x close

สรรพสามิต แจงเก็บเงินเหล้า-บุหรี่ เพิ่ม 2% เข้ากองทุนฯ

สิงห์อมควัน-นักดื่ม อ้วก เหล้า บุหรี่ จ่อขึ้นราคาอีก รับกฎหมายใหม่

            อธิบดีกรมสรรพสามิต แจงการเพิ่มการเก็บเงินจากสินค้าในกลุ่มสุรา เบียร์ ยาสูบ เข้ากองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ในสัดส่วน 2% จากฐานภาษีสรรพสามิตของสินค้าทั้ง 3 ชนิด ย้ำไม่ใช่การเก็บภาษี 

            วันที่ 30 มีนาคม 2558 นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การกีฬาแห่งประเทศไทยฉบับใหม่ ที่มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา ทำให้ต้องมีการจัดเก็บเงินจากสินค้าในกลุ่มสุรา เบียร์ ยาสูบ เข้ากองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ในสัดส่วน 2% จากฐานภาษีสรรพสามิตของสินค้าทั้ง 3 ชนิด และคาดว่าจะเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ได้ปีละ 3,000 ล้านบาท

            ทั้งนี้ขอประชาชนอย่าสับสนในเรื่องการเรียกเก็บเงินนี้ เนื่องจากทางกรมสรรพสามิตไม่ได้เก็บภาษีสรรพสามิตของสินค้ากลุ่มสุรา เบียร์ ยาสูบเพิ่ม แต่ พ.ร.บ.ฉบับใหม่นี้ จะมีการเก็บเงินเพิ่มอีก 2% โดยคิดจากฐานภาษี เพื่อเข้ากองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติเท่านั้น กล่าวคือ เดิมหากผู้ประกอบการเสียภาษี 100 บาท จะต้องจ่ายเพิ่มอีก 2 บาท เพื่อจ่ายเข้ากองทุนพัฒนากีฬา

            นอกจากนี้ ต้องเข้าใจว่าผู้ประกอบการมีหน้าที่เสียภาษีตามกฎหมาย ส่วนที่ต้องจ่ายเพิ่มเติมในแง่เงินกองทุนต่าง ๆ อยู่ที่ผู้ประกอบการว่าจะปรับราคาขึ้นหรือไม่อย่างไร ถือเป็นต้นทุนส่วนหนึ่ง และขณะนี้ราคาขายปลีกยังไม่ได้ปรับขึ้น ต้องติดตามระยะ 2-3 สัปดาห์ว่าจะมีการปรับราคาหรือไม่ หากมีการปรับราคาขึ้น คาดว่าทางผู้ประกอบการของสินค้าทั้ง 3 ชนิดนี้ จะมีการปรับเพิ่มราคาใหม่ ดังนี้

            - บุหรี่ ราคาปัจุบัน เฉลี่ยอยู่ที่ 30-40 บาท/ซอง ราคาปรับขึ้น 0.80-1 บาท
            - เบียร์ ราคาปัจุบัน เฉลี่ยอยู่ที่ 50-60 บาท/กระป๋องหรือขวด ราคาปรับขึ้น 1-1.20 บาท
            - เหล้า ราคาปัจุบัน เฉลี่ยอยู่ที่ 100 บาท/ขวด ราคาปรับขึ้น 2 บาท

            รายงานระบุด้วยว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการสินค้าทั้ง 3 ชนิดนี้ ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนเพื่ออุดหนุนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) 2% จากฐานภาษีสรรพสามิตของสินค้าทั้ง 3 ชนิด รวม 3,000 ล้านบาทต่อปี และจ่ายเงินอุดหนุนองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส อีก 1.5% ไม่เกิน 2,000 ล้านบาทต่อปี และล่าสุดเพิ่มการจ่ายเงินเข้ากองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติในสัดส่วน 2% ประมาณ 3,000 บาทต่อปี สรุปแล้วผู้ประกอบการที่ผลิตและจำหน่ายสินค้าทั้ง 3 ชนิดนี้ ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนต่าง ๆ ประมาณ 8,000 ล้านบาทต่อปี


world_id:5518c94838217ad50c000000


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สรรพสามิต แจงเก็บเงินเหล้า-บุหรี่ เพิ่ม 2% เข้ากองทุนฯ อัปเดตล่าสุด 30 มีนาคม 2558 เวลา 14:52:14 3,111 อ่าน
TOP