x close

เมื่อการทำธุรกิจร่วมกับครอบครัว ไม่ใช่เรื่องน่าอึดอัดอีกต่อไป

เมื่อการทำธุรกิจร่วมกับครอบครัว ไม่ใช่เรื่องน่าอึดอัดอีกต่อไป

          ธุรกิจครอบครัว เรื่องที่ใคร ๆ ก็ต่างร้อง “ยี้” หลายคนบอกจะทำธุรกิจทั้งทีขอเป็นที่ไม่ใช่คนในครอบครัวได้ไหม กลัวมองหน้ากันไม่ติด ช้าก่อน ! อย่าเพิ่งรีบกังวลไป ลองมาดูวิธีรับมือกับปัญหาเหล่านี้ก่อนดีไหม แล้วคุณจะรู้ว่าการทำธุรกิจครอบครัวไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอย่างที่คิด

          เชื่อว่าหลายคนพอได้ยินคำว่า “ธุรกิจครอบครัว” ก็จะไม่อยากทำ เพราะเกิดความกังวลในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารจัดการ, ความไว้เนื้อเชื่อใจ, เรื่องสายสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัว และอุปสรรคอื่น ๆ อีกมากมาย โดยหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจครอบครัว (อาจ) ไปไม่ถึงฝั่งฝัน นั่นก็คือ “ความอึดอัดในการทำธุรกิจร่วมกัน” ความอึดอัดที่ว่านี้เกิดขึ้นได้จาก 3 สาเหตุหลัก ได้แก่ ความคุ้นเคยกันของคนในครอบครัว, หลักการบริหารธุรกิจที่อาจไม่ตรงกัน และความรู้สึกว่าตนไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการ วันนี้กระปุกดอทคอมนำข้อมูลดี ๆ จากหนังสือ Lisa เกี่ยวกับการขจัดข้อจำกัดทางธุรกิจ (ครอบครัว) ให้หมดไปมาฝาก รับรองว่าถ้าคุณนำวิธีดังต่อไปนี้ไปลองปรับใช้ ธุรกิจครอบครัวที่ว่ายาก ๆ จะกลับกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นอย่างแน่นอน เริ่มสนใจแล้วใช่ไหม งั้นไปดูกันเลย

อย่าเลือกปฏิบัติ (Don’t Double Standard)

          อย่าปฏิบัติกับลูกจ้างแต่ละคนไม่เหมือนกัน ไม่ว่าเขาจะใช่หรือไม่ใช่ญาติของคุณ มีบางครอบครัวที่ใช้งานลูกตัวเองหนักยิ่งกว่าลูกจ้างเสียอีก เพราะเห็นว่าลูกจะต้องเป็นเจ้าของกิจการในวันหน้า จึงพยายามให้ทำงานนอกเวลาดึกตื่นแบบไม่เสร็จไม่เลิก สุดท้ายลูกขอหนีหายไปเป็นลูกจ้างบริษัทดีกว่าเป็นลูกจ้างของพ่อแม่ซะงั้น ทางที่ดีคือปฏิบัติต่อทุกคนเหมือนกัน ให้ทำงานภายใต้กฎเกณฑ์เดียวกัน รับรองไม่มีน้อยใจ ในขณะเดียวกัน หากคนในครอบครัวทำดีก็ต้องให้รางวัลไม่มากหรือน้อยกว่าลูกจ้าง ในกรณีนี้หากให้รางวัลกับญาติมากกว่าลูกจ้างอาจรู้สึกเหลื่อมล้ำ คิดว่าถึงทำดีให้ตายขนาดไหนก็คงไม่ได้โปรโมทให้ทำในตำแหน่งบริหาร เพราะเขาไม่ใช่คนในครอบครัว หากเกิดความรู้สึกแบบนี้ คุณจะขาดคนเก่งที่ทำงานอย่างทุ่มเทให้องค์กรในที่สุด

จ่ายค่าจ้างตามผลงาน (Payment by Results)

          อย่าให้เงินเดือนกับสมาชิกครอบครัวที่ไม่ได้ทำงานอะไรเลย บ่อยครั้งที่ครอบครัวแน่นแฟ้นรักใคร่กันจนมองข้ามเรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจ นานเข้าก็กลายเป็นการพึ่งพิงตลอดชีวิต ดังนั้น หากมีญาติเข้ามาทำงานกับคุณก็ควรกำหนดตำแหน่งหน้าที่ และค่าทดแทนให้ชัดเจนไปเลย จะได้ไม่ต้องมานั่งเก็กซิมเพราะต้องแบกรับภาระจ่ายเงินให้คนที่ไม่มีผลงานเอาซะเลย

ตรงไปตรงมาไม่ปิดบัง (Be Honest)

          เปิดเผยและตรงไปตรงมากับทุกคน ไม่ว่าเขาจะเป็นญาติหรือไม่ใช่ บ่อยครั้งพ่อ แม่ พี่ ป้า น้า อา พยายามปกปิดว่ามีลูกหลานทำงานในบริษัทเพราะกลัวคำครหา แต่อันที่จริงหากปกปิดไปยังไงก็ต้องมีสักวันที่ความลับถูกเปิดเผย สิ่งนี้อาจทำให้เครดิตคุณเสียได้ นอกจากนี้ก็ควรให้ทุกคนเข้าถึงข้อมูลธุรกิจเท่าเทียมกัน ไม่ใช่ปิดบังข้อมูลบางส่วนให้เฉพาะลูกหลานรู้ ลูกจ้างควรได้รับพัฒนาไปพร้อมกันทุกคน  สำหรับบริษัทแทนการจัดทริปสำหรับครอบครัวไปเลย รับรองลูกจ้างประทับใจเพราะรู้สึกอบอุ่นดุจมีนายจ้างเป็นญาติผู้ใหญ่

อย่านำทรัพย์สินของบริษัทไปใช้เป็นของส่วนตัว (Don’t Be Confuse)

          อย่าเอาทรัพยากรของบริษัทไปใช้เพื่อครอบครัวของตัวเอง บ่อยครั้งที่คุณอาจเผลอเอารถขนของประจำบริษัทไปส่งของให้ที่บ้าน หรือใช้พนักงานไอทีของบริษัทได้ไปติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ตให้ที่บ้าน นอกจากจะทำให้ค่าใช้จ่ายของบริษัทเพิ่มขึ้นแล้ว สิ่งนี้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับลูกจ้าง ลองคิดดูสิ ถ้าลูกจ้างของคุณเอารถขนของประจำบริษัทไปรับส่งลูกบ้างล่ะ คุณคงไม่ชอบเหมือนกัน

รู้จักบริหารจัดการความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว (Agree to Disagree)

          พี่น้องหรือสามีภรรยาเมื่อมาใช้ชีวิตร่วมกัน คุณยังต้องปรับตัว การทำธุรกิจร่วมกันก็เช่นกัน สามีภรรยาบางคู่อาจไม่ยอมขับรถไปบริษัทพร้อมกัน เพราะภรรยาขอเริ่มงานสายกว่า หรือบางบ้านอาจไม่ยอมพูดเรื่องงานหลัง 6 โมงเย็น หรือหลังกลับบ้าน หากรู้สึกว่าคุณทั้งคู่เริ่มผูกติดกับการทำงานมากเกินจนจะกลายเป็น 24 ชั่วโมง สิ่งนี้อาจบั่นทอนความสัมพันธ์ ควรลางานไปเที่ยวไกล ๆ เพื่อรีเฟรชตัวเอง ก่อนความเครียดจะทำให้ความสัมพันธ์คุณขาดสะบั้น

หาจุดประนีประนอม (Family Committee)

          บ่อยครั้งปัญหาในการทำธุรกิจของครอบครัวได้รับการประนีประนอมหรือแก้ไข บ่อยครั้งที่พี่น้องมีกฎในการทำงานเหมือนกัน ทำงานเข้าขากันดีมาก แต่กลับมีวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของกิจการที่แตกต่าง บางคนอยากขายทอดตลาดหุ้น บางคนอยากควบรวม หรืออยากให้เป็นกิจการของครอบครัวต่อไป จุดนี้หากนำเรื่องเข้าที่ประชุมของครอบครัวจะช่วยแก้ปัญหาได้ ถือเป็นมติสุดท้าย อย่าลืมว่าท้ายที่สุดเลือดก็ข้นกว่าน้ำนะ

          สถาบันครอบครัวเป็นรากฐานที่สำคัญของสังคม สังคมจะน่าอยู่หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับพื้นฐานของสถาบันครอบครัวเป็นหลัก พลังความรักความอบอุ่นที่คนในครอบครัวมีให้แก่กันเป็นสิ่งขับเคลื่อนเราให้เป็นคนดีมีคุณภาพ ดังนั้นถ้าหากชั่วโมงนี้ใครที่คิดว่าการทำธุรกิจครอบครัวเป็นเรื่องยาก ก็ขอให้ลองคิดดูใหม่ ในโลกนี้คงไม่มีใครที่จะเข้าใจเราได้เท่ากับคนในครอบครัวอีกแล้ว ขอให้ทุกคนที่มีความฝันอยากทำธุรกิจร่วมกับที่บ้านประสบความสำเร็จครับ เชื่อว่าความรักความเข้าใจจะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคตครับ


 ขอขอบคุณข้อมูลจาก
     
         



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เมื่อการทำธุรกิจร่วมกับครอบครัว ไม่ใช่เรื่องน่าอึดอัดอีกต่อไป อัปเดตล่าสุด 20 สิงหาคม 2558 เวลา 16:47:55 4,890 อ่าน
TOP