สิทธิประกันสังคมผู้ป่วยโรคไต เบิกได้เท่าไร รักษาอะไรได้บ้าง อยากจะฟอกไต-ปลูกถ่ายไต ประกันสังคม ต้องทำอย่างไร ถึงจะได้รับสิทธิ์
รักษาโรคไต ประกันสังคม ใครมีสิทธิ์บ้าง
ผู้ประกันตนที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการแพทย์ กรณีป่วยเป็นโรคไต จะต้องเข้าเงื่อนไขดังนี้
• เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ส่งเงินสมทบเข้ากองทุนครบ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนเดือนที่เข้ารับการรักษา
• ผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่ส่งเงินสมทบเข้ากองทุนครบ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนเดือนที่เข้ารับการรักษา
• กรณีส่งเงินสมทบเข้ากองทุนครบ 3 เดือนแล้ว แต่ลาออกจากประกันสังคม จะยังขอรับสิทธิ์รักษาได้ภายใน 6 เดือนนับตั้งแต่วันสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน
ผู้ป่วยโรคไต ประกันสังคมช่วยอะไรบ้าง
1. โรคไตวาย (ที่ไม่ใช่ระยะสุดท้าย)
2. โรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย
สามารถขอใช้สิทธิ์เข้ารับการบำบัดทดแทนไต ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยให้ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมอย่างเกือบปกติได้ โดยสิทธิประโยชน์ ประกอบด้วย
- การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ไม่เกิน 1,500 บาทต่อครั้ง และไม่เกิน 4,500 บาทต่อสัปดาห์ (เดือนละ 18,000 บาท)
- จ่ายค่าเตรียมเส้นเลือดสำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมพร้อมอุปกรณ์ เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 20,000 บาทในระยะเวลา 2 ปี หากใน 2 ปีนี้ จำเป็นต้องเตรียมเส้นเลือดหรือแก้ไขเส้นเลือด จ่ายเพิ่มให้อีกไม่เกิน 10,000 บาท
- การล้างช่องท้องด้วยน้ำยาอย่างถาวร ไม่เกิน 20,000 บาทต่อเดือน
- จ่ายค่าวางท่อรับส่งน้ำยาเข้าออกทางช่องท้องพร้อมอุปกรณ์ ไม่เกิน 20,000 บาทในระยะเวลา 2 ปี หากใน 2 ปีนี้จำเป็นต้องวางท่อรับส่งน้ำยาทางช่องท้อง จ่ายเพิ่มให้อีกไม่เกิน 10,000 บาท
- การปลูกถ่ายไต ได้รับสิทธิ์บริการทางการแพทย์ ก่อน ระหว่าง หลังการผ่าตัดปลูกถ่ายไต และรับยากดภูมิคุ้มกันตลอดชีวิต
สำหรับผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพและเป็นโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย
- การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม เท่าที่จ่ายจริงตามความเป็นจำเป็น กรณีรักษาในสถานพยาบาลของรัฐ
- การเตรียมหลอดเลือดหรือสายสวนหลอดเลือดสำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และการให้อิริโธรปัวอิติน เท่าที่จ่ายจริงตามความเป็นจำเป็น กรณีรักษาในสถานพยาบาลของรัฐ
กรณีเข้ารับบริการทางการแพทย์ในสถานพยาบาลเอกชนที่ขึ้นทะเบียนเป็นสถานพยาบาลที่ให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด จะได้รับค่าบริการทางการแพทย์ตามหลักเกณฑ์และอัตราที่กำหนดไว้ท้ายประกาศ
ผู้ที่จะได้รับสิทธิ์บำบัดทดแทนไต ต้องเป็นผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการการแพทย์กำหนด โดยมีผลการพิสูจน์ Serum Bun, Serum Creatinine หรืออัตราการกรองของเสียของไต และขนาดของไต
ส่วนกรณีผู้ประกันตนที่เป็นโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายและได้รับสิทธิ์บำบัดทดแทนไตมาแล้วจากที่อื่น เช่น สิทธิข้าราชการ หรือหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ก็ยังสามารถรับการบำบัดทดแทนไตจากสำนักงานประกันสังคมได้ต่อเนื่อง
หากผู้ประกันตนต้องการรับบำบัดทดแทนไต จะต้องทำการยื่นขอรับการอนุมัติก่อน ได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา โดยเตรียมเอกสารประกอบ ได้แก่
1. แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีบำบัดทดแทนไตและปลูกถ่ายอวัยวะ หรือการดูแลหลังผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะและรับยากดภูมิคุ้มกันกองทุนประกันสังคม (สปส. 2-18)
2. สำเนาเวชระเบียนในส่วนที่เกี่ยวข้อง
3. ผลการตรวจไตตามหลักเกณฑ์
4. หนังสือรับรองจากอายุรแพทย์โรคไต
5. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
ทั้งนี้ หากผู้ประกันตนได้รับสิทธิ์บำบัดทดแทนไตเรียบร้อยแล้ว เมื่อเข้ารับการรักษาพยาบาลจะไม่ต้องสำรองจ่ายก่อน แต่ถ้ามีค่าใช้จ่ายส่วนเกิน ทางผู้ประกันตนจะต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง
สำหรับใครมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้สิทธิ์รักษาโรคไต ประกันสังคม สามารถสอบถามโดยตรงได้ที่ สำนักงานประกันสังคม หรือ สายด่วน 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 19 กันยายน 2562