นอกจากจะได้รับเงิน 1,000 บาทแล้ว รัฐบาลยังเพิ่มสิทธิ์แคชแบ็ก หรือคืนเงินให้สูงสุด 20% สำหรับผู้ลงทะเบียนชิมช้อปใช้ที่เติมเงินและใช้จ่ายผ่านแอปฯ เป๋าตัง ช่อง 2 แต่หลายคนอาจสงสัยอยู่ว่า จะเติมเงินเข้ากระเป๋าช่อง 2 อย่างไร หรือนำไปสแกนยังไง และที่สำคัญก็คือ สามารถใช้ซื้อสินค้าได้ทุกร้านเลยไหม ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า สมาร์ตโฟน ซื้อทอง จะได้เงินคืน 15-20% ด้วยหรือเปล่า
กระปุกดอทคอม รวบรวมข้อมูลและคำถามเกี่ยวกับการใช้เป๋าตังช่อง 2 มาอธิบายให้เข้าใจกันแล้วตรงนี้ (อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 12 พฤศจิกายน 2562)
ผู้ที่สามารถใช้สิทธิ์เป๋าตังช่อง 2 ได้นั้น ต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนชิมช้อปใช้สำเร็จ โดย..
- กรณีลงทะเบียนเฟส 3 สำเร็จ สามารถใช้สิทธิ์เป๋าตัวช่อง 2 ได้เลย
- กรณีลงทะเบียนเฟส 1 หรือ เฟส 2 ไปแล้ว จะมีสิทธิ์ใช้เป๋าตังช่อง 2 ก็ต่อเมื่อต้องใช้เงินเป๋าตังช่อง 1 หรือช่อง 2 ครั้งแรกภายใน 14 วัน หลังได้รับ SMS และไม่ถูกตัดสิทธิ์
- กรณีลงทะเบียนเฟส 1 หรือ เฟส 2 สำเร็จ แต่สแกนหน้าไม่ผ่าน ยืนยันตัวตนไม่ได้ หรือไม่ได้ใช้เงินในเป๋าตังช่อง 1 หรือเป๋าตังช่อง 2 ภายใน 14 วัน จะถูกตัดสิทธิ์ ไม่สามารถใช้เป๋าตังช่อง 2 เพื่อรับสิทธิ์แคชแบ็กได้อีก
สามารถรับเงินคืนได้ 15-20% ตามจำนวนเงินที่ใช้จ่ายตามขั้นบันได ดังนี้
- ยอดใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท ได้คืน 15% (สูงสุด 4,500 บาท)
- ยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 30,001-50,000 บาท ได้คืน 20% (สูงสุด 4,000 บาท)
รวมกันได้เงินคืนสูงสุด 8,500 บาท
เท่ากับว่า ถ้าเราเติมเงินใน G-Wallet กระเป๋าช่อง 2 แล้วใช้จ่ายไป 100 บาท ก็จะได้เงินคืน 15 บาท
ต้องใช้เฉพาะจังหวัดที่ลงทะเบียนหรือเปล่า ?
ล่าสุดรัฐบาลปรับเงื่อนไขใหม่ ให้เราใช้สิทธิ์แคชแบ็ก 15-20% จากเป๋าตังช่อง 2 ได้ทุกจังหวัด รวมทั้งจังหวัดที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน โดยใช้สิทธิ์ได้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2563
ได้แคชแบ็กไหม ?
ต้องบอกก่อนว่า เราสามารถใช้กระเป๋าช่อง 2 จ่ายค่าสินค้าและบริการได้ทุกร้านที่เข้าร่วมโครงการชิมช้อปใช้ แต่มีเฉพาะบางร้านเท่านั้นที่เข้าร่วมโครงการแคชแบ็ก
โดยร้านเหล่านี้ ไม่สามารถใช้สิทธิ์แคชแบ็กได้
- ซูเปอร์มาร์เกตขนาดใหญ่ / ห้างสรรพสินค้า
- ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ
- คลินิกทันตกรรม / คลินิกเสริมความงาม / คลินิกรักษาสัตว์
- ร้านขายยา
- ร้านหนังสือ
- ร้านทอง ร้านเครื่องประดับ
- ร้านเสริมสวย ร้านทำเล็บ ร้านเครื่องสำอาง
- ร้านขายสินค้าแฟชั่น เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ
- ร้านแว่นตา ร้านนาฬิกา
- ร้านถ่ายรูป
- ร้านซ่อมรถ เปลี่ยนยางรถยนต์
ฯลฯ
ยกเว้นร้านดังกล่าวเป็นร้านวิสาหกิจชุมชน ทั้งนี้ ก็เพราะจุดประสงค์ของโครงการชิมช้อปใช้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนและการท่องเที่ยวเป็นหลัก ดังนั้นจึงมีเพียงบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและร้านค้าชุมชนเท่านั้น ที่สามารถใช้จ่ายเพื่อรับแคชแบ็กคืนได้
- ร้านเครื่องดื่ม ร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ ร้านอาหาร
- ที่พัก โรงแรม รีสอร์ต
- ร้านค้าธงฟ้า เช่น ร้านโชห่วย ร้านสะดวกซื้อในชุมชน ร้านมินิมาร์ทขนาดเล็ก ซูเปอร์มาร์เกต (บางร้าน)
- ร้านวิสาหกิจชุมชน
- ร้านสินค้าโอทอป สินค้าหัตถกรรม
- ร้านสปา
- ทัวร์ บริการที่เกี่ยวข้องกับการนำเที่ยว รถเช่า
- แพ็กเกจท่องเที่ยว ที่รวมค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าตั๋วเครื่องบินในประเทศ และภาคบริการที่เกี่ยวเนื่องเข้าไว้ด้วยกัน โดยค่าบริการต่าง ๆ ต้องรวมเป็นแพ็กเกจทัวร์ ไม่สามารถแยกซื้อได้
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกร้านที่กล่าวมาจะเข้าร่วมกระเป๋าช่อง 2 แนะนำให้ตรวจสอบรายชื่อร้านค้าที่ร่วมรายการได้ที่ ชิมช้อปใช้.com แล้วสังเกตสัญลักษณ์ "สิทธิรับเงินคืน 15-20%" หรือสอบถามจากร้านค้าอีกครั้ง
ชิมช้อปใช้ ซื้อของซูเปอร์มาร์เกตไหน ได้ Cash Back คืนเงิน 15-20% บ้าง ?
เราต้องนำเงินจากบัญชีธนาคารของเรา เติมเข้าเป๋าตังช่อง 2 จากนั้นนำเงินในเป๋าตังช่อง 2 ไปสแกนซื้อของ หรือใช้บริการในร้านค้าที่ร่วมโครงการชิมช้อปใช้
- หากร้านค้าไม่เข้าร่วมแคชแบ็ก เราสามารถใช้เป๋าตังช่อง 2 จ่ายเงินได้ แต่จะไม่ได้รับแคชแบ็กคืน
- หากร้านค้าเข้าร่วมสิทธิ์แคชแบ็ก เราสามารถใช้เป๋าตังช่อง 2 จ่ายเงินได้ และได้รับแคชแบ็กคืนในเดือนถัดไป
วิธีที่ 1 เติมเงินด้วย QR รับเงิน
วิธีที่ 2 เติมเงินด้วยเลข G-Wallet (พร้อมเพย์) 15 หลัก
ถึงจะได้รับแคชแบ็ก ?
ไม่จำเป็นต้องเติม 30,000 บาท เราสามารถเติมเงินเข้ากระเป๋าช่อง 2 เท่าไรก็ได้ แล้วใช้เท่าไรก็ได้ สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท ก็จะได้รับเงินคืนตามจำนวนเงินที่เราจ่ายไปกับร้านค้าที่มีสิทธิ์แคชแบ็ก เช่น
- เติมเงิน 100 บาท ใช้จ่ายไป 100 บาท จะได้คืน 15% หรือ 15 บาท
- เติมเงิน 1,000 บาท ใช้จ่ายไป 200 บาท จะได้คืน 15% หรือ 30 บาท
- เติมเงิน 10,000 บาท ใช้จ่ายไป 10,000 บาท จะได้คืน 15% หรือ 1,500 บาท
- เติมเงิน 30,000 บาท ใช้จ่ายไป 500 บาท จะได้คืน 15% หรือ 75 บาท
- เติมเงิน 50,000 บาท ใช้จ่ายไป 2,000 บาท จะได้คืน 15% หรือ 300 บาท
- เติมเงิน 50,000 บาท ใช้จ่ายไป 40,000 บาท เงิน 30,000 บาทแรกได้คืน 15% หรือ 4,500 บาท ส่วนเงิน 10,000 บาทที่เหลือ จะได้คืน 20% หรือ 2,000 บาท รวมได้รับเงินคืน 6,500 บาท
1. เปิดแอปฯ เป๋าตัง เมื่อต้องการชำระค่าสินค้าจากร้านถุงเงิน เลือก "ใช้สิทธิ์รับเงินคืน 15-20%"
4. หากร้านค้านั้นร่วมมาตรการ Cash Back จะปรากฏกล่องสีเขียวระบุว่า "ร้านค้านี้เข้าร่วมมาตรการรับเงินคืน" จากนั้นกด "ยืนยันการชำระเงิน"
5. ยืนยันการทำรายการด้วย PIN 6 หลัก
6. ระบบแสดง "ทำรายการสำเร็จ" หรือตรวจสอบได้ที่เมนู "รายการย้อนหลัง"
เมื่อใช้จ่ายแล้ว แอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" จะแสดงยอดเงินที่ได้รับคืน ภายใน 1-2 วัน แต่จะได้รับเงินคืนเข้ากระเป๋าเงิน G-Wallet จริง ๆ ในเดือนถัดไป โดยตรวจสอบยอดเงินได้ที่แอปฯ เป๋าตัง
- หากใช้จ่ายช่วงวันที่ 27 กันยายน - 30 พฤศจิกายน 2562 จะได้เงินแคชแบ็กคืนประมาณกลางเดือนธันวาคม 2562
- หากใช้จ่ายช่วงเดือนธันวาคม 2562 จะได้เงินแคชแบ็กคืนประมาณกลางเดือนมกราคม 2563
- หากใช้จ่ายช่วงเดือนมกราคม 2563 จะได้เงินแคชแบ็กคืนประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2563
ไปบัญชีอื่นได้ไหม ?
เลือกโอนเงิน
เลือกธนาคารที่ต้องการโอนเงินแล้วกรอกหมายเลขบัญชี
จะถอนออกมาได้ไหม ?
เลือกโอนเงิน
เลือกธนาคารที่ต้องการโอนเงินแล้วกรอกหมายเลขบัญชี