เช็กเลย ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 ตรวจสอบสิทธิ วันไหน ก่อนรับ 10,000 บาท 27 ม.ค.นี้

         ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 เคาะแล้ว เช็กสิทธิผ่านแอปฯ ทางรัฐ รอรับเงิน 10,000 บาท วันไหน ย้ำตรวจสอบผูกบัญชีพร้อมเพย์ ก่อนโอนให้ 27 ม.ค.

         ความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 ซึ่งจะมีการจ่ายเงิน 10,000 บาท ให้แก่ผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป โดยก่อนหน้านี้คาดว่าจะมีการแจ้งผลการลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ ในวันที่ 20 - 21 มกราคม นั้น

         ล่าสุด (16 มกราคม 2568) ฐานเศรษฐกิจ รายงานว่า นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลจะสนับสนุนเงินจำนวน 10,000 บาทต่อคน แก่ผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติเป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ โดยจะเปิดให้ตรวจสอบสิทธิผ่านแอปฯ ทางรัฐ ได้ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2568 เป็นต้นไป

วิธีตรวจสอบสิทธิ ผ่านแอปฯ ทางรัฐ

         - กรอกบัญชีผู้ใช้หรือเลขประจำตัวประชาชน (Username) และรหัสผ่าน (Password) เพื่อ "เข้าสู่ระบบ"

         - กด "ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน" โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เพื่อเข้าสู่หน้าแสดงผลผู้มีสิทธิโครงการฯ

เช็กความพร้อม รับเงินผ่านพร้อมเพย์

         - เงิน 10,000 บาท จะถูกโอนผ่านบัญชีเงินฝากที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชนเท่านั้น (ไม่สามารถรับผ่านพร้อมเพย์ที่ผูกกับเบอร์โทรศัพท์ได้)

         - สามารถผูกพร้อมเพย์กับบัญชีเงินฝากของธนาคารใดก็ได้ ไม่จำกัดว่าต้องเป็นธนาคารของรัฐ

         - ควรดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชนให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 22 มกราคม 2568 เพื่อรอรับการจ่ายเงิน วันที่ 27 มกราคม 2568

         - ควรตรวจสอบกับธนาคารด้วยว่า บัญชีพร้อมเพย์ดังกล่าวยังคงมีสถานะปกติที่สามารถรับเงินโอนได้หรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถรับเงินได้

         อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่จ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สำเร็จในครั้งแรก จะมีการดำเนินการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ให้แก่กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวจำนวน 3 ครั้ง ได้แก่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 28 มีนาคม และ 28 เมษายน 2568

เงื่อนไขของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ

          - เป็นผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ สำเร็จ

          - มีสัญชาติไทย

          - มีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ 15 กันยายน 2567 (เกิดก่อนหรือในวันที่ 16 กันยายน 2507)

          - ไม่เป็นผู้มีเงินได้พึงประเมินเกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566

          - ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากรวมกันเกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567

          - ไม่เป็นผู้อยู่ในสถานสงเคราะห์ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567

          - ไม่เป็นผู้ต้องขัง 4 ประเภท ได้แก่ นักโทษเด็ดขาด ผู้ต้องขังระหว่าง ผู้ต้องกักขัง และผู้ต้องกักกัน ตามฐานข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567

          - ไม่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ

ขอบคุณข้อมูลจาก ฐานเศรษฐกิจ