้อมูลเพิ่มเติม
- ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร. 02-645-9000
- เว็บไซต์ ธอส.
พักชำระหนี้เงินต้น
- กำหนดงวดชำระหนี้ตามศักยภาพของเกษตรกร บุคคล สถาบันเกษตรกร ผู้ประกอบการ และนิติบุคคล
- พักชำระเงินต้นออกไป 6 เดือน ถึง 1 ปี นับจากงวดที่ถึงกำหนดชำระเดิม และเป็นไปตามความสมัครใจของลูกค้า
- ลูกค้าต้องชำระเพียงดอกเบี้ยเท่านั้น
- เป็นสัญญาเงินกู้และมีเงินต้นคงเป็นหนี้ก่อนวันที่ 1 เมษายน 2564
- เป็นหนี้ที่ถึงกำหนดชำระตั้งแต่งวดเดือนเมษายน 2564 เป็นต้นไป
- ขยายเวลาชำระเงินต้น โดยไม่ขยายเวลาชำระดอกเบี้ยเงินกู้
- ไม่เป็นหนี้ตามโครงการนโยบายรัฐ หรือโครงการที่ได้รับการช่วยเหลือหรือมีเงื่อนไขตามมาตรการอื่น ๆ
- ไม่เป็นหนี้ตามโครงการที่ธนาคารกำหนด
ช่องทางลงทะเบียน
- แจ้งความประสงค์ผ่านไลน์ BAAC Family คลิก หรือ
- เว็บไซต์ baac.or.th หรือ
- Call Center 02-555-0555
สินเชื่อสู้ภัย COVID-19
- ให้วงเงินกู้รายละไม่เกิน 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.35% ต่อปี ไม่ต้องใช้หลักประกัน
- ระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 3 ปี โดยปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 งวดแรก
- เป็นเกษตรกรรายย่อย หรือลูกจ้างภาคการเกษตร
- มีสัญชาติไทย อายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 และมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินฉุกเฉิน
ช่องทางลงทะเบียน
- แจ้งความประสงค์ผ่านไลน์ BAAC Family คลิก ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เว็บไซต์ ธ.ก.ส.
- โทร. 02-555-0555
พักชำระหนี้ 2 เดือน
- สำหรับผู้ประกอบการและสถาบันเกษตรกร ลงทะเบียนได้วันที่ 19 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม 2564
- สำหรับเกษตรกรและบุคคล ลงทะเบียนได้วันที่ 19 กรกฎาคม - 15 ธันวาคม 2564
ช่องทางลงทะเบียน
- Line BAAC Family หรือ
- เว็บไซต์ ธ.ก.ส. (คลิก) หรือ
- โทร. 02-555-0555 หรือ
- ติดต่อ ธ.ก.ส. ทุกสาขา
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เว็บไซต์ ธ.ก.ส.
- โทร. 02-555-0555
มาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย ระยะที่ 3
สินเชื่ออเนกประสงค์แบบไม่มีหลักประกัน
- ลดค่างวดไม่เกิน 30% ของค่างวดเดิม ระยะเวลา 6 เดือน ไม่ขยายระยะเวลาและให้นำไปชำระในงวดสุดท้าย
หมายเหตุ : สินเชื่ออเนกประสงค์แบบไม่มีหลักประกัน หมายถึง สินเชื่อบุคคลภายใต้การกำกับตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยไม่นับรวมสินเชื่อสวัสดิการพนักงานบุคคลภายนอก (MOU)/สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน ibank/สินเชื่อบำเหน็จบำนาญข้าราชการ/สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย (MSMEs) และสำหรับลูกหนี้สินเชื่อสวัสดิการพนักงานบุคคลภายนอกที่ภายหลังลาออกและไม่สามารถหักบัญชีเงินเดือน (MOU ลาออก) สามารถยื่นขอรับมาตรการตามเกณฑ์นี้ได้
สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย/อเนกประสงค์แบบมีหลักประกัน
- ลดค่างวดไม่เกิน 30% ของค่างวดเดิม ระยะเวลา 6 เดือน ไม่ขยายระยะเวลาและให้นำไปชำระในงวดสุดท้าย
- พักชำระเงินต้น (ชำระเฉพาะกำไร) 6 เดือน โดยไม่ขยายระยะเวลา
- พักชำระเงินต้น (ชำระเฉพาะกำไร) 3 เดือน โดยไม่ขยายระยะเวลา และให้ปรับลดอัตรากำไรในระยะเวลาที่พักชำระหนี้ลง 0.25% เฉพาะบัญชีสินเชื่อที่อยู่ในช่วงการชำระค่างวดด้วยอัตรากำไรอ้างอิง SPRL
- สำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบระยะยาว สามารถพักชำระเงินต้นและกำไร 3 เดือน โดยไม่ขยายระยะเวลาและให้นำไปชำระในงวดสุดท้าย
สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์
- พักชำระเงินต้นและกำไร และขยายระยะเวลา 3 เดือน
- สำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบระยะยาว สามารถคืนรถในกรณีที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ หากขายประมูลได้จริงต่ำกว่าภาระหนี้ ธนาคารจะพิจารณาลดภาระหนี้ตามความเหมาะสม
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ
-
เป็นลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19
-
ลูกหนี้สินเชื่อบุคคล สินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเช่าซื้อที่เคยได้รับอนุมัติเข้าร่วมมาตรการอื่น สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมได้
-
ไม่มีสถานะเป็น NPF ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563
-
ต้องแสดงหลักฐานการได้รับผลกระทบ โดยแบ่งความรุนแรงของผลกระทบ ดังนี้
-
ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบระยะสั้น เช่น ถูกลดชั่วโมงการทำงาน/เงินเดือน/ยอดขายลดลง ซึ่งกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ชั่วคราว
-
ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบระยะยาว เช่น ถูกพักงานหรือเลิกจ้าง/ปิดกิจการ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจนไม่สามารถชำระหนี้ได้
-
ช่องทางลงทะเบียน
- ยื่นเรื่องได้ทางเว็บไซต์ ibank.co.th เท่านั้น
- ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม - 31 ธันวาคม 2564
มาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่ค้างชำระมากกว่า 90 วัน
กรณีเป็นลูกหนี้ที่ค้างชำระมากกว่า 90 วัน (NPF : Non-Performing Financing) และได้รับผลกระทบทั้งจากภาวะเศรษฐกิจและจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทางธนาคารจะให้ความช่วยเหลือโดยเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ได้เข้ามาเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ และลดภาระการผ่อนชำระรายเดือน ดังนี้
1. แนวทางที่ 1 ชําระกําไรรายเดือน 50% ระยะเวลา 6 เดือน
2. แนวทางที่ 2 ชําระกําไรรายเดือน 75% ระยะเวลา 9 เดือน
3. แนวทางที่ 3 ชําระกําไรรายเดือน 100% ระยะเวลา 12 เดือน ลดอัตรากําไร 0.50% นาน 12 เดือน
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ
- สำหรับลูกหนี้กลุ่มสินเชื่ออุปโภคบริโภคแบบมีหลักประกัน
- สำหรับลูกหนี้กลุ่มสินเชื่ออเนกประสงค์แบบไม่มีหลักประกัน
- สำหรับลูกหนี้กลุ่มสินเชื่อ SMEs ที่มีเงินต้นคงเหลือไม่เกิน 20 ล้านบาท
ช่องทางลงทะเบียน
- ติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่สินเชื่อที่ดูแลบัญชีได้ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2564
- หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ibank Call Center 1302
พักชำระหนี้และกำไร 2 เดือน
สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการตามมาตรการควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
ช่องทางลงทะเบียน
- แจ้งความประสงค์ได้ที่เจ้าหน้าที่สินเชื่อของลูกค้า หรือ
- แจ้งความประสงค์ผ่านอีเมล covidretail@ibank.co.th
- ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม 2564
สินเชื่อบุคคล
- ประเภทวงเงินหมุนเวียน : เปลี่ยนเป็นวงเงินกู้แบบกำหนดระยะเวลา (Term Loan) 48 งวด หรือขยายระยะเวลาได้ตามความสามารถในการชำระหนี้
- แบบกำหนดระยะเวลา : ลดการผ่อนชำระลง 30% จากการผ่อนชำระตามสัญญากู้เดิม นานสูงสุด 6 เดือน
สินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อที่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน
ได้แก่ สินเชื่อบ้าน, สินเชื่อ Home for Cash, สินเชื่อกรุงไทยบ้านให้เงิน
- พักชำระเงินต้น (ชำระเฉพาะดอกเบี้ย) นาน 3 เดือน หรือลดค่างวดโดยการขยายระยะเวลาการชำระหนี้
- มาตรการความช่วยเหลือระยะที่ 3 แจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564
- ต้องเป็นลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด 19 เช่น ธุรกิจสายการบิน, ธุรกิจโรงแรม หรือธุรกิจที่ปิดกิจการชั่วคราวตามประกาศทางราชการ เป็นต้น
- ต้องเป็นลูกค้าที่มีสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับธนาคาร
- ต้องเป็นลูกค้าที่มีประวัติการชำระปกติ ก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2563
- การพิจารณาเข้าร่วมมาตรการอยู่ในดุลพินิจของธนาคาร กรณีที่ลูกค้าไม่สามารถชำระหนี้ได้ กรุณาติดต่อธนาคาร เพื่อรับคำปรึกษาและความช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไป
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้กู้
- เอกสารแสดงการเปลี่ยนชื่อ-สกุล ผู้กู้ (ถ้ามี)
- เอกสารแสดงรายได้ก่อนได้รับผลกระทบ
- เอกสารแสดงรายได้หลังได้รับผลกระทบ
- เอกสารแสดงความสัมพันธ์ของผู้ได้รับผลกระทบและผู้กู้* (ถ้ามี)
*หากเป็นบิดา มารดา บุตร แสดงเป็นสำเนาทะเบียนบ้าน หรือเป็นคู่สมรส แสดงสำเนาทะเบียนสมรส เป็นต้น
- ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ krungthai.com
- กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน และอัปโหลดเอกสาร
- รอเจ้าหน้าตรวจสอบผลลงทะเบียนเข้ารับมาตรการช่วยเหลือฯ ระยะที่ 3 โดยสามารถตรวจสอบผลการลงทะเบียนได้ที่นี่
ลูกค้าธุรกิจ
- สำหรับลูกค้าสินเชื่อที่มีวงเงินสินเชื่อรวมทุกธนาคาร ตั้งแต่ 50-500 ล้านบาท อ่านมาตรการช่วยเหลือได้ ที่นี่
- สำหรับสินเชื่อธุรกิจขนาดเล็ก (SME) สามารถติดต่อขอรายละเอียดมาตรการอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา
- เว็บไซต์ธนาคารกรุงไทย
- Krungthai Contact Center 02-111-1111
พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 2 เดือน
สำหรับลูกหนี้ ทั้งนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการในพื้นที่ควบคุมฯ และนอกพื้นที่ควบคุมฯ ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการควบคุมฯ ของทางการ (หลักเกณฑ์การพิจารณาเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด)
ช่องทางลงทะเบียน
- ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา หรือหน่วยงานที่ดูแลสินเชื่อของลูกค้า
- ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- Krungthai Contact Center 02-111-1111
- เฟซบุ๊ก Krungthai Care
ประเภทที่ 1 มาตรการช่วยเหลือที่ไม่ต้องลงทะเบียน
ประเภทที่ 2 มาตรการช่วยเหลือที่ต้องลงทะเบียน
สินเชื่อบ้านกสิกรไทย
บัตรเครดิตกสิกรไทย
บัตรเงินด่วน Xpress Cash
สินเชื่อเงินด่วน XPress Loan
สินเชื่อเงินด่วนแบบผ่อนระยะยาวเพื่อธุรกิจ
- ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากสถานการณ์ COVID-19 เช่น ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน หรือธุรกิจที่ปิดบริการชั่วคราวตามประกาศทางราชการ
- ลูกค้าต้องไม่ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 90 วัน หรือ 3 เดือน นับแต่วันครบกำหนดชำระ (NPL) ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563
- ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2564
- พิมพ์ @help ผ่าน LINE Kbank Live คลิก หรือสแกน QR CODE ด้านล่างนี้
- เว็บไซต์ธนาคารกสิกรไทย
- K-Contact Center 02-888-8888
- K-BIZ Contact Center (สำหรับลูกค้าธุรกิจ) 0-2888-8822 หลังเลือกภาษา กด 65
พักชำระหนี้ 2 เดือน
- สำหรับลูกค้าทั้งที่เป็นนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการที่ต้องปิดกิจการในพื้นที่ควบคุมฯ
- ลูกหนี้ที่ต้องปิดกิจการที่อยู่นอกพื้นที่ควบคุมฯ เช่น ร้านนวด-สปา ร้านเสริมความงาม ร้านขายของในห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
- ลูกหนี้ไม่เป็น NPL ณ วันที่ลงทะเบียนมาตรการช่วยเหลือ
ช่องทางลงทะเบียน
- ลูกค้า SME
- ติดต่อผู้ดูแลความสัมพันธ์ลูกค้า หรือ
- K-BIZ Contact Center 02-888-8822
- ลูกค้ารายย่อย
- ติดต่อ K-Contact Center 02-888-8888 หรือ
- LINE KBank Live คลิก
- ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม - 31 สิงหาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เฟซบุ๊ก KBank Live
- K-Contact Center 02-888-8888
บัตรเครดิต
- ปรับลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำมาอยู่ที่ 5% (จากเดิม 10%) จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 สำหรับผู้ถือบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพทุกประเภท และทุกรายได้ รับสิทธิ์อัตโนมัติโดยไม่ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิ์
- ปรับลดเพดานดอกเบี้ยมาอยู่ที่ 16% ต่อปี (จากเดิม 18% ต่อปี) มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 สำหรับผู้ถือบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพทุกประเภท และทุกรายได้ รับสิทธิ์อัตโนมัติโดยไม่ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิ์
- ไม่ต้องชำระหนี้ตามยอดเรียกเก็บ นาน 3-6 เดือน โดยพิจารณาตามเขตพื้นที่ควบคุมฯ
- ลดดอกเบี้ยค้างชำระ 50% นาน 1-3 เดือน โดยพิจารณาตามเขตพื้นที่ควบคุมฯ เฉพาะกลุ่มธุรกิจที่ถูกสั่งปิด
- เปลี่ยนเป็นสินเชื่อผ่อนชำระ 48 งวด
- โอนภาระหนี้บัตรเครดิตค้างชำระ เป็นการผ่อนชำระระยะยาว และลดดอกเบี้ยอยู่ที่ 12%
- กรณีขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ลดดอกเบี้ยกรณีพิเศษ ตั้งแต่ MRR+2% - MRR+4%
- ขยายวงเงินให้แก่ลูกค้าที่มีความจำเป็นและมีประวัติการชำระหนี้ที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับลูกค้าที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่ำกว่า 30,000 บาท จาก 1.5 เท่า เป็น 2 เท่า เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 (เข้าร่วมโครงการ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-638-4000 หรืออีเมล : card.srv@bangkokbank.com)
สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ
- ลดค่างวดตามความสามารถในการชำระหนี้ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี
- ลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำ ตามความสามารถในการชำระหนี้
- เปลี่ยนเป็นสินเชื่อที่มีระยะเวลา (term loan) 48 งวด หรือขยายระยะเวลาตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า โดยคิดดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี ทั้งนี้ จะพิจารณาให้ใช้วงเงินที่เหลือตามความสามารถในการชำระหนี้ แต่เมื่อรวมกับยอดคงเหลือของสินเชื่อเดิมต้องไม่เกินกว่าวงเงินที่ได้รับการอนุมัติ
- ลงทะเบียนได้ ที่นี่ หรือติดต่อสาขา ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564
สินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่ออเนกประสงค์ที่ใช้ที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน
- เลื่อนชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) เป็นระยะเวลา 3 เดือน หรือ
- เลื่อนชำระเงินต้น (จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย) เป็นระยะเวลา 3 เดือน และพิจารณาลดดอกเบี้ยให้ลูกค้าแต่ละรายตามความเหมาะสม หรือ
- ลดค่างวดโดยขยายเวลาการชำระหนี้
- ลงทะเบียนได้ ที่นี่ หรือติดต่อสาขา ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564
พักชำระหนี้ 2 เดือน
พักชำระหนี้ เป็นระยะเวลา 2 เดือน ทั้งลูกค้าสินเชื่อรายย่อย และ SME ประกอบด้วย บัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบ้าน สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย และสินเชื่อธุรกิจ ในพื้นที่ควบคุมฯ และนอกพื้นที่ควบคุมฯ ที่ต้องปิดกิจการจากการยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรค
ช่องทางลงทะเบียน
- เว็บไซต์ธนาคารกรุงเทพ หรือ
- โมบายแบงกิ้ง ธนาคารกรุงเทพ หรือ
- สำนักธุรกิจและสาขาธนาคารทั่วประเทศ หรือ
- บัวหลวงโฟน โทร. 1333 หรือ 02-645-5555
- ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- บัวหลวงโฟน โทร. 1333 หรือ 02-645-5555
- เว็บไซต์ธนาคารกรุงเทพ
- เฟซบุ๊ก Bangkok Bank
สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน
- พักชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) หรือ
- พักเงินต้น และจ่ายดอกเบี้ยบางส่วน หรือ
- ลดค่างวด หรือ
- รวมหนี้ (ตามมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ลูกหนี้รายย่อย)
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ
- สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เท่านั้น
- ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณามาตรการช่วยเหลือตามผลกระทบที่ลูกค้าได้รับ แล้วแต่กรณี
- ไม่เป็นสินเชื่อค้างชำระเกิน 90 วัน ก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2563
- หลังจากลูกค้าพักชำระค่างวด หรือลดค่างวดแล้ว สามารถเลือกทยอยชำระคืนเป็นขั้นบันได (step up) ได้
สินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- เปลี่ยนจากวงเงินหมุนเวียนเป็นผ่อนชำระค่างวด หรือ
- ปรับลดเงินผ่อนชำระค่างวด หรือ
- รวมหนี้ (ตามมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ลูกหนี้รายย่อย)
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ
- สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เท่านั้น
- ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณามาตรการช่วยเหลือตามผลกระทบที่ลูกค้าได้รับ แล้วแต่กรณี
- ไม่เป็นสินเชื่อค้างชำระเกิน 90 วัน ก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2563
- สำหรับบัญชีสินเชื่อบุคคลที่เข้าร่วมโครงการ ธนาคารจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย เรียกเก็บสูงสุดไม่เกิน 22%
ช่องทางลงทะเบียนสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- ยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการได้ที่นี่ คลิก
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เว็บไซต์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- สอบถามโทร. 1572
พักชำระหนี้ 2 เดือน
ชะลอการชำระค่างวดสูงสุด 2 เดือน (ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป) สำหรับลูกค้าสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน ลูกค้า SME ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ควบคุมฯ รวมถึงลูกหนี้ที่ต้องปิดกิจการที่อยู่นอกพื้นที่ควบคุมฯ เช่น ร้านนวด-สปา ร้านเสริมความงาม ร้านขายของในห้างสรรพสินค้า เป็นต้น หรือตามประกาศเปลี่ยนแปลงของ ศบค.
ช่องทางลงทะเบียน
- ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจ SME โทร. 02-296-6262, 02-626-2626 หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ธุรกิจสัมพันธ์ (RM)
- ลูกค้ารายย่อย ติดต่อ Krungsri Call Center 1572 หรือลงทะเบียน ที่นี่
- ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เว็บไซต์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- โทร. 1572
สำหรับลูกค้าบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ มี 3 มาตรการ คือ
มาตรการที่ 1 : ลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำอัตโนมัติ สำหรับลูกค้าทุกราย (โดยไม่ต้องลงทะเบียนหรือโทร. แจ้งความจำนงกับบริษัท)
- บัตรเครดิต : จากเดิม 10% เหลือ 5% ตามรอบบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 - 31 ธันวาคม 2564
- สินเชื่อส่วนบุคคลแบบชำระขั้นต่ำ : จากเดิม 5% เหลือ 3% ตามรอบบัญชีตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2563 - 31 ธันวาคม 2564
มาตรการที่ 2 : ปรับลดดอกเบี้ยเป็นกรณีพิเศษและขยายเวลาผ่อนชำระ สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ
-
ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นดอกเบี้ยพิเศษ หรือ
-
ขยายระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุด 48 เดือน ขึ้นอยู่กับจำนวนหนี้คงค้าง
-
ปรับลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษเป็น 12% ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการบัตรเครดิต
- เฉพาะผู้ถือบัตรเครดิต/สินเชื่อส่วนบุคคลของบริษัทในกลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เท่านั้น
- ต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ได้รับผลกระทบจากธุรกิจที่ปิดตัวลง หรือธุรกิจที่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ตามประกาศของทางราชการ
- ไม่เคยเข้าร่วมมาตรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ
- ต้องคงสถานะบัญชีปกติ และไม่เคยมีประวัติค้างชำระ ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา และเฉพาะสมาชิกที่มีบัญชีบัตรกับบริษัท ก่อนเดือนมีนาคม 2563
ช่องทางลงทะเบียน
- ลงทะเบียนผ่านโมบายแอปฯ UCHOOSE ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564
-
สินเชื่อบุคคล จัสแคช : ลดการผ่อนชำระขั้นต่ำเหลือ 3% (ยอดคงค้างไม่เกิน 30,000 บาท) หรือขยายการผ่อนชำระนานสูงสุด 99 เดือน กรณียอดสินเชื่อคงค้างมากกว่า 30,000 บาท พร้อมปรับลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษแบบลดต้นลดดอก ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 31 ธันวาคม 2564
-
สินเชื่อบุคคล กรุงศรี ดรีมโลน : ขยายการผ่อนชำระนานสูงสุด 99 เดือน
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการสินเชื่อบุคคล
- เฉพาะลูกค้าสินเชื่อส่วนบุคคลของบริษัทในกลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เท่านั้น
- ต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ได้รับผลกระทบจากธุรกิจที่ปิดตัวลง หรือธุรกิจที่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ตามประกาศของทางราชการ
- ต้องคงสถานะบัญชีปกติ และไม่เคยมีประวัติค้างชำระ ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา และเฉพาะสมาชิกที่มีบัญชีบัตรกับบริษัท ก่อนเดือนมีนาคม 2563
ช่องทางลงทะเบียน
- สินเชื่อบุคคลจัส แคช : ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ได้ที่ศูนย์บริการสินเชื่อบุคคล จัสแคช โทร. 0-2646-3000 ตลอด 24 ชั่วโมง
- สินเชื่อบุคคลดรีม โลน : ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ได้ที่ศูนย์บริการสินเชื่อส่วนบุคคล กรุงศรี ดรีมโลน โทร. 0-2646-3999 ตลอด 24 ชั่วโมง
มาตรการที่ 3 : ปรับโครงสร้างหนี้ สำหรับลูกค้าที่มียอดค้างชำระผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต และผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคล
ช่องทางลงทะเบียน
แจ้งความจำนงที่ศูนย์บริการสมาชิกบัตรเครดิตที่ถืออยู่ ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ดังนี้
- ศูนย์บริการสมาชิกบัตรเครดิตกรุงศรีอยุธยา โทร. 02-646-3555
- ศูนย์บริการสมาชิกบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน โทร. 02-627-8111
- ศูนย์บริการสมาชิกบัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ โทร. 02-345-6789
- ศูนย์บริการสมาชิกบัตรเครดิตเทสโก้ โลตัส วีซ่า โทร. 1712
พักชำระหนี้ 2 เดือน
พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยนานสูงสุด 2 รอบบัญชี สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ตามประกาศของภาครัฐ ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงสุด
ช่องทางลงทะเบียน
- แอปพลิเคชัน UChoose
- ศูนย์บริการสมาชิกบัตรเครดิต ได้แก่
- ศูนย์บริการสมาชิกบัตรเครดิตกรุงศรีอยุธยา โทร. 02-646-3555
- ศูนย์บริการสมาชิกบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน โทร. 02-627-8111
- ศูนย์บริการสมาชิกบัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ โทร. 02-345-6789
- ศูนย์บริการสมาชิกบัตรเครดิตเทสโก้ โลตัส วีซ่า โทร. 1712
- ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม - 18 สิงหาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
สำหรับลูกค้าสินเชื่อยานยนต์ กรุงศรี ออโต้ จะได้รับความช่วยเหลือแบ่งเป็นสินเชื่อรถยนต์ และสินเชื่อรถจักรยานยนต์ ดังนี้
รถยนต์ : สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์
- ลดค่างวด ขยายระยะเวลาผ่อนชำระ หรือ
- การรวมหนี้กับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรายย่อย
- ปิดบัญชีก่อนกำหนด ลดดอกเบี้ยที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ 50%
- สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบรุนแรง พิจารณาพักชำระค่างวด
รถยนต์ : สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ
- ลดค่างวด ขยายเวลาการผ่อนชำระ
- การรวมหนี้กับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรายย่อย
- สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบรุนแรง พิจารณาพักชำระค่างวด
รถจักรยานยนต์ : สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์
- ลดค่างวด ขยายระยะเวลาผ่อนชำระ หรือ
- การรวมหนี้กับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรายย่อย
- ปิดบัญชีก่อนกำหนด ลดดอกเบี้ยที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ 50%
รถจักรยานยนต์ : สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ
- ลดค่างวด ขยายเวลาการผ่อนชำระ
- การรวมหนี้กับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรายย่อย
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการสินเชื่อกรุงศรี ออโต้
- เป็นลูกค้าที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อกับกรุงศรี ออโต้ ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2564
- ไม่เป็นสินเชื่อที่ค้างชำระเกิน 90 วัน ณ วันที่เข้าร่วมมาตรการ
- ไม่เป็นสินเชื่อที่อยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย ณ วันที่เข้าร่วมมาตรการ
- มาตรการสำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบในช่วงสถานการณ์การระบาดของ โควิด 19 เท่านั้น
- ต้องแจ้งความประสงค์ขอเข้าร่วมมาตรการและยืนยันผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า ก่อนวันครบกำหนดชำระค่างวดปัจจุบัน หรือก่อนมาตรการเดิมสิ้นสุดไม่น้อยกว่า 15 วัน เพื่อให้มาตรการช่วยเหลือครั้งใหม่มีผลในรอบบัญชีปัจจุบัน กรณีแจ้งความประสงค์หลังวันครบกำหนดชำระค่างวดปัจจุบัน หรือหลังมาตรการเดิมสิ้นสุด มาตรการความช่วยเหลือครั้งใหม่จะมีผลในรอบบัญชีถัดไป
- ลูกค้าและผู้ค้ำประกัน (ถ้ามี) ต้องลงนามในเอกสารสัญญาตามเงื่อนไขของกรุงศรี ออโต้
- ลูกค้าที่เข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือจะไม่สามารถขอสินเชื่อใหม่กับกรุงศรี ออโต้ ได้ตามระยะเวลาที่กรุงศรี ออโต้ กำหนด
กรณีลูกค้าได้รับอนุมัติเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือแล้วจะไม่สามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงได้
**กรณีไม่เข้าเงื่อนไขข้างต้น กรุงศรี ออโต้ ขอสงวนสิทธิ์เป็นผู้พิจารณามาตรการให้ความช่วยเหลือที่เหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบันของลูกค้า**
เอกสารประกอบการพิจารณา
- สำเนาบัตรประชาชนผู้เช่าซื้อ พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง
- เอกสารยืนยันผลกระทบจาก COVID ที่มีผลต่อรายได้ของผู้เช่าซื้อ
- สำเนาบัตรประชาชนผู้ค้ำประกัน พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง (กรณีมีผู้ค้ำประกัน)
- เอกสารยืนยันผลกระทบจาก COVID ที่มีผลต่อรายได้ของผู้ค้ำประกัน (กรณีมีผู้ค้ำประกัน)
ช่องทางลงทะเบียน
- ยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการได้ที่นี่ คลิก ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564
- ส่งเอกสารประกอบการพิจารณาเมื่อได้รับข้อความทาง SMS
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เว็บไซต์กรุงศรี ออโต้
- เว็บไซต์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- สอบถามโทร. 02-740-7400 กด 3 หรือ 5
พักชำระหนี้ 2 เดือน สำหรับลูกค้ากรุงศรี ออโต้
พักชำระค่างวดขั้นต่ำ 2 เดือน สำหรับสินเชื่อยานยนต์ทุกประเภท ครอบคลุมทั้งสินเชื่อเช่าซื้อ และสินเชื่อจำนำทะเบียน
ช่องทางลงทะเบียน
- เว็บไซต์กรุงศรี ออโต้ หรือ
- แอปพลิเคชัน GO Application by Krungsri Auto หรือ
- กรุงศรี ออโต้ คอลเซ็นเตอร์ 02-740-7400 หรือ
- สแกน QR CODE ในภาพโปสเตอร์เพื่อลงทะเบียน
- ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เว็บไซต์กรุงศรี ออโต้
- กรุงศรี ออโต้ คอลเซ็นเตอร์ 02-740-7400 กด 3 หรือ กด 5
- สาขากรุงศรี ออโต้ ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
สินเชื่อเงินกู้ ประเภทจำนำทะเบียนรถ
- ปรับลดค่างวด ขยายระยะเวลาผ่อนชำระให้สอดคล้องกับความสามารถของลูกค้า หรือ
- หากลูกค้าไม่สามารถชำระหนี้ได้
- คืนรถ หากราคาขายรถต่ำกว่าภาระหนี้ ธนาคารจะพิจารณาปรับลดภาระหนี้ส่วนที่เหลือตามความเหมาะสม หรือ
- พักชำระค่างวด โดยธนาคารจะพิจารณาตามศักยภาพของลูกค้า (ในระหว่างพักชำระยังคงมีดอกเบี้ยเกิดขึ้น โดยคิดดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยเดิมในสัญญา)
สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์
- ปรับลดค่างวด ขยายระยะเวลาผ่อนชำระให้สอดคล้องกับความสามารถของลูกค้า หรือ
- หากลูกค้าไม่สามารถชำระหนี้ได้
- คืนรถ หากราคาขายรถต่ำกว่าภาระหนี้ ธนาคารจะพิจารณาปรับลดภาระหนี้ส่วนที่เหลือตามความเหมาะสม หรือ
- พักชำระค่างวด โดยธนาคารจะพิจารณาตามศักยภาพของลูกค้า (ในระหว่างพักชำระ คิดดอกเบี้ยจากฐานค่างวดที่พักชำระจากวันที่พักชำระจนถึงวันที่ชำระค่างวดดังกล่าวตามที่ตกลงกัน)
หมายเหตุ : อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาไม่สูงกว่าอัตราตามสัญญาเดิม
มาตรการคืนรถจบหนี้
หากรถยนต์ที่ธนาคารได้รับคืน ประมูลขายได้ราคาต่ำกว่าภาระหนี้คงค้าง ธนาคารจะยกหนี้ส่วนที่เหลือและปิดบัญชีให้แก่ลูกค้า โดยไม่มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากการขายหรือเรียกเก็บส่วนต่างใด ๆ อีก รวมถึงรายงานข้อมูลเครดิตด้วยสถานะปิดบัญชี
คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ
- เป็นลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อหรือสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ (จำนำทะเบียนรถยนต์)
- เป็นลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 โดยมีรายได้ลดลงและไม่สามารถชำระค่างวดตามสัญญาเดิมได้ในระยะยาว (โดยลูกค้าต้องแสดงหลักฐาน/ข้อมูลว่าเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบ)
- รถยนต์ยังอยู่ในสภาพเรียบร้อย และสามารถใช้งานได้ตามปกติ
- มีประวัติผ่อนชำระค่างวดตามสัญญามาแล้วไม่น้อยกว่า 12 งวด
- ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563 ต้องมีสถานะบัญชีไม่ค้างชำระ หรือค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยไม่เกินกว่า 90 วัน นับแต่วันครบกำหนดชำระ
การพิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกค้าแต่ละรายเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด โดยธนาคารจะพิจารณาจากผลกระทบที่ลูกค้าได้รับ รวมทั้งข้อมูล เอกสารประกอบที่ลูกค้านำส่ง
ช่องทางลงทะเบียน
- ลงทะเบียนที่ เว็บไซต์ธนาคารทิสโก้
- ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2564
ทิสโก้ ช่วยคนผ่อนรถไม่ไหว คืนรถจบหนี้ ไม่ฟ้อง-ไม่จ่ายเพิ่ม ดูที่นี่เลย
สินเชื่อที่อยู่อาศัย
- ปรับลดค่างวด โดยขยายระยะเวลาชำระหนี้
- เป็นลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
- ต้องมีสถานะบัญชีไม่ค้างชำระ/ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยไม่เกินกว่า 90 วัน ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563 (กรณีมีสินเชื่อกับธนาคารก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2563)
- การพิจารณาให้ความช่วยเหลือสำหรับลูกค้าแต่ละรายเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด โดยธนาคารจะพิจารณาจากผลกระทบที่ลูกค้าได้รับ และนำเสนอแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่เหมาะสมต่อความสามารถในการชำระหนี้ และความเสี่ยงของลูกค้า
- ลงทะเบียนเพื่อขอเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือฯ ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564
- ลงทะเบียนและส่งเอกสารเพิ่มเติมผ่าน เว็บไซต์ธนาคารทิสโก้
พักชำระหนี้ 2 เดือน
พักชำระหนี้เป็นระยะเวลา 2 เดือน สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งปิดกิจการของทางการทั้งในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงสุด หรือนอกพื้นที่ควบคุมฯ ได้แก่ นายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวถูกคำสั่งปิดกิจการจนขาดรายได้
ช่องทางลงทะเบียน
-
เจ้าหน้าที่ธุรกิจสัมพันธ์ (RM) ที่ดูแลท่าน
- ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- ธนาคารทิสโก้
- Call Center โทร. 02-633-6000
บัตรเครดิต
- ปรับลดอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเป็น 0% ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 - 31 ธันวาคม 2564 (พักชำระหนี้)
- ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ MRR ของธนาคาร
- ขอสงวนสิทธิ์พิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกค้าเป็นรายกรณี
สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ไม่จำกัดวงเงินสินเชื่อ
สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19
- ปรับลดภาระค่างวดต่อเดือน และขยายเวลาชำระค่างวด
สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจาก COVID-19
- ปรับลดภาระค่างวดต่อเดือน และขยายเวลาชำระค่างวด
- พักชำระค่างวด และขยายเวลาชำระค่างวด
- พิจารณารับคืนรถ
* ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของบริษัท ซึ่งจะพิจารณาเป็นรายกรณีไป
สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
- ผ่อนปรนการชำระหนี้เงินต้นและ/หรือดอกเบี้ยเป็นการชั่วคราวเป็นระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 10 เดือน แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินสิ้นเดือนธันวาคม 2564
- ขอสงวนสิทธิ์พิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกค้าเป็นรายกรณี
พิจารณาให้ความช่วยเหลือเฉพาะลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 เท่านั้น ทั้งนี้ การได้รับความช่วยเหลือขึ้นอยู่กับผลการพิจารณาของบริษัท
ช่องทางลงทะเบียน
- สำหรับลูกค้าของธนาคารไอซีบีซี (ไทย) ติดต่อสาขาของธนาคาร หรือโทร. 0-2629-5588
- สำหรับลูกค้าของบริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด โทร. 02-876-7200 กด 1 และ 02-626-8100
- ยื่นคำร้องขอเข้าโครงการภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
พักชำระหนี้ 2 เดือน
พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 2 เดือน ช่วยลูกค้า SME และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ที่ต้องปิดกิจการตามมาตรการของทางการ
ช่องทางลงทะเบียน
- แจ้งความประสงค์ได้ที่ ICBC (Thai) Call Center 02-629-5588 หรือสาขาของธนาคาร
- ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- ICBC (Thai) Call Center 02-629-5588
- ธนาคารไอซีบีซี (ไทย)
พักชำระหนี้ 3 เดือน สำหรับลูกค้าลีสซิ่ง
- พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน สำหรับนายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ
- ปรับลดค่างวดต่อเดือน และขยายเวลาชำระค่างวด สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของทางการที่กิจการยังเปิดทำการได้ หรือได้รับผลกระทบ และสามารถผ่อนชำระลดลง (ไม่มีการคิดดอกเบี้ยเพิ่ม)
ช่องทางลงทะเบียน
- เว็บไซต์ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย)
- ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เว็บไซต์ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย)
- โทร. 02-876-7200, 02-626-8100
บัตรเครดิตยูโอบี บัญชียูโอบีแคชพลัส สินเชื่อบุคคลไอแคช
มาตรการที่ไม่ต้องลงทะเบียน
- ปรับลดอัตราผ่อนชําระคืนขั้นตํ่าให้ลูกค้าบัตรเครดิตยูโอบีและแคชพลัสทุกคน โดยไม่ต้องติดต่อธนาคาร
มาตรการที่ต้องลงทะเบียน
- พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 รอบบัญชี (สำหรับลูกค้าที่ยังไม่เคยเข้าร่วมมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 รอบบัญชีมาแล้ว โดยพิจารณาตั้งแต่ปี 2563 ถึงวันที่ลูกค้าร้องขอมาตรการช่วยเหลือล่าสุด)
- เปลี่ยนยอดหนี้คงค้างเป็นยอดผ่อนชำระรายเดือน สูงสุด 48 รอบบัญชี (ไม่รวมรายการผ่อนชำระรายเดือนที่เกิดขึ้นก่อนเข้าร่วมโครงการนี้)
- สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโดยตรงตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด จะได้รับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็น 12% สำหรับบัตรเครดิต และ 22% สำหรับบัตรกดเงินสดแคชพลัส
- กรณีมีสินเชื่อบ้านยูโอบีด้วย สามารถเข้าร่วมโปรแกรมรวมหนี้ (Debt Consolidation) ได้
สินเชื่อบ้านยูโอบี
- พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 รอบบัญชี (สำหรับลูกค้าที่ยังไม่เคยเข้าร่วมมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 รอบบัญชีมาแล้ว โดยพิจารณาตั้งแต่ปี 2563 ถึงวันที่ลูกค้าร้องขอมาตรการช่วยเหลือล่าสุด)
- พักชำระเงินต้น โดยชำระเฉพาะดอกเบี้ย 6 รอบบัญชี (สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมมาตรการพักชำระเงินต้นโดยชำระเฉพาะดอกเบี้ยมาแล้ว โดยพิจารณาตั้งแต่ปี 2563 ถึงวันที่ร้องขอมาตรการช่วยเหลือล่าสุด)
- เข้าร่วมโปรแกรมรวมหนี้ (Debt Consolidation) (คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อประกอบการตัดสินใจ)
- กรอกแบบฟอร์มลงทะเบียนได้ ที่นี่
- ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2564
- กรอกแบบฟอร์มที่ เว็บไซต์ UOB
- ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เว็บไซต์ธนาคารยูโอบี
- UOB Call Center 02-285-1555
พักชำระหนี้ 2 เดือน
พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 2 เดือน สำหรับลูกค้าทั้งนายจ้างและลูกจ้างของกิจการที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการปิดกิจการตามมาตรการของทางการ
ช่องทางลงทะเบียน
- สำหรับลูกค้ารายย่อย กรอกแบบฟอร์มขอรับมาตรการช่วยเหลือ ที่นี่
- สำหรับลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ที่ดูแลท่าน หรือ UOB Biz Call Centre โทร. 02-343-3555 อีเมล businessbanking.servicecentre@uob.co.th
- ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- ธนาคารยูโอบี
-
สำหรับลูกค้ารายย่อย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ UOB Call Centre โทร. 02-285-1555
-
สำหรับลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ UOB Biz Call Centre โทร. 02-343-3555
บัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด
- ปรับลดอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำให้ลูกค้าทุกราย โดยไม่ต้องติดต่อธนาคาร มีผลตั้งแต่รอบบิลเดือนเมษายน 2563 เป็นต้นไป
- ปรับลดเพดานดอกเบี้ยให้ลูกค้าทุกราย โดยไม่ต้องติดต่อธนาคาร สำหรับยอดการใช้จ่าย/ยอดกดเงินสด ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป
- บัตรเครดิต : ลดดอกเบี้ยเหลือ 12% พร้อมผ่อนชำระยอดคงค้างได้สูงสุด 48 เดือน หรือขยายระยะเวลาได้ตามความสามารถชำระหนี้ (เงื่อนไขตามที่ธนาคารกำหนด)
- บัตรกดเงินสดธนชาต : ลดดอกเบี้ยเหลือ 21% พร้อมผ่อนชำระยอดคงค้างได้สูงสุด 60 เดือน (เงื่อนไขตามที่ธนาคารกำหนด)
- สำหรับลูกค้าที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยธนาคารสามารถเข้ามาตรการรวมหนี้กับสินเชื่อที่อยู่อาศัย เพื่อช่วยลดภาระค่างวดต่อเดือนและภาระดอกเบี้ย
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ
- สำหรับลูกค้าบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ธนาคารทหารไทย และธนาคารธนชาต ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง
ช่องทางลงทะเบียน
- ลงทะเบียนผ่าน Contact Center เพียงช่องทางเดียวเท่านั้น โดยสามารถลงทะเบียนได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564
- ผู้ถือบัตรเครดิต TMB ติดต่อ 1428
- ผู้ถือบัตรเครดิตธนชาต ติดต่อ 1770
สินเชื่อบ้าน
- พักชำระเงินต้น โดยยังคงชำระเฉพาะดอกเบี้ย นาน 6 เดือน หรือ
- ลดยอดผ่อนชำระเหลือ 70% นาน 6 เดือน หรือ
- พักชำระค่างวด ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย นาน 3 เดือน
* ขึ้นอยู่กับผลการพิจารณาของธนาคาร สำหรับลูกค้าแต่ละราย
- สำหรับลูกค้าที่เคยเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือก่อนหน้านี้ และครบระยะเวลาแล้ว สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการใหม่ได้ตามปกติ
- สำหรับลูกค้าที่ยังอยู่ระหว่างเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือก่อนหน้านี้ จะต้องให้สิ้นสุดมาตรการเดิมก่อนจึงลงทะเบียนมาตรการใหม่นี้ได้
ช่องทางลงทะเบียน
สินเชื่อบุคคล
- ลดยอดผ่อนชำระเหลือ 70% นาน 6 เดือน และลดอัตราดอกเบี้ยเหลือไม่เกิน 22%
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ
- สำหรับลูกค้าที่เคยเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือก่อนหน้านี้ และครบระยะเวลาแล้ว สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการใหม่ได้ตามปกติ
- สำหรับลูกค้าที่ยังอยู่ระหว่างเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือก่อนหน้านี้ จะต้องให้สิ้นสุดมาตรการเดิมก่อนจึงลงทะเบียนมาตรการใหม่นี้ได้
ช่องทางลงทะเบียน
สินเชื่อรถยนต์ ธนชาต DRIVE
- รถยนต์ใหม่ รถยนต์ใช้แล้ว และรถแลกเงิน
- มาตรการสำหรับผู้ได้รับผลกระทบ เช่น ลดค่างวด หรือขยายเวลาผ่อนชำระ
- มาตรการสำหรับผู้ได้รับผลกระทบรุนแรง ธนาคารพิจารณาตามความเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย เช่น ลดค่างวด, ขยายเวลาผ่อนชำระ, พักชำระค่างวด หรือมาตรการอื่น ๆ ที่เหมาะสม
- สินเชื่อเล่มแลกเงิน :
- พักชำระค่างวด หรือ
- ปรับอัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 22% และลดค่างวดผ่อนชำระต่อเดือนสูงสุด 30% ไม่เกิน 6 เดือน
ช่องทางลงทะเบียน
- ลงทะเบียนได้ทางเว็บไซต์ธนชาต (คลิก) ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม - 31 กรกฎาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เว็บไซต์ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต
- ทีทีบี โทร. 1428
- ธนชาต โทร. 1770
พักชำระหนี้ 2 เดือน
พักชำระหนี้ 2 เดือน สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการตามมาตรการของทางการ ทั้งลูกค้าสินเชื่อรายย่อย และลูกค้าสินเชื่อ SME
ช่องทางลงทะเบียน
- ลงทะเบียนได้ที่ www.ttbbank.com/tang-luk
- ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
มาตรการที่ไม่ต้องลงทะเบียน
- ลดอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ ทุกประเภท จาก 18% เป็น 16% มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563
- ลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อหมุนเวียน Speedy Cash และสินเชื่อบุคคล Speedy Loan จาก 28% เป็น 25%
มาตรการที่ต้องลงทะเบียน
บัตรเครดิต
-
ผ่อนยอดค้างชำระด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 12% นาน 48 เดือน*
-
ผ่อนยอดค้างชำระด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ นานสูงสุด 96 เดือน*
-
รวมหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรายย่อยอื่น
* ทุกหน้าบัตร ยกเว้นบัตร JCB และรายการใช้จ่ายที่ขอใช้บริการดีจังแบ่งชำระรายเดือน
สินเชื่อหมุนเวียน Speedy Cash
-
ผ่อนเงินต้นค้างชำระ ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 22% ต่อปี นาน 48 เดือน
-
ผ่อนเงินต้นค้างชำระ ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ นานสูงสุด 96 เดือน
-
รวมหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรายย่อยอื่น
สินเชื่อบุคคล Speedy Loan
- พักชำระค่างวด พร้อมปรับลดค่างวดและขยายระยะเวลาผ่อนชำระ
- ปรับลดค่างวดและขยายระยะเวลาผ่อนชำระ พร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษ
- รวมหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรายย่อยอื่น
สินเชื่อรถยนต์
- ปรับลดค่างวดและขยายระยะเวลาผ่อนชำระ
- พักชำระค่างวด พร้อมปรับลดค่างวดและขยายระยะเวลาผ่อนชำระ
สินเชื่อบ้าน
- พักชำระค่างวด พร้อมปรับลดค่างวด หรือพักชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยบางส่วนพร้อมปรับลดค่างวด
- พักชำระเงินต้นและลดอัตราดอกเบี้ยพร้อมปรับลดค่างวด
- ปรับลดค่างวด และ/หรือขยายระยะเวลาผ่อนชำระ
- ทยอยชำระคืนเป็นขั้นบันได หลังลดค่างวดหรือพักชำระหนี้
- รวมหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรายย่อยอื่น
สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย (ยอดขายไม่เกิน 75 ล้านบาท)
- ปรับลดค่างวด และ/หรือขยายระยะเวลาผ่อนชำระ
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ
- ก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2563 ลูกค้าบุคคลที่เข้าร่วมมาตรการให้ความช่วยเหลือระยะที่ 3 ต้องเป็นลูกหนี้ที่ไม่ถูกจัดชั้นด้อยคุณภาพ (Non-Performing Loans: NPL) ไม่ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 90 วัน หรือ 3 เดือน นับแต่วันครบกำหนดชำระ
- การสมัครเข้าโครงการช่วยเหลือข้างต้น เมื่อมีการตกลงเรียบร้อยแล้ว ธนาคารอาจมีการนัดหมายเพื่อลงนามข้อตกลงกับลูกค้า
ช่องทางลงทะเบียน
- ลงทะเบียนได้ที่แอปฯ SCB EASY (เฉพาะลูกค้าบุคคล) หรือ
- ลงทะเบียนผ่านระบบอัตโนมัติ SCB Call Center โทร. 02-777-7777
- สมัครเข้าร่วมโครงการได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เว็บไซต์ธนาคารไทยพาณิชย์
- เฟซบุ๊ก SCB Thailand
- โทร. 02-777-7777
มาตรการพักหนี้ 2 เดือน
พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 2 เดือน ทั้งลูกค้าสินเชื่อรายย่อย และ SME ประกอบด้วย บัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบ้าน สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย และสินเชื่อธุรกิจ ที่อยู่ในเขตพื้นที่ควบคุมฯ ทั้งนายจ้าง-ลูกจ้างในสถานประกอบการที่ไม่สามารถเปิดกิจการได้
ช่องทางลงทะเบียน
- แอปฯ SCB EASY (เฉพาะลูกค้าบุคคล) หรือ
- ระบบอัตโนมัติ SCB Call Center โทร. 02-777-7777 หรือ
- ผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ที่ดูแลลูกค้า
- ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- SCB Call Center โทร. 02-777-7777
- ธนาคารไทยพาณิชย์
- เฟซบุ๊ก SCB Thailand
สินเชื่อรายย่อย
- เสนอมาตรการช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 เพิ่มเติม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผ่านการลดค่างวด โดยขยายระยะเวลาชำระหนี้ การพักชำระค่างวด หรือการให้ความช่วยเหลืออื่น ๆ เพิ่มเติม ตามข้อกำหนดของแต่ละผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับข้อจำกัดและผลกระทบของลูกค้าเป็นรายกรณี ตามข้อตกลงฉบับใหม่ระหว่างลูกค้าและธนาคาร
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ
- ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19
ช่องทางลงทะเบียน
- ยื่นความประสงค์ได้ที่สาขาของธนาคารทั่วประเทศ หรือ
- KKP Contact Center หมายเลข 02-165-5555 เวลา 07.00-20.00 น. ทุกวัน
- ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564
- ธนาคารเกียรตินาคินภัทร
- KKP Contact Center 02-165-5555
พักชำระหนี้ 2 เดือน
ช่องทางลงทะเบียน
-
ติดต่อสาขาของธนาคารทั่วประเทศ หรือ
-
KKP Contact Center หมายเลข 02-165-5555 เวลา 07.00-20.00 น. ทุกวัน
- ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- ธนาคารเกียรตินาคินภัทร
- KKP Contact Center 02-165-5555 เวลา 07.00-20.00 น. ทุกวัน
สินเชื่อบุคคลเอ็กซ์ตร้าแคช
ทางเลือกที่ 1
- เปลี่ยนวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนเป็นสินเชื่อแบบผ่อนชำระรายเดือน (บัญชีเอ็กซ์ตร้าแคชจะถูกปิด และลูกค้าจะไม่สามารถเบิกถอนวงเงินสินเชื่อบุคคลเอ็กซ์ตร้าแคชได้อีก)
ทางเลือกที่ 2
- ขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้โดยวิธีการรวมหนี้
สินเชื่อบุคคลเพอร์ซันนัลแคช
ทางเลือกที่ 1
- ลดค่างวดชำระต่อเดือนเป็นเวลา 12 หรือ 24 เดือน (อัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 22% ต่อปี ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของธนาคาร
ทางเลือกที่ 2
- ขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้โดยวิธีการรวมหนี้
สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อรายย่อยที่มีหลักประกัน
- ทางเลือกที่ 1 : พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน
- ทางเลือกที่ 2 : ลดค่างวด 12 เดือน
- ทางเลือกที่ 3 : ขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยวิธีการรวมหนี้
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ
- เป็นลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19
ต้องไม่เป็นหนี้เสีย หรือ NPL
ช่องทางลงทะเบียน
- ลงทะเบียนผ่านช่องทาง LINE ด้วยการ Scan QR code จากภาพ หรือ
- ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ cimbthaionlinecampaign
- หลังลงทะเบียน ลูกค้าต้องแสดงหลักฐานที่ได้รับผลกระทบ เช่น หนังสือเลิกจ้างงาน หนังสือรับรองเงินเดือน รายการเคลื่อนไหวทางบัญชี โดยส่งทางอีเมล covid19cimbthai@cimbthai.com และแจ้งรายละเอียด ชื่อ-นามสกุล หมายเลขบัญชีสินเชื่อ วันที่ที่ลงทะเบียน
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เว็บไซต์ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย
- โทร. 02-626-7777 ทุกวัน เวลา 07.00-20.00 น.
สินเชื่อรถยนต์
- ทางเลือกที่ 1 ลดค่างวดและขยายเวลาชำระหนี้
- ทางเลือกที่ 2 พักชำระค่างวด 3 เดือน (ดอกเบี้ยระหว่างการพักชำระคิดจากค่างวดที่พักชำระ)
- ทางเลือกที่ 3 คืนรถและขายทอดตลาด เพื่อนำส่วนต่างมาหักจากยอดหนี้ (สำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบรุนแรง โดยเงื่อนไขการพิจารณาเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)
กรณีลูกค้าขอชำระยอดหนี้ทั้งหมดเพื่อปิดบัญชี บริษัทจะพิจารณาให้ส่วนลดตามนโยบายที่บริษัทกำหนด
ช่องทางลงทะเบียน
- ลงทะเบียนได้ที่ cimbthaiauto.com ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม - 30 ธันวาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- cimbthaiauto.com
- โทร. 02-491-5555 วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-17.00 น.
- สาขาของบริษัท ซีไอเอ็มบี ไทย ออโต้ จำกัด
พักชำระหนี้ 2-3 เดือน
- สินเชื่อบุคคลเพอร์ซันนัลแคช : พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน
- สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อรายย่อยที่มีหลักประกัน : พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน
- สินเชื่อ SME : พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 2 เดือน
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ
-
ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโดยตรงตามเขตพื้นที่ควบคุมฯ และสถานประกอบการในพื้นที่ควบคุมฯ และนอกพื้นที่ควบคุมฯ ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการ
-
ลูกค้าที่ยังไม่เคยเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือกับธนาคาร หรือลูกค้าที่อยู่ระหว่างได้รับการช่วยเหลือของธนาคารและมีความประสงค์จะสมัครเข้าร่วมมาตรการนี้แทนมาตรการให้ความช่วยเหลือเดิม
-
ลูกค้ารายย่อยต้องไม่เป็นหนี้เสีย หรือ NPL ณ วันที่สมัครหรือลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือโปรแกรมนี้
หลังจากที่ลงทะเบียน ลูกค้าจะต้องแสดงข้อมูลว่าเป็นผู้ได้รับผลกระทบ เช่น หลักฐานการทำงานหรือเปิดร้านอยู่ในห้างที่ได้รับคำสั่งให้ปิด เช่น ประกาศคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัด และประกาศของห้างสรรพสินค้า เป็นต้น -
ในระหว่างการพักชำระหนี้ ธนาคารยังคงคิดดอกเบี้ยในอัตราปกติตามสัญญาเดิม ลูกค้ายังคงมีภาระหน้าที่ในการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยในภายหลัง
ช่องทางลงทะเบียน
-
สินเชื่อบุคคลเพอร์ซันนัลแคช สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อรายย่อยที่มีหลักประกัน ลงทะเบียนผ่านทางไลน์ @CIMBTHAI หรือสแกน QR CODE ในภาพโปสเตอร์
-
สินเชื่อ SME ลงทะเบียนผ่านพนักงานธนาคารที่ดูแลท่าน
- ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย
- CIMB THAI Care Center โทร. 02-626-7777 ทุกวัน เวลา 07.00-19.00 น.
สินเชื่อรถจักรยานยนต์
พักการชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) รวม 3 เดือน สำหรับลูกค้าสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19
ช่องทางลงทะเบียน
-
ช่องทางที่ 1 ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น SOM รอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ หรือส่ง SMS เพื่อขอเอกสารเพิ่มเติม
-
ช่องทางที่ 2 ผ่านสาขา หรือ Call Center ของบริษัท โทร. 02-675-6300 ต่อ 401 วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.30-17.00 น.
-
ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เว็บไซต์เวิลด์ลีส
- Call Center โทร. 02-675-6300 ต่อ 401 วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 8.30-17.00 น.
- อีเมล phonecollectorcp3@worldlease.co.th
สินเชื่อส่วนบุคคล
- ลดค่างวดโดยการขยายระยะเวลาการชำระหนี้และคิดดอกเบี้ยในอัตราไม่เกินร้อยละ 22 ต่อปี
สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อที่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน
- พักชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) 3 เดือน หรือ
- พักชำระเงินต้น 3 เดือน และพิจารณาลดดอกเบี้ยให้ตามความเหมาะสมของลูกหนี้แต่ละราย
- ลดค่างวดโดยขยายระยะเวลาการชำระหนี้
โดยธนาคารจะพิจารณามาตรการช่วยเหลือเป็นรายกรณีไป ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและดุลพินิจตามที่ธนาคารกำหนด
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ
- เป็นลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID -19 (สำหรับลูกหนี้ที่ยังไม่เป็น NPL)
ช่องทางลงทะเบียน
- กรอกข้อมูลเพื่อลงทะเบียนเข้าโครงการมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ต่าง ๆ ที่นี่
- ลูกค้าจะได้รับการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่ธนาคารภายใน 7 วันทำการ ตามเบอร์ที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้
- สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2564
เอกสารประกอบ
- ใบคำขอให้ดำเนินการด้านสินเชื่อ (ดาวน์โหลด)
- สำเนาบัตรประชาชน พร้อมรับรองสำเนา
- สำเนาใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี)
- เอกสารที่ได้รับผลกระทบ อาทิ พนักงานประจำ ขอเอกสารเกี่ยวเนื่อง ลดเงินเดือน, ลาไม่รับเงินเดือน, ธุรกิจส่วนตัว ขอเอกสารเพื่ออ้างอิงสถานที่ที่ได้รับผลกระทบ อาทิ ธุรกิจขายเสื้อผ้า ขอเอกสารการเช่า หรือใบเสร็จค่าเช่าที่ เป็นต้น
ช่องทางการจัดส่งเอกสาร
- LH Bank ทุกสาขา
- ไปรษณีย์ โดยส่งมาที่ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) สำนักพัฒนาสินเชื่อและบริหารสินทรัพย์รายย่อย ชั้น M เลขที่ 11 อาคาร Q House สาทร ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เว็บไซต์ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
- LH Bank ทุกสาขา
- LH Bank Call Center โทร. 1327
- Email : callcenter@lhbank.co.th
พักชำระหนี้ 3 เดือน
พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน สำหรับลูกค้าสินเชื่อธุรกิจ SME และสินเชื่อรายย่อยในพื้นที่ควบคุมฯ และนอกพื้นที่ควบคุมฯ ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ
ช่องทางลงทะเบียน
- ลูกค้ารายย่อย : สแกน QR Code ในภาพลงทะเบียน
- ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจ SME : ติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ดูแลบัญชีของท่าน
- ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- LH Bank Call Center โทร. 1327
- เฟซบุ๊ก LH Bank
บัตรเครดิตซิตี้
- ไม่ต้องลงทะเบียน : ปรับลดอัตรายอดขั้นต่ำที่ต้องชำระจากปกติ 10% ของยอดค้างชำระลงเหลือ 5% ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 - 31 ธันวาคม 2564 และเหลือ 8% ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 - 31 ธันวาคม 2565 สำหรับลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ทุกรายโดยอัตโนมัติ
- ต้องลงทะเบียน : เปลี่ยนยอดคงค้างเป็นยอดผ่อนชำระรายเดือน ด้วยอัตราดอกเบี้ย 12% ต่อปี
บัญชีซิตี้ เรดดี้เครดิต
- เปลี่ยนยอดคงค้างเป็นยอดผ่อนชำระรายเดือน ด้วยอัตราดอกเบี้ย 22% ต่อปี
- สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจาก COVID-19 หรือสภาวะเศรษฐกิจ
- เป็นลูกค้าธนาคารที่เปิดบัญชีก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2563
- ไม่มีประวัติค้างชำระเกินกว่า 90 วัน ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563 และในปัจจุบัน
- ลงทะเบียนออนไลน์ที่ citibank.co.th หรือ
- ลงทะเบียนผ่านระบบโทรศัพท์อัตโนมัติ โทร. 1588 กด 6
- ลงทะเบียนภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564
- เว็บไซต์ ซิตี้แบงก์
- โทร. 02-081-1456 เฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-17.30 น. (ยกเว้นวันหยุดธนาคาร)
บัญชีสินเชื่อบุคคลซิตี้
- ปรับลดค่างวดลงอย่างน้อย 30% จากค่างวดปัจจุบัน พร้อมปรับลดอัตราดอกเบี้ย (รับข้อเสนอได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 เท่านั้น)
- ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือไม่เกิน 22% ต่อปี รวมถึงพิจารณายืดระยะเวลาการผ่อนชําระ
- สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจาก COVID-19 หรือสภาวะเศรษฐกิจ
- เป็นลูกค้าธนาคารที่เปิดบัญชีก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2563
- ไม่มีประวัติค้างชำระเกินกว่า 90 วัน ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563 และในปัจจุบัน
- ลงทะเบียนออนไลน์ที่ citibank.co.th หรือ
- ลงทะเบียนผ่านระบบโทรศัพท์อัตโนมัติ โทร. 02-232-4224 กด 6
- กรณีปรับลดค่างวดลงอย่างน้อย 30% จากค่างวดปัจจุบัน ลงทะเบียนภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2564
- กรณีปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง เหลือไม่เกิน 22% ต่อปี รวมถึงพิจารณายืดระยะเวลาการผ่อนชําระ ลงทะเบียนภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564
- เว็บไซต์ ซิตี้แบงก์
- โทร. 02-081-1556 เฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-17.30 น. (ยกเว้นวันหยุดธนาคาร)
มาตรการช่วยเหลืออื่น ๆ
- ผ่อนผันยกเว้นดอกเบี้ย และคำติดตามทวงถามหนี้จากหนี้ที่ค้างชำระ
- ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ และลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำในกรณีปิดบัญชีเดิม
- พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 2 เดือน สำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการตามมาตรการของทางการ
ช่องทางลงทะเบียนพักชำระหนี้ 2 เดือน สำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากการปิดสถานประกอบการ
-
สำหรับลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ และบัญชีซิตี้ เรดดี้เครดิต
-
ลงทะเบียนออนไลน์ผ่านทาง citibank.co.th
-
หรือ ลงทะเบียนผ่านระบบโทรศัพท์อัตโนมัติ โทร. 1588 กด 6
-
- สำหรับลูกค้าสินเชื่อบุคคลซิตี้
- ลงทะเบียนออนไลน์ผ่านทาง citibank.co.th
- หรือ ลงทะเบียนผ่านระบบโทรศัพท์อัตโนมัติ โทร. 0-2232-4224 กด 6
- ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
สินเชื่อบัตรเครดิต
มาตรการที่ไม่ต้องลงทะเบียน
- ปรับลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำจากเดิม 10% เป็นดังนี้
- ปี 2563-2564 ชำระขั้นต่ำ 5%
- ปี 2565 ชำระขั้นต่ำ 8%
- ปี 2566 ชำระขั้นต่ำ 10% ตามเดิม
ธนาคารปรับอัตโนมัติโดยลูกค้าไม่ต้องติดต่อธนาคาร โดยมีผลตั้งแต่รอบบัญชีเมษายน 2563 เป็นต้นไป
มาตรการที่ต้องลงทะเบียน
- ให้ส่วนลดดอกเบี้ย 35% จากรายการชําระสินค้า/บริการ โดยธนาคารจะพิจารณาเป็นรายบุคคล
สินเชื่อบ้าน
- ปรับลดค่างวด
- พักชำระเงินต้นและพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย
- พักชำระค่างวดทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ
- สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากภาวะเศรษฐกิจและวิกฤตการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19)
ช่องทางลงทะเบียน
- สอบถามรายละเอียดและลงทะเบียนได้ที่ Call Center โทร. 02-679-5566 วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-17.00 น. (ยกเว้นวันหยุดธนาคาร)
- ลงทะเบียนภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
มาตรการที่ 1 ลดอัตราชำระคืนขั้นต่ำ (ไม่ต้องลงทะเบียน)
บัตรเครดิตอิออน
ลดอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำ (เดิม 10%) ดังนี้
- 5% ต่อรอบบัญชี ในรอบบัญชีที่ครบกำหนดชำระวันที่ 2 พฤษภาคม 2563 ถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2564
- 8% ต่อรอบบัญชี ในรอบบัญชีที่ครบกำหนดชำระวันที่ 2 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2565
- 10% ต่อรอบบัญชี ในรอบบัญชีที่ครบกำหนดชำระวันที่ 2 มกราคม 2566 เป็นต้นไป
1. ยกเว้นบัตรเครดิต AEON CORPORATE CARD ทุกประเภท
2. ยกเว้นรายการผ่อนชำระสินค้าและ/หรือบริการรายเดือน (AEON Happy Plan)
3. ลูกค้าที่ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 90 วัน หรือ 3 เดือน นับแต่วันครบกำหนดชำระวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 จะไม่ได้รับสิทธิ์ตามมาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อนี้
บัตรสมาชิกอิออน (สินเชื่อยัวร์แคช)
ลดอัตราชำระคืนขั้นต่ำ (เดิม 3%) เป็นดังนี้
- 1% แต่ไม่น้อยกว่า 300 บาท* ต่อรอบบัญชี ในรอบบัญชีที่ครบกำหนดชำระวันที่ 2 พฤษภาคม 2563 - 2 ธันวาคม 2564
1. ยกเว้นรายการผ่อนชำระสินค้าและ/หรือบริการรายเดือนของบัตร (AEON Happy Pay)
2. ยอดชำระขั้นต่ำต้องไม่ต่ำกว่าดอกเบี้ยที่เรียกเก็บในรอบบัญชีนั้น
3. ลูกค้าที่ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 90 วัน หรือ 3 เดือน นับแต่วันครบกำหนดชำระวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 จะไม่ได้รับสิทธิ์ตามมาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อนี้
มาตรการที่ 2 พักชำระหนี้หรือลดค่างวด (ต้องลงทะเบียน)
สินเชื่อทุกประเภท
- พักชำระหนี้สินเชื่อทุกประเภท ยกเว้น สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์/รถจักรยานยนต์ พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาตั้งแต่ 3 เดือน แต่สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ถึง 31 สิงหาคม 2564
- หรือ ลดค่างวดเช่าซื้อรายเดือนสำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์/รถจักรยานยนต์ ลดค่างวดเช่าซื้อรายเดือน 30-50% เป็นระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึง 31 ธันวาคม 2564
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ
- สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งส่งผลให้รายได้ลดลง
- ลูกค้าที่ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 90 วัน หรือ 3 เดือน นับแต่วันครบกำหนดชำระ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 จะไม่ได้รับสิทธิ์ตามมาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อนี้
- หมายเหตุ : การขอพักชำระหนี้ หมายความว่าลูกค้าสามารถหยุดการชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยตามระยะเวลาที่พักชำระหนี้ แต่ทั้งนี้บริษัทมีการคิดดอกเบี้ยในระหว่างที่หยุดพักชำระ
ช่องทางลงทะเบียน
- ลงทะเบียนผ่าน aeon.co.th บริษัทจะพิจารณาอนุมัติเป็นรายกรณี
- ดาวน์โหลดบันทึกข้อตกลงต่อท้ายสัญญาเช่าซื้อ
มาตรการที่ 3 เปลี่ยนประเภทสินเชื่อเป็นสินเชื่อระยะยาว อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 12% (ต้องลงทะเบียน)
สินเชื่อบัตรเครดิตและบัตรสมาชิกอิออน (สินเชื่อยัวร์แคช)
ลูกค้าที่เป็นผู้ถือบัตรเครดิตและบัตรสมาชิกอิออน (สินเชื่อยัวร์แคช) สามารถขอเปลี่ยนประเภทสินเชื่อเป็นสินเชื่อระยะยาว อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 12% ต่อปี โดยสัญญาจัดทำตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป ระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน อัตราชำระคืนขั้นต่ำ 2.7% ต่อเดือน
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ
- สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งส่งผลทำให้รายได้ลดลง
- ลูกค้าที่ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 90 วัน หรือ 3 เดือน นับแต่วันครบกำหนดชำระ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 จะไม่ได้รับสิทธิ์ตามมาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อนี้
ช่องทางลงทะเบียน
- ลงทะเบียนที่ aeon.co.th ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ถึง 31 ธันวาคม 2564 บริษัทจะพิจารณาอนุมัติเป็นรายกรณี
หมายเหตุ : ลูกค้าต้องขอโอนหนี้เดิมไปเป็นสินเชื่อระยะยาวใหม่ โดยบริษัทจะระงับการใช้งานบัตรเครดิตและ/หรือบัตรสมาชิกอิออนเป็นการชั่วคราว ภายหลังลูกค้าชำระหนี้ปิดบัญชีสินเชื่อระยะยาวครบถ้วนแล้ว ลูกค้าจะสามารถใช้งานบัตรเครดิตและ/หรือบัตรสมาชิกอิออนได้ดังเดิม ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประวัติการชำระเงินของลูกค้า
- เว็บไซต์ aeon.co.th
- โทร. 02-665-0123
บัตรเครดิต KTC
- ไม่ต้องลงทะเบียน : ปรับลดอัตราผ่อนชำระขั้นตํ่าของบัตรเครดิต KTC จาก 10% เป็น 5% ให้สมาชิกบัตรอัตโนมัติ โดยไม่ต้องแจ้งความประสงค์ ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 - 31 ธันวาคม 2564
- ต้องลงทะเบียน : เปลี่ยนประเภทหนี้บัตรเครดิตเป็นหนี้เงินกู้สินเชื่อส่วนบุคคลระยะยาว ดอกเบี้ย 12% ต่อปี นาน 48 เดือน
บัตรกดเงินสด KTC PROUD
- ผ่อนผันการชำระหนี้บัตรกดเงินสดเป็นหนี้เงินกู้สินเชื่อส่วนบุคคลระยะยาว ดอกเบี้ย 22% ต่อปี นาน 48 เดือน
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ
- สงวนสิทธิ์เฉพาะสมาชิกที่มีสถานภาพบัญชีเป็นปกติ และไม่มีประวัติการผิดนัดชำระหนี้เกิน 90 วัน ณ วันที่บันทึกรายการเงินกู้
- เฉพาะสมาชิกที่ได้รับการอนุมัติบัตรเครดิต KTC/บัตรกดเงินสด KTC PROUD ก่อนวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 เท่านั้น
- ขอสงวนสิทธิ์ลูกค้าบัตรเครดิตประเภทใช้เงินฝากเป็นหลักประกันวงเงินบัตรเครดิต ไม่สามารถเข้าร่วมรายการได้
- สงวนสิทธิ์ในการพิจารณาช่วยเหลือเฉพาะสมาชิกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด COVID-19 โดยตรง รวมทั้งขอข้อมูลหรือเอกสารประกอบการพิจารณา ตามหลักเกณฑ์ที่เคทีซีกำหนด
- บัตรเครดิต และบัตรกดเงินสดทุกใบ จะถูกระงับการใช้ไว้ชั่วคราว จนกว่าจะชำระหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลระยะยาวเสร็จสิ้นครบถ้วน รวมถึงไม่สามารถใช้บริการหักค่าใช้จ่ายรายเดือนอัตโนมัติ (KTC AUTO PAYMENT) ได้ตั้งแต่วันที่บันทึกรายการเงินกู้
ช่องทางลงทะเบียน
- ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการที่ ktc.co.th หรือ
- จุดบริการ KTC TOUCH สาขาในกรุงเทพฯ ภายในวันและเวลาทำการ (ดูรายละเอียดการเปิดให้บริการของ KTC TOUCH)
- ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน - 31 ธันวาคม 2564
สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH และสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม
- ลดค่างวด 30% และอัตราดอกเบี้ย ไม่เกิน 22% ต่อปี เป็นเวลา 6 รอบบัญชีหรืองวด
- สำหรับค่างวดตั้งแต่งวดที่ 7 เป็นต้นไป สมาชิกจะถูกปรับเพิ่มค่างวด ในอัตราดอกเบี้ยตามเงื่อนไขของข้อตกลงสินเชื่อเดิม
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ
- สงวนสิทธิ์เฉพาะสมาชิกที่มีสถานภาพบัญชีปกติ และไม่มียอดค้างชำระ ณ วันที่ทำข้อตกลงเท่านั้น
- เฉพาะสมาชิกที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อส่วนบุคคล KTC CASH และสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม ก่อนวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 เท่านั้น
- สมาชิกสินเชื่อเพื่อการศึกษา ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้
- พิจารณาช่วยเหลือเฉพาะสมาชิกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด COVID-19 โดยตรง รวมทั้งขอข้อมูลหรือเอกสารประกอบการพิจารณา ตามหลักเกณฑ์ที่เคทีซีกำหนด
ช่องทางลงทะเบียน
- ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการที่ www.ktc.co.th/decrease-installment
- จุดบริการ KTC TOUCH สาขาในกรุงเทพฯ ภายในวันและเวลาทำการ
- ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน - 31 ธันวาคม 2564
พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 2 รอบบัญชีหรืองวด
สำหรับสมาชิกเคทีซีทุกผลิตภัณฑ์ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ซึ่งอาศัยหรือทำงานในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือนอกเขตพื้นที่ควบคุมฯ ที่ต้องปิดกิจการตามประกาศของ ศบค.
ใครมีสิทธิ์
-
สงวนสิทธิ์เฉพาะสมาชิกที่มีสถานภาพบัญชีเป็นปกติ และไม่มีประวัติผิดนัดชำระหนี้ ณ วันที่ทำคำขอรับการช่วยเหลือพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย เท่านั้น
-
เฉพาะสมาชิกทุกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการอนุมัติก่อนวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 เท่านั้น
-
สมาชิกที่อาศัยหรือทำงานในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือนอกเขตพื้นที่ควบคุมฯ ที่ต้องปิดกิจการตามประกาศของ ศบค.
-
สมาชิกต้องแสดงหลักฐานข้อมูลหรือเอกสารการได้รับผลกระทบเพื่อประกอบการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่เคทีซีกำหนด
ช่องทางลงทะเบียน
- ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เว็บไซต์ KTC
- Call Center โทร. 02-123-5000
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เว็บไซต์ ktc.co.th
- โทร. 02-123-5000
มาตรการช่วยเหลือ
- ลดจำนวนค่างวดในการชำระ (วิธีการชำระแบบที่กำหนดให้จำนวนชำระอยู่ที่ 3% ของยอดคงเหลือ)
- หรือ ลดอัตราดอกเบี้ย เหลือ 22%
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ
- ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563 ลูกค้ายังมียอดคงเหลือและมีจำนวนวันค้างชำระไม่เกิน 90 วัน นับแต่วันครบกำหนดชำระ
- เป็นลูกค้าที่ยื่นเรื่องขอรับความช่วยเหลือในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน 2563 และทางบริษัทได้ดำเนินการช่วยเหลือ
ช่องทางลงทะเบียน
- สอบถามที่เบอร์ 02-036-9404 ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2564
- ณ ปัจจุบัน ระยะเวลาช่วยเหลือสำหรับลูกค้าที่ได้รับการช่วยเหลืออยู่แล้ว และลูกค้าที่กำลังจะยื่นเรื่องขอรับการช่วยเหลือคือ ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เว็บไซต์ promise.co.th
- Call Center โทร. 1751
- ทางเลือกที่ 1 พักชำระหนี้ : เลื่อนการชำระค่างวดสูงสุดไม่เกิน 3 งวด โดยมีค่าดำเนินการที่แสดงอยู่บนแอปฯ TLT Simply
- ทางเลือกที่ 2 ปรับโครงสร้างหนี้ : ค่างวดที่ลดลงขึ้นอยู่กับจำนวนงวดที่ได้ขยายซึ่งคำนวณจากอัตราดอกเบี้ยเดิม
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ
- สำหรับลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อมาตรฐาน ที่ผ่อนมาแล้ว 1 งวดขึ้นไป และค้างชำระไม่เกิน 60 วัน (2 งวด) ณ วันที่ลงทะเบียน
- ไม่รวมกลุ่มลูกค้าประเภทโปรแกรมสินเชื่อเช่าซื้อสมปอง สินเชื่อเช่าซื้อรายใหญ่ สินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกฮีโน่ สินเชื่อรถเช่าระยะยาวสำหรับลูกค้าองค์กร, นิติบุคคล (FL, OL, FSL) และบริการเช่ารถระยะยาว KINTO)
- การปรับโครงสร้างหนี้จะขยายงวดการชำระตลอดอายุสัญญาเช่าซื้อรวมได้สูงสุดไม่เกิน 120 เดือน (บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาอนุมัติตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด)
ช่องทางลงทะเบียน
- ลงทะเบียนผ่านทางแอปพลิเคชัน TLT Simply คลิก
- ตั้งแต่ 15 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เว็บไซต์โตโยต้า ลีสซิ่ง
- โทร. 02-660-5555
- ทางเลือกที่ 1 : ลดค่างวดโดยขยายเวลาชำระหนี้ (ปรับปรุงโครงสร้างหนี้)
- ทางเลือกที่ 2 : พักชำระค่างวด สูงสุด 3 เดือน
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ
- มาตรการนี้เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 แต่ไม่รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่ได้ทำการปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับบริษัทไปแล้ว
- สำหรับลูกค้าที่ผ่อนมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน และค้างชำระไม่เกิน 60 วัน ณ วันที่ลงทะเบียน และยังไม่เคยทำการปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับบริษัทมาก่อน
ช่องทางลงทะเบียน
- ลงทะเบียนผ่าน เว็บไซต์ฮอนด้า ลีสซิ่ง
- ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เว็บไซต์ฮอนด้า ลีสซิ่ง
- โทร. 02-736-4288
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ
- สำหรับสถานประกอบการที่ต้องปิดกิจการในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
- หรือมีอาชีพที่ได้รับผลกระทบตามประกาศของรัฐบาล
ช่องทางลงทะเบียน
- ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ เมืองไทย แคปปิตอล หรือ
- ติดต่อสาขาใกล้บ้าน
- ตั้งแต่ 19 กรกฎาคม - 31 สิงหาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เมืองไทย แคปปิตอล
- โทร. 02-483-8888
พักชำระหนี้เป็นระยะเวลา 2 เดือน สำหรับลูกค้าสินเชื่อทะเบียนรถ และสินเชื่อเช่าซื้อ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19 จากการปิดกิจการตามมาตรการของทางการ
ช่องทางลงทะเบียน
-
แจ้งความประสงค์ผ่านคอลเซ็นเตอร์ โทร. 088-088-0880
- ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
ช่องทางลงทะเบียน
-
ลงทะเบียนที่เว็บไซต์เงินเทอร์โบ
- ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เว็บไซต์เงินเทอร์โบ
- สำนักงานใหญ่ โทร. 02-026-1930
พักชำระหนี้เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่งวดการชำระหนี้เดือนกรกฎาคม 2564 หรืองวดการชำระหนี้เดือนสิงหาคม 2564 เป็นต้นไป แล้วแต่กรณี
เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ
-
เป็นลูกค้าปัจจุบันของธนาคารที่มีประวัติการชำระหนี้เป็นปกติและ/หรือหนี้ค้างชำระไม่เกิน 90 วัน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ปัจจุบันได้รับผลกระทบจากมาตรการทางการ เช่น ปิดกิจการ หรือถูกจำกัดเวลาเปิดปิดกิจการ หรือเปิดกิจการแต่รายได้ลดลง หรือมีข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจจากมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐ
-
สินเชื่อที่ให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ ไม่รวมสินเชื่อแฟคตอริ่ง สินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่อเพื่อการนำเข้า และสินเชื่อเพื่อการส่งออก และสินเชื่อที่ธนาคารเป็นหน่วยงานร่วมดำเนินการ เช่น สินเชื่อของกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ เป็นต้น
ช่องทางลงทะเบียน
-
หรือสาขาของ SME D Bank ในพื้นที่ตั้งกิจการ
- ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม 2564
ข้อมูลเพิ่มเติม
- ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
- Call Center โทร. 1357
มาตรการลดค่างวด สำหรับลูกหนี้ประนอมหนี้กับ บสย. แล้ว
ข้อมูลเพิ่มเติม
พักชำระหนี้ สำหรับลูกหนี้ประนอมหนี้กับ บสย. ที่ค้างชำระไม่เกิน 3 งวด (ณ วันที่อนุมัติ) เฉพาะลูกหนี้กลุ่มประเภทธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจภาคท่องเที่ยว และโรงแรม
- เว็บไซต์ บสย.
- โทร. 02-890-9999
นอกจากนี้ยังมีโครงการช่วยเหลือจากรัฐ ทั้งคนละครึ่ง เฟส 3, โครงการ เราชนะ และ ม.33 เรารักกัน ที่เพิ่มเงินเยียวยาให้อีก 2,000 บาท รวมทั้งความช่วยเหลือจากประกันสังคมที่ให้ลูกจ้าง-นายจ้างในพื้นที่สีแดงที่ถูกสั่งปิดกิจการชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอีกด้วย
* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 4 สิงหาคม 2564
ขอบคุณข้อมูลจาก
ธนาคารแห่งประเทศไทย