
เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณหมึกพเนจร สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
เที่ยวยุโรปแบบประหยัดสุด ๆ ใช้งบกิน-อยู่ วันละไม่เกิน 99 บาทเท่านั้น จะทำได้อย่างไร เรามีทริคเที่ยวยุโรปสุดประหยัดมาฝากคนชอบเที่ยวกันค่ะ
สำหรับคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวและใฝ่ฝันอยากจะข้ามฟ้าไปเที่ยวยุโรปกับเขาบ้าง แต่ยังกังวลว่าจะต้องใช้งบหนักจนกระเป๋าแห้ง หรือเก็บเงินเท่าไหร่ก็ยังไม่พอไปสักที วันนี้กระปุกดอทคอมนำเอารีวิวการเที่ยวยุโรปราคาประหยัดสุด ๆ ที่ได้รับอนุญาตจาก คุณหมึกพเนจร สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาฝากไว้เป็นแรงบันดาลใจของคนชอบเที่ยวกันค่ะ ลองไปอ่านแล้วเตรียมหยอดกระปุกกันได้เลย
ยุโรปโคตรประหยัด !! เทคนิคเที่ยวยุโรปกิน+อยู่ไม่เกินวันละ 99 บาท โดย คุณหมึกพเนจร
*ก่อนอื่นขอชี้แจงก่อนที่คนอื่นจะเข้าใจผิดกัน 99 บาทนั้น**
**เราหมายถึงแค่ อาหาร+ที่พัก เท่านั้นตามตัวอักษรเลย ไม่รวมค่าเดินทาง**
เพราะถ้ารวมค่าเดินทางด้วยตกวันละพันกว่าบาทค่ะ เพราะเราซื้อ Europass แต่ถ้าใครอยากเดินทางฟรีมันก็มีวิธีนะคะ เดี๋ยวจะลงรายละเอียดให้
มาเริ่มต้นกันด้วยคุณสมบัติของผู้ที่จะก้าวสู่เส้นทางยุโรป 99 บาท ใครที่ไม่มีคุณสมบัติเหล่านี้เลย ลองทบทวนตัวเองดี ๆ นะ ว่าไหวหรือเปล่า
1. อยากจะเที่ยวต้องทรหด



2. แม้เงินหมดต้องไม่ตาย
ต้องประหยัด หักห้ามใจตัวเองไม่ให้ช้อปปิ้งอย่าลืมนะคะ เราแบ็คแพก ต้องแบกทุกอย่างที่ซื้อ ซื้อให้น้อยที่สุดค่ะ แต่เราไม่ซื้อเลยเพราะเดี๋ยวนี้แทบทุกอย่างผลิตในจีนกลับมาซื้อในไทยดีกว่า ยกเว้นพวกแบรนด์ (ซึ่งคนที่จะซื้อคงไม่แบ็คแพ็ก 555)
3. อย่าได้อายที่จะถาม
เวลาที่ใครมาเก็บเงินคุณโดยไม่ทราบเหตุผลต้องคุย ต้องถามนะคะ ต่อให้เป็นเจ้าหน้าที่ก็ตาม การถามช่วยให้ประหยัดไปเยอะ อยากรู้ต้องกล้าถาม ไม่งั้นเสียโง่จะเจ็บยิ่งกว่าอาย (อันนี้มีประสบการณ์เดี๋ยวลงรายละเอียดตอนรีวิวท่องเที่ยว)
4. Easy-Going ไม่เรื่องมาก ไม่ติดสบาย
5. ภาษาอังกฤษใช้ได้
6. เข้าสังคมได้ในระดับหนึ่ง
7. เดินทางไม่เกิน 2 คน
***และที่สำคัญที่สุด มีสติและหูตาไว*** คนที่ชอบฟังเพลงเดินใจลอย ขี้ลืม โก๊ะ ๆ ต้องระวังนะคะ ถ้าคุณคิดว่าคุณสมบัติพร้อมก็ต่อเลยค่ะ
ที่พักฟรี มีอยู่จริง
ตอนแรกเราก็ไม่เชื่อนะว่ามันมีจริง แต่ด้วยสภาพบีบบังคับที่อยากเที่ยวมากและทั้งตัวมีเงินแค่ 50€ (แต่มี Europass แล้ว) มันบีบคั้นให้เราค้นหาวิธีการหาที่พักฟรีจนได้มาเจอกันเว็บไซต์นี้ค่ะ www.couchsurfing.org คาดว่ามีหลายคนรู้จักเว็บนี้ดีและเคยมีประสบการณ์มาแล้ว มันคืออะไรไปดูกัน

เป็นเว็บไซต์ที่เป็นแหล่งรวมตัวของคนอยากหาที่พักฟรี และอยากให้ที่พักฟรี ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่เป็นคนให้ที่พัก (Host) จะแบ่งบ้านของตัวเองร่วมอยู่กับคนที่มาพัก (Surfer) ให้มาพักฟรี ๆ เป็นเวลากี่คืนก็แล้วแต่ Host จะให้ ส่วนมาก Host จะเลี้ยงข้าวเช้าและข้าวเย็นเรา และบางคนถึงกับทำมื้อกลางวันเผื่อให้เราไปกินตอนเที่ยวด้วย (แค่นี้ค่าอาหารเช้า+เย็นไม่ต้องจ่ายแล้ว 555)
โดยส่วนใหญ่ของโฮสในเว็บจะเป็นคนดี และถ้าใครโชคร้ายจริง ๆ (โดยเฉพาะผู้หญิง) จะเจอคนเลวเหล่านั้น ซึ่งไม่ต้องห่วงไป เรามีวิธีเลือก Host ให้ปลอดภัยสำหรับผู้หญิง ส่วนผู้ชายก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรอยู่แล้ว แต่ก็ขอให้ระวังตัวไว้ เพราะโฮสที่เป็นเกย์ก็มีนะเหวย 555



**ข้อ 3 จะทำไม่ทำก็ได้ แต่แนะนำให้ทำถ้ามีเวลา โดยเฉพาะผู้ชาย**


วางแผนการเดินทาง
เดินทางด้วยอะไรก็ได้ แต่ที่สำคัญคือวันไหนคุณจะอยู่ที่ใด เพราะนี่เป็นข้อมูลจำเป็นสำหรับการหา Host เพราะถ้าคุณบอกเวลาไม่ได้ก็หา Host ลำบากเหมือนกัน
เริ่มต้นหา Host : การหามีอยู่ 2 วิธี คือ


วิธีการเลือกโฮส ต้องดูคุณสมบัติตามนี้
1) ระดับการยืนยันตนใน Profile



2) Reference
+ Positive = ยิ่งมีมากเท่าไหร่ยิ่งดี คุณผู้หญิงทั้งหลายอย่าดูแค่จำนวนด้วยนะคะ อ่านด้วยว่าคนที่ให้ Ref. เป็นใครมากจากไหน บางที Ref. อาจมาจากการที่แค่ไปเจอกันในอีเว้นท์แล้วเขียนให้กันก็ได้/แบบที่เราบอกไป แหะ ๆ
0 Neutral = ปานกลาง
- Negative = ยิ่งมีน้อยยิ่งดี
3) อื่น ๆ
บางทีโฮสอาจจะอยู่ในโลเกชั่นที่ไม่ดี หรือโฮสอาจจะมีความชอบไม่เหมือนคุณ ศึกษาเขาดี ๆ ก่อนตอบรับเขามาเป็นโฮสนะ
***วิธีเลือกโฮสสำหรับผู้หญิง***
1) เลือกผู้หญิงเท่านั้นดีที่สุด ยกเว้นคุณไปกับแฟนผู้ชายของคุณ
ส่วนใหญ่โฮสผู้หญิงจะตอบรับยากกว่าโฮสชายแต่ปลอดภัยกว่ามาก ถ้าคุณเป็นผู้หญิง 1-2 คน จะหาโฮสง่าย เพราะฉะนั้นลองส่งข้อความไปหาโฮสผู้หญิงหลาย ๆ คนก่อน ถ้าคุณไม่ได้เดินทางฉุกละหุกขนาด 1-2 วัน โดยมากจะหาโฮสผู้หญิงได้อยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง เพราะขนาดเรา ส่งไป 2-3 วันก่อนไปยังหาได้เลย
2) โฮสที่ควรหลีกเลี่ยง
1. ผู้ชายอยู่ตัวคนเดียว
2. Ref. น้อยหรือไม่มี Ref.
3. ขึ้นสถานะว่า Prefer Gender: Female (ปกติของ Host ทั่วไปจะขึ้นว่า Prefer Gender: Any)
4. Surfer ที่ผ่านมามีแต่ผู้หญิง แถมข้อความยังมีอะไรซ่อนเร้นมาก
5. ขึ้นสถานะประมาณว่าตามหาผู้หญิงที่น่าสนใจ
6. ฯลฯ
การหาโฮสในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ในชีวิตการเดินทางมันมีอะไรให้พลาดได้ตลอดอยู่แล้ว เช่น ตกรถไฟ โฮสป่วย/ติดธุระด่วนกะทันหัน ฯลฯ ทำตามวิธีนี้แล้วคุณจะหาโฮสได้ภายในเวลา 3 ชั่วโมง โดยที่โอกาสสำเร็จสูง (ใช้เฉพาะตอนฉุกเฉินจริง ๆ เท่านั้นนะ อย่างมาก 2 วันก่อนไป)













ข้อเสียคือคุณเลือกโฮสไม่ได้ และส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้ชายเสียด้วย แต่โฮสส่วนใหญ่ในกรุ๊ปนี้มักผ่านการ verified มาแล้ว จึงค่อนข้างไว้วางใจได้ในระดับหนึ่ง ส่วนผู้ชายไม่ค่อยมีใครทำอะไรคุณหรอก
ได้โฮสมาแล้วทำอย่างไร


ไปอยู่กับเขาทำตัวอย่างไร ?
นี่คือสาเหตุที่คุณต้องมีความสามารถในการเข้าสังคมและภาษาอังกฤษได้ในระดับหนึ่ง [ไม่ต้องโปรหรอก จขกท.เองก็งู ๆ ปลา ๆ โบกมือไปมาเดี๋ยวก็รู้เรื่องกันเอง 555] โฮสส่วนมากอยากจะเล่าวัฒนธรรมของตัวเองพร้อม ๆ กับฟังวัฒนธรรมใหม่ ๆ หรือ เรื่องแปลก ๆ จากต่างแดน เราเป็นคนไทยคนแรกของทุกโฮส เลยโชคดีหน่อย มีเรื่องให้โม้เยอะ 555
นอกเรื่องนิด จากที่คุยกับคนต่างชาติทุกคนมา สิ่งที่ประเทศไทยเด่นสุดคือเรื่องอาหารค่ะ คนต่างชาติทุกคนที่คุยด้วยชอบอาหารไทย และคิดว่าอาหารไทยมีรสชาติเผ็ดจัดจ้านทุกอย่าง รองลงมาจากเรื่องอาหารคือกะเทยงาม 555







ความจริงนอกจาก Couchsurfing แล้ว ยังมีเว็บอื่น ๆ อีกมากมายเลย แต่เราไม่เคยใช้บริการ
ของกินฟรี
มันมีจริงจะหาได้จากไหน


ปั๊มน้ำมัน OMV จะมีร้านสะดวกซื้อที่เมื่อลูกค้าซื้อ เขาจะแจกตั๋วเงินสดให้ 0,50€ แต่คนส่วนใหญ่ไม่ใช้และทิ้งตามพื้น+ลานจอดรถ เราก็ไปไล่เก็บมาค่ะ ได้มาประมาณ 4€ ได้น้ำกับหนมปังมาฟรี ๆ 555

วิธีเดินทางฟรี **มีความเสี่ยง**
1.โบกรถ
เป็นวิธีที่ค่อนข้างง่ายและพื้น ๆ ที่สุด แค่หาถนนเส้นที่เราจะไปแล้วโบกรถเลย แต่ถ้าระยะทางไกล ๆ ควรมีกระดาษเขียนว่าไปไหนตัวชัด ๆ ส่วนตัวเราไม่ได้เดินทางด้วยวิธีนี้ 100% แต่เพื่อนผู้ชายเกาหลีกับเยอรมัน เดินทางด้วยวิธีนี้ตลอด
**วิธีนี้เสี่ยงเพราะคุณต้องอาศัยคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักแม้แต่น้อย
**วิธีนี้ไม่ค่อยเหมาะสำหรับผู้หญิงเท่าไหร่ ยิ่งไปเจอพวกคนขับรถบรรทุกด้วยแล้ว ยิ่งค่อนข้างเสี่ยง แต่ถึงกระนั้น เราก็ทำมาแล้ว 2 ครั้ง แต่เป็นแค่ระยะทางสั้นๆเท่านั้น
2. อภิสิทธิ์เยาชนของรถไฟสายยุโรป (**เฉพาะคนอายุต่ำกว่า 14-15ปี เท่านั้น**)
ถ้าคุณอายุประมาณ 14-15 ปีหรือต่ำกว่านั้น ยินดีด้วยคุณมีสิทธิ์ขึ้นรถไฟฟรี !! เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องไปซื้อตั๋วเพิ่มนะคะ คุณก็ได้นั่งฟรี เพราะที่นี่ผู้ใหญ่สามารถเอาเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีขึ้นรถไฟได้ฟรี 1 คน
ตั๋วที่เอาเด็กไปด้วยได้



3.พนักงานตั๋วใจดี
เราเคยนั่งรถไฟฟรี 2 ครั้งเพราะพนักงานตั๋วใจดี


การเดินทางด้วยรถไฟ Europass
เนื่องจากเราเดินทางด้วย Europass จึงขอรีวิวการเดินทางแบบนี้ไว้เผื่อใครสนใจนะคะ
ข้อดี

ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็เหมือน Japan Railpass ค่ะ คือคุณจะขึ้นรถไฟรอบไหน เที่ยวใด แบบไหน ก็ได้ค่ะ ไม่อั้นตามเวลาเขากำหนดไว้ให้ เพราะฉะนั้นถ้าคุณเกิดพลาดตกรถไฟ หรือเกิดเหตุสุดวิสัยอะไร ก็สามารถหารถไฟรอบใหม่ได้สบาย ๆ ไม่เหมือนตั๋วเฉพาะที่ถ้าคุณตกรถไฟรอบนั้นแล้วก็ตกเลย ตั๋วที่มีนั้นก็ใช้ไม่ได้แล้วค่ะ เราเคยมีประสบการณ์ตกรถไฟ 1 ครั้ง เพราะไม่ชินกับระบบขนส่งในสโลวาเนีย

เพราะ Europass ให้อภิสิทธิ์คุณ นั่งได้ทุกรูปแบบตั้งแต่ City Shuttle ที่เหมือนกับ BTS เข้าไปยังเมืองเล็ก ๆ ไปจนถึง Railjet ที่วิ่งข้ามเมืองใหญ่ด้วยความเร็ว 200 kph มี Wifi ฟรีในขบวน หรูเหมือนนั่งเครื่องบิน

เนื่องจากถ้าคุณเดินทางไกล แล้วกลัวเปลืองเวลา หรือหาที่นอนไม่ได้ ก็นอนมันบนรถไฟเลย เอาให้คุ้ม เราเคยนอนอยู่ 2 คืน

เวลาอยากหาห้องน้ำก็ไปขึ้นรถไฟเลย หรือถ้าไม่อยากไปไหน ก็หารถไฟที่จอดแช่อยู่ขึ้นค่ะ เพราะห้องน้ำที่ยุโรปต้องเสียเงินเข้านะคะ แล้วบนรถไฟ (ยกเว้น City Shuttle) จะมีปลั๊กไฟให้เสียบ เรารู้สึกดีมาก ๆ เพราะใช้ไอโฟนถ่ายรูป แบตหมดไวสุด ๆ พอขึ้นรถไฟจะรีบหาปลั๊กทันที
ข้อเสีย


ข้อควรรู้
Europass มีหลากหลายแบบมาก ๆ ควรวางแผนการเดินทางแต่เนิ่น ๆ ให้ดี จะได้ซื้อสิ่งเหมาะสมกับแผนการเดินทางของตัวเอง จะได้คุ้มเม็ดเงินที่จ่ายไป ในไทยมีหลายบริษัทที่ขาย Europass สามารถเข้าไปสอบถามได้ค่ะ
เราขอแนะนำมือใหม่ทุกคนที่จะเที่ยวคนเดียวว่า
1. อย่าใส่หูฟังในที่สาธารณะ
เพราะการฟังเพลงจะทำให้คุณใจลอยมากขึ้น ความระแวดระวังตัวเองน้อยลง ซึ่งมิจฉาชีพจำนวนมากก็เล็งคนเหล่านี้เป็นอันดับแรก ๆเลยค่ะ ถ้าอยากฟังเพลงก็ขอฟังแค่ตอนที่อยู่บ้านโฮส หรือนั่งบนรถไฟแค่นั้นจะดีมาก ๆ เลย
2. ทุกอย่างกองในกระเป๋าเดียว
เพราะการเดินทางคนเดียวบ่อยครั้งมากที่เราจะต้องรีบต่อรถไฟ รีบเดินทางไปที่ต่าง ๆ เพราะฉะนั้นการเดินทางที่มีของพะรุงพะรังจะทำให้ยิ่งเสี่ยงต่อการลืมของ ทำของหาย หรือทำให้การเดินทางล่าช้ามากขึ้น
3. เงินทองแบ่งเป็นหลายส่วนซ่อนไว้ตามที่ต่าง ๆ ของร่างกาย
เพราะถ้าคุณโดนปล้น อย่างน้อยก็ยังมีส่วนอื่นที่นำมาใช้ได้ (เช่น กระเป๋ากางเกง กระเป๋าเสื้อ กกน. หรือยกทรงก็ตามสบายเลยค่ะเจ้าคิกคัก) โดยเฉพาะกระเป๋าเงินให้ใส่เงินไว้แค่พอซื้ออาหารหรือค่าตั๋วรถก็พอ เพราะกระเป๋าเงินเป็นส่วนแรกที่เหล่ามิจฉาชีพจะขโมยเลยค่ะ ถ้าใครมีบัตรเครดิตก็พกบัตรดีกว่าค่ะ
4. พาสปอร์ตสำคัญมาก
5. เมคอัพไม่ต้องเอาไปเยอะ
เพราะหนัก และไม่ค่อยได้ใช้หรอกค่ะ เอาแค่ครีมบำรุงผิวหลอดเล็กไปพอ ยิ่งสวยยิ่งล่อโจรนะ
6. ซื้อซิมเติมเงินที่นั้นเลยค่ะ
อย่าเสี่ยงใช้บริการโรมมิ่งของประเทศไทย เพราะว่าบางทีถ้าคุณเผลอแม้แต่นิดเดียว บิลมาทีมีเงิบถึงปลายปีแน่