x close

สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ไฟเขียว เทงบ 2 แสนล้าน ผุด 5 โครงการใหญ่ คาดเสร็จภายในปีนี้

สมคิด จาตุศรีพิทักษ์

          สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เผย ที่ประชุมร่วม รัฐ-เอกชน ไฟเขียววางเสา 5 โครงการ งบ 2 แสนล้านบาท ทยอยชง คณะรัฐมนตรีพิจารณา คาดเซ็นสัญญาภายในปี 2558 ระบุช่วยเซฟเงินรัฐจากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ พรัอมคุมสัดส่วนหนี้สาธารณะให้อยู่ระดับที่เหมาะสม


          วันที่ 24 กันยายน 2558 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ ได้มีมติเห็นชอบให้มีการลงเสา 5 โครงการลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐภายในปี 58 ภายใต้งบประมาณ 2 แสนล้านบาท ซึ่งหลายโครงการได้มีการศึกษาไว้แล้ว โดยคาดว่าจะทยอยนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งกระบวนการทั้งหมดทั้งการเชิญชวนภาคเอกชน การทำสัญญาก่อสร้างต่าง ๆ จะต้องแล้วเสร็จภายในปี 2558

          โดยทั้ง 5 โครงการ ประกอบด้วย

          1. โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี มูลค่า 56,725 ล้านบาท

          2. โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง มูลค่า 54,768 ล้านบาท

          3. โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย มูลค่า 82,494 ล้านบาท

          4. โครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอย ของ อบจ.นนทบุรี มูลค่า 4,142 ล้านบาท

          5. โครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอย ของเทศบาลนครราชสีมา มูลค่า 2,250 ล้านบาท

 
          นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2558 เกี่ยวกับหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดเพิ่มเติมมูลค่าโครงการลงทุน ที่เห็นชอบให้ขยายวงเงินมูลค่าโครงการที่ให้เอกชนร่วมลงทุนจากเดิม 1,000 ล้านบาท เป็น 5,000 ล้านบาท เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการร่วมลงทุนมากขึ้น

          ส่วนของโครงการลงทุนที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ให้กระทรวงต้นสังกัดมีอำนาจตั้งหลักเกณฑ์การดำเนินการ และโครงการที่มีมูลค่าเกินกว่า 1,000 ล้านบาทแต่ไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ให้คณะกรรมการกลั่นกรอง ซึ่งมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน พิจารณาถึงความเหมาะสมและความสำคัญ สำหรับ โครงการลงทุนตั้งแต่ 5,000 ล้านบาทขึ้นไป ให้ดำเนินการตามกรอบ (PPP) ทันที

          ทั้งนี้ การลงทุนในลักษณะ PPP จะช่วยให้ภาครัฐสามารถประหยัดงบประมาณได้มากขึ้น ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งต่อการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในอนาคต และมองว่าการดำเนินการลักษณะนี้จะช่วยให้รัฐบาลสามารถคุมสัดส่วนหนี้สาธารณะไม่ให้เพิ่มสูงไปกว่าระดับที่เหมาะสม หรือเป็นไปตามกรอบความยั่งยืนทางการคลังที่หนี้สาธารณะควรอยู่ในระดับ 50-60% ซึ่งจะมีการมอบหมายให้กระทรวงการคลังไปเร่งพิจารณาดูแลเรื่องเงินลงทุนในโครงการลงทุนต่าง ๆ ทั้งหมด คาดว่าจะมีการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) เพื่อระดมทุนมาใช้ลงทุนในส่วนที่รัฐต้องรับผิดชอบ ซึ่งจะช่วยบริหารความเสี่ยงเรื่องการก่อหนี้ไปในตัว

          ขณะที่ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังพยายามกำหนดกฎเกณฑ์เพื่อให้โครงการต่าง ๆ เดินหน้าได้เร็วยิ่งขึ้น ที่ประชุมได้สรุปรายชื่อโครงการขนาดใหญ่ ๆ ที่จะสามารถเริ่มได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งแต่ละโครงการก็มีจุดประสงค์ที่ต้องการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนกับภาครัฐมากขึ้น โดยภาครัฐจะเปลี่ยนไปทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุน เพื่อช่วยประหยัดงบประมาณในการลงทุนโครงการต่าง ๆ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ไฟเขียว เทงบ 2 แสนล้าน ผุด 5 โครงการใหญ่ คาดเสร็จภายในปีนี้ อัปเดตล่าสุด 24 กันยายน 2558 เวลา 18:37:43 6,348 อ่าน
TOP