เงินชราภาพประกันสังคมมีสะสมอยู่เท่าไร อยากตรวจสอบยอดเงินต้องทำอย่างไร รู้ไว้หลัง ครม. ไฟเขียวหลักการให้เตรียมเบิกใช้ได้ก่อนอายุ 55 ปี สำหรับผู้ประกันตนประกันสังคม มาตรา 33 และประกันสังคม มาตรา 39 ที่ส่งเงินสมทบครบตามระยะเวลาที่กำหนด จะมีสิทธิได้รับเงินชราภาพประกันสังคม ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เงินบำเหน็จ กับ เงินบำนาญ โดยจะได้รับก็ต่อเมื่อมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และลาออกจากการเป็นผู้ประกันตนประกันสังคม อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีข่าวดีเมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้แก้ไขเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ หนึ่งในนั้นคือ "ขอคืน" โดยให้ผู้ประกันตนสามารถเบิกเงินชราภาพบางส่วนออกมาก่อนอายุ 55 ปีได้ ในกรณีเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ สาธารณภัย หรือเหตุการณ์อื่นใดอันส่งผลกระทบต่อผู้ประกันตน ประเด็นนี้คงทำให้หลายคนอยากตรวจสอบยอดเงินสมทบชราภาพของตัวเองในปัจจุบันว่ามีอยู่เท่าไร งั้นลองมาเช็กกันหน่อย เราสามารถเช็กยอดเงินสะสมได้ 3 วิธี ดังนี้ 1. เข้าเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม sso.go.th 2. คลิก "เข้าสู่ระบบผู้ประกันตน/สมัครสมาชิก" ที่มุมบนขวา 4. เลือก "การคำนวณเงินสงเคราะห์ชราภาพ" จะปรากฏตัวเลขจำนวนเงินสมทบของผู้ประกันตน จำนวนเงินสมทบของนายจ้าง จำนวนเงินสมทบของรัฐ และยอดเงินรวม (รายปี) อีกหนึ่งช่องทางที่เราสามารถเช็กสิทธิประกันสังคมได้ก็คือ แอปพลิเคชัน SSO+ ของสำนักงานประกันสังคม โดยดาวน์โหลดได้ที่นี่ - ดาวน์โหลด SSO+ สำหรับผู้ใช้งานระบบ iOS - ดาวน์โหลด SSO+ สำหรับผู้ใช้งานระบบ Android หลังจากดาวน์โหลดแล้ว ทำตามขั้นตอนดังนี้ ตามกฎหมายเดิม ผู้ประกันตนไม่สามารถเลือกได้ว่าจะรับเงินชราภาพแบบบำเหน็จ (จ่ายก้อนเดียวจบ) หรือบำนาญ (จ่ายทุกเดือนจนกว่าจะเสียชีวิต) เพราะการจะได้รับในรูปแบบใดนั้นต้องขึ้นอยู่กับจำนวนปีที่ส่งเงินสมทบเข้าประกันสังคม ดังนี้ กรณีเราจ่ายเงินสมทบ 1-11 เดือน จะได้บำเหน็จเฉพาะส่วนที่เราเคยส่งสมทบไว้ แต่จะไม่ได้ส่วนที่นายจ้างร่วมจ่ายให้ด้วย กรณีเราจ่ายเงินสมทบ 12-179 เดือน จะได้บำเหน็จส่วนที่ตัวเองและนายจ้างจ่ายไว้ รวมกับกำไรที่ประกันสังคมนำเงินไปลงทุน โดยกำหนดอัตราผลตอบแทนที่ได้รับเป็นปี ๆ ไป ต้องจ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือน หรือ 15 ปีขึ้นไป จะส่งติดต่อกัน 15 ปี หรือส่ง ๆ หยุด ๆ บางช่วงก็ได้ จะส่งในฐานะผู้ประกันตน มาตรา 33 หรือมาตรา 39 ก็ได้ แต่เมื่อรวมกันแล้วต้องครบ 180 เดือน กรณีนี้จะได้รับเงินบำนาญเท่ากับ 20% ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย ซึ่งหากเป็นผู้ประกันตน มาตรา 33 จะคิดที่ฐานเงินเดือนไม่เกิน 15,000 บาท แต่หากเป็นผู้ประกันตน มาตรา 39 จะคิดที่ฐานเงินเดือน 4,800 บาท หากใครจ่ายเงินสมทบมากกว่า 180 เดือน ก็จะได้บำนาญบวกเพิ่มขึ้นไปอีก 1.5% ทุก ๆ 12 เดือน หรือ 1 ปี เช่น จ่ายเงินสมทบ 30 ปี ก็จะได้รับบำนาญเป็น 20% + (1.5% x 15 ปี) เท่ากับ 42.5% แต่ถ้าในช่วง 60 เดือนสุดท้ายของการทำงาน ใครเป็นทั้งผู้ประกันตน มาตรา 33 และมาตรา 39 ก็ให้คำนวณจากฐานเงินเดือนสูงสุดของแต่ละมาตรา เช่น ช่วง 40 เดือนแรก เป็นผู้ประกันตน มาตรา 33 คิดจากฐานเงินเดือนสูงสุด 15,000 บาท บวกกับช่วง 20 เดือนสุดท้าย เป็นผู้ประกันตน มาตรา 39 คิดจากฐานเงินเดือน 4,800 บาท อย่างไรก็ตาม ในอนาคตทางประกันสังคมจะเปิดโอกาสให้เราสามารถเลือกได้ว่าจะรับเงินบำเหน็จ หรือบำนาญ หลังจากเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 ครม. มีมติเห็นชอบในหลักการให้แก้ไขสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ ซึ่งก็ต้องรอดูกันว่าทางประกันสังคมจะมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขอย่างไรบ้าง หากเรา "ขอเลือก" ว่าจะรับเงินชราภาพในรูปแบบไหน และกรณี "ขอคืน" เงินชราภาพบางส่วนก่อนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ ผู้ประกันตน เฮ ! ครม. ไฟเขียว เอาเงินชราภาพออกมาใช้ก่อนได้ เช็ก 3 ขอ ได้ที่นี่ ขอคืนเงินประกันสังคม บำเหน็จ บำนาญชราภาพ ก่อนอายุ 55 ปี ได้ไหม ถ้าตกงาน หรือลาออก ? เงินชราภาพ บำเหน็จ-บำนาญประกันสังคม ขอคืนได้เมื่อไหร่ ใครมีสิทธิ์บ้าง ? เช็กสิทธิประกันสังคม ของตัวเองผ่านวิธีง่าย ๆ ที่ผู้ประกันตนควรรู้ เช็กสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน มาตรา 33 สำหรับมนุษย์เงินเดือน ประกันสังคม มาตรา 39 คืออะไร ได้รับความคุ้มครองเรื่องไหนบ้าง ? ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : สำนักงานประกันสังคม
แสดงความคิดเห็น