วันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 พล.ต. ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และนายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้เปิดเผยถึงแนวทางการแก้ปัญหาสลากรวมชุด และขายเกินราคา ซึ่งมาตรการการแก้ไขดำเนินการมาตั้งแต่งวดวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา คือขยายเพดานการพิมพ์สลากเพิ่มจากเดิม 71 ล้านใบ เป็น 80 ล้านใบ รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร จับกุมผู้ค้าอย่างเข้มข้น และลดระยะเวลาการรับสลากให้เหลือ 8-9 วัน เพื่อให้การรวมชุดทำได้ยากขึ้น
อย่างไรก็ตามจะขอเวลาประเมินผลอีก 4 งวด ถ้ายังไม่ดีขึ้น อาจจะเพิ่มมาตรการให้แรงกว่าเดิม ทั้งการเลื่อนวันรับสลากจำหน่ายจากตัวแทนให้เหลือน้อยลงอีกจากเดิม 14 วัน ให้เหลือ 9-11 วัน และอาจจะเพิ่มเพดานพิมพ์สลาก
พล.ต. ฉลองรัฐ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ สำนักงานสลาก จะขอเวลาประเมินผล หากพบว่ามีการขายสลากเกินราคาอีก ก็จะเสนอให้มีการพิจารณาออกสลากรวมชุดขายเอง โดยขณะนี้ศึกษารูปแบบการพิมพ์ และจ่ายรางวัลเสร็จแล้ว เบื้องต้นสลากรวมชุดจะจำหน่ายใบละ 400 บาท หรือเท่ากับสลากชุด 5 ใบ เงินรางวัลได้รับ 5 เท่าจากปกติ โดยรางวัลที่ 1 ได้ 30 ล้านบาท สำหรับรูปแบบสลากชุด จะเป็นแบบใบเดียวแต่มีมูลค่าเท่ากับ 5 ใบ และไม่สามารถนำไปรวมชุดเพิ่มได้อีก เพราะแต่ละชุดจะไม่เหมือนกันเลย โดยสลากจะต้องคัดกรองเลือกผู้ค้าที่มีความซื่อสัตย์ มาจำหน่ายสลากชุดให้
ส่วนกรณีที่มีผู้ค้าได้รับผลกระทบจากการเพิ่มจำนวนสลาก ทำให้มีการจำหน่ายไม่หมดในบางพื้นที่ ขอให้ผู้ค้าทำการซื้อ-จองสลาก ตั้งสติ และประเมินการจำหน่ายให้รอบคอบไม่เช่นนั้นจะขายไม่หมดและต้องขาดทุนในที่สุด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก