x close

อนุทิน แจง 5 แนวทางการใช้เงินกู้ 4.5 หมื่นล้าน งบลงส่วนไหนบ้างมาดู

          อนุทิน แจง 5 แนวทางการใช้เงินกู้ 4.5 หมื่นล้าน ใช้จัดการเรื่องโควิด 19 ชี้ จะใช้เงินให้คุ้มค่าที่สุดและปลอดภัยที่สุด


ภาพจาก สำนักข่าว INN

          วันที่ 3 มิถุนายน 2563 สำนักข่าว INN รายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า คณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองแผนงาน และโครงการที่มีวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ และสาธารณสุข แก้ปัญหาการระบาดของของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ซึ่งมีปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ได้พิจารณากำหนดกรอบวงเงินการใช้งบประมาณตามแนวทางที่กำหนดไว้ในพระราชกำหนดแล้ว ซึ่งมีกรอบการใช้เงิน 5 กลุ่ม ดังนี้

          1. เพิ่มค่าตอบแทน อสม. คนละ 500 บาท จำนวน 1,050,000 คน เป็นเวลา 19 เดือน วงเงิน 10,000 ล้านบาท

          2. ค่าใช้จ่ายการตรวจ รักษา ผู้ติดเชื้อ และผู้ป่วยโควิด โดย สปสช. (สิทธิบัตรทอง) วงเงิน 10,000 ล้านบาท ตามสิทธิที่มีการประกาศไปแล้ว ให้สิทธิคนไทยทุกคน ตรวจรักษาโควิด 19 ฟรี ในจำนวนนี้ จะต้องเตรียมไว้รองรับประชาชน ซึ่งถูกเลิกจ้าง เป็นผู้ว่างงาน ซึ่งจะมีการเปลี่ยนสิทธิประกันสังคมมาใช้สิทธิบัตรทอง เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1,000,000 คน ด้วย

          3. ค่าใช้จ่ายที่ต้องสำรองไว้กรณีเกิดเหตุระบาดในช่วง 16 เดือน จัดหาวัคซีน ยา เวชภัณฑ์ และเบี้ยเลี้ยงสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ค่าใช้จ่ายในการกักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศไทย หรือค่าที่พัก State Quarantine และการพัฒนาระบบไอที บริการประชาชน และผู้ป่วยที่จะใช้บริการของสถานพยาบาล ด้วยความปลอดภัย และลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อและติดเชื้อ วงเงิน 10,000 ล้านบาท

          4. ค่าใช้จ่ายในการพัฒนา และเพิ่มประสิทธิภาพของโรงพยาบาลทุกระดับ วงเงิน 10,000 ล้านบาท

          5. ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาความสามารถทางการแพทย์ และระบบสาธารณสุข ที่อยู่นอกกระทรวงสาธารณสุข วงเงิน 5,000 ล้านบาท


          นายอนุทิน กล่าวว่า การกำหนดกรอบวงเงินทั้ง 5 ข้อดังกล่าวนี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการป้องกัน และควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) โดยยึดแนวทางที่กำหนดไว้ในพระราชกำหนด โดยมีเป้าหมายให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน และทำให้ประชาชนปลอดภัยได้มากที่สุด ซึ่งเงิน 45,000 ล้านบาท ที่สภาพัฒน์กำหนดให้ใช้ในการพัฒนาระบบสาธารณสุข เป็นเงินที่ไม่มาก เมื่อนำมาจัดกรอบวงเงินตามภารกิจและเทียบกับภารกิจที่ต้องรับผิดชอบ ดูแล ป้องกันควบคุมโรคทุกพื้นที่ และบริการประชาชนทั้งประเทศ จนถึงเดือนกันยายน 2564 เพราะจะต้องมีการเตรียมความพร้อมทั้งโรงพยาบาล เครื่องมือแพทย์ ยา เวชภัณฑ์ ไม่ให้เกิดการขาดแคลน เช่น ในช่วงเวลาที่ผ่านมา หากมีการระบาดขึ้นมาอีก หลังจากที่มีการเปิดให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ

          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวอีกว่า แนวคิดของกระทรวงสาธารณสุข เครือข่ายการแพทย์ และระบบสาธารณสุข มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า การใช้งบประมาณจำนวนนี้จะได้ผลคุ้มค่า ทั้งนี้ เท่าที่ทราบจากคณะกรรมการพิจารณาโครงการ หน่วยบริการต่าง ๆ ทั้งในกระทรวงสาธารณสุข และนอกกระทรวงสาธารณสุข เสนอโครงการขึ้นมาจำนวนมาก และเกินวงเงิน 45,000 ล้านบาท ค่อนข้างมาก ซึ่งทุกโครงการมีความเกี่ยวข้องกับการป้องกัน ควบคุม ตรวจ รักษาผู้ป่วยโควิด 19 สร้างความหนักใจให้คณะกรรมการที่ต้องปรับลดวงเงิน หรือตัดโครงการบางโครงการออกไป หรือตัดเครื่องมือแพทย์บางรายการออกไป เพราะโครงการเหล่านั้นมีเป้าหมายเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วย และสร้างสุขภาพคนไทยให้แข็งแรง ปลอดจากโควิด 19 ดังนั้น หากมีความจำเป็นจะไปปรึกษานายกรัฐมนตรี เพื่อขอแนวทางในการเพิ่มสัดส่วนงบประมาณในส่วนของการแพทย์และการสาธารณสุข ซึ่งในการอภิปรายของ ส.ส. ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน ก็เห็นด้วยว่าควรจะเพิ่มงบประมาณในส่วนของการแพทย์และการสาธารณสุขมากขึ้น

          อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถเพิ่มได้ใน พ.ร.ก.เงินกู้ ก็ขอให้ ส.ส. และ ส.ว. ทุกท่าน ช่วยกันสนับสนุนภารกิจด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณ และ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2564 ด้วย ถ้าให้เพิ่มไม่ได้ ก็ขอเพียงว่าอย่าตัด เพราะทุกบาทที่ใช้จ่ายในภารกิจการแพทย์และการสาธารณสุข มีวัตถุประสงค์เพื่อความปลอดภัย เพื่อรักษาชีวิตของประชาชนจริง ๆ


ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าว INN





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อนุทิน แจง 5 แนวทางการใช้เงินกู้ 4.5 หมื่นล้าน งบลงส่วนไหนบ้างมาดู อัปเดตล่าสุด 4 มิถุนายน 2563 เวลา 10:28:32 3,600 อ่าน
TOP