สรุปกรอบหลักโครงการ เติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet หลัง ครม. มีมติเห็นชอบ ดิจิทัลวอลเล็ต มีเงื่อนไขอะไรบ้าง สินค้าไหนใช้ไม่ได้ เช็กเลย !
![สรุปกรอบหลักโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต สรุปกรอบหลักโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต]()
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 23 เมษายน 2567 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ครม. มีมติเห็นชอบกรอบหลักการโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet (เงินดิจิทัลวอลเล็ต) ตามมติคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567 และมีมติเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ได้ให้ความเห็นชอบกรอบหลักการโครงการฯ เงินดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งด้านวัตถุประสงค์ ความจำเป็น กลุ่มเป้าหมาย เงื่อนไขการใช้จ่าย ประเภทสินค้า คุณสมบัติร้านค้า การจัดทำระบบ แหล่งเงิน ระยะเวลาการดำเนินโครงการ รวมถึงการป้องกันการทุจริต โดยมีรายละเอียดดังนี้
![สรุปกรอบหลักโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต สรุปกรอบหลักโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต]()
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
- ประชาชนที่มีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน มีสัญชาติไทย ณ เดือนที่มีการลงทะเบียน
- อายุเกิน 16 ปี
- ไม่เป็นผู้ที่มีเงินได้พึงประเมินเกิน 840,000 บาทต่อปีภาษี
- มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท
- ใช้จ่ายเชิงพื้นที่ในระดับอำเภอ
- การชำระเงินต้องเป็นแบบพบหน้า (Face to Face)
- ให้ใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็ก ที่รวมถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก
- ไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งขนาดใหญ่ระดับประเทศและระดับท้องถิ่น
- ระหว่างร้านค้ากับร้านค้า : ไม่มีการกำหนดเงื่อนไขเชิงพื้นที่และขนาดร้านค้า
- สินค้าทุกประเภทสามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้ ยกเว้นสินค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้ (Negative List)
- Negative List (สินค้าที่ไม่ร่วมโครงการ) ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตภัณฑ์กัญชาและกระท่อม บัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี น้ำมันเชื้อเพลิง และก๊าซธรรมชาติ
- กระทรวงพาณิชย์สามารถพิจารณากำหนด Negative List เพิ่มเติมได้ โดยการใช้จ่ายตามโครงการฯ ไม่รวมถึงบริการ
- ต้องเป็นร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษี ดังนี้ (1) ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax: VAT) หรือ (2) ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (Personal Income Tax: PIT) เฉพาะผู้มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร หรือ (3) ภาษีเงินได้นิติบุคคล (Corporate Income Tax CIT)
- ร้านค้าไม่สามารถถอนเงินสดได้ทันทีหลังประชาชนใช้จ่าย แต่ร้านค้าจะสามารถถอนเงินสดได้เมื่อมีการใช้จ่ายตั้งแต่ในรอบที่ 2 เป็นต้นไป
- พัฒนาและดำเนินการระบบ อาทิ การจัดทำเว็บไซต์ ระบบลงทะเบียนและตรวจสอบคุณสมบัติประชาชนและร้านค้า ระบบการใช้จ่าย ระบบการชำระเงิน ระบบตรวจสอบธุรกรรม โดยพัฒนาให้สามารถใช้จ่ายได้กับธนาคารอื่น ๆ ในลักษณะ Open Loop ด้วย
- (1) เงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวนประมาณ 152,700 ล้านบาท
- (2) การดำเนินโครงการผ่านหน่วยงานของรัฐ จำนวนประมาณ 172,300 ล้านบาท
- (3) การบริหารจัดการเงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวนประมาณ 175,000 ล้านบาท
การป้องกันการทุจริต : มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นเพื่อกำหนดแนวทางและดำเนินการตรวจสอบ พิจารณา และวินิจฉัยเกี่ยวกับการกระทำที่อาจเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการฯ การเรียกเงินคืน รวมถึงการดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่าง ๆ
![สรุปกรอบหลักโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต สรุปกรอบหลักโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต]()
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไทยคู่ฟ้า
ขอบคุณข้อมูลจาก thaigov.go.th

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 23 เมษายน 2567 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ครม. มีมติเห็นชอบกรอบหลักการโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet (เงินดิจิทัลวอลเล็ต) ตามมติคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567 และมีมติเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ได้ให้ความเห็นชอบกรอบหลักการโครงการฯ เงินดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งด้านวัตถุประสงค์ ความจำเป็น กลุ่มเป้าหมาย เงื่อนไขการใช้จ่าย ประเภทสินค้า คุณสมบัติร้านค้า การจัดทำระบบ แหล่งเงิน ระยะเวลาการดำเนินโครงการ รวมถึงการป้องกันการทุจริต โดยมีรายละเอียดดังนี้

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
กลุ่มเป้าหมาย :
- ประชาชนที่มีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน มีสัญชาติไทย ณ เดือนที่มีการลงทะเบียน
- อายุเกิน 16 ปี
- ไม่เป็นผู้ที่มีเงินได้พึงประเมินเกิน 840,000 บาทต่อปีภาษี
- มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท
เงื่อนไขการใช้จ่าย ระหว่างประชาชนกับร้านค้า :
- ใช้จ่ายเชิงพื้นที่ในระดับอำเภอ
- การชำระเงินต้องเป็นแบบพบหน้า (Face to Face)
- ให้ใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็ก ที่รวมถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก
- ไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งขนาดใหญ่ระดับประเทศและระดับท้องถิ่น
- ระหว่างร้านค้ากับร้านค้า : ไม่มีการกำหนดเงื่อนไขเชิงพื้นที่และขนาดร้านค้า
- ประเภทสินค้า :
- สินค้าทุกประเภทสามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้ ยกเว้นสินค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้ (Negative List)
- Negative List (สินค้าที่ไม่ร่วมโครงการ) ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตภัณฑ์กัญชาและกระท่อม บัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี น้ำมันเชื้อเพลิง และก๊าซธรรมชาติ
- กระทรวงพาณิชย์สามารถพิจารณากำหนด Negative List เพิ่มเติมได้ โดยการใช้จ่ายตามโครงการฯ ไม่รวมถึงบริการ
คุณสมบัติและเงื่อนไขร้านค้าที่สามารถถอนเงินสดจากโครงการฯ :
- ต้องเป็นร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษี ดังนี้ (1) ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax: VAT) หรือ (2) ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (Personal Income Tax: PIT) เฉพาะผู้มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร หรือ (3) ภาษีเงินได้นิติบุคคล (Corporate Income Tax CIT)
- ร้านค้าไม่สามารถถอนเงินสดได้ทันทีหลังประชาชนใช้จ่าย แต่ร้านค้าจะสามารถถอนเงินสดได้เมื่อมีการใช้จ่ายตั้งแต่ในรอบที่ 2 เป็นต้นไป
การจัดทำระบบ :
- พัฒนาและดำเนินการระบบ อาทิ การจัดทำเว็บไซต์ ระบบลงทะเบียนและตรวจสอบคุณสมบัติประชาชนและร้านค้า ระบบการใช้จ่าย ระบบการชำระเงิน ระบบตรวจสอบธุรกรรม โดยพัฒนาให้สามารถใช้จ่ายได้กับธนาคารอื่น ๆ ในลักษณะ Open Loop ด้วย
แหล่งเงินสำหรับการดำเนินโครงการฯ 5 แสนล้านบาท :
- (1) เงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวนประมาณ 152,700 ล้านบาท
- (2) การดำเนินโครงการผ่านหน่วยงานของรัฐ จำนวนประมาณ 172,300 ล้านบาท
- (3) การบริหารจัดการเงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวนประมาณ 175,000 ล้านบาท
ระยะเวลาการดำเนินโครงการ : ไม่เกินเดือนกันยายน 2569
การป้องกันการทุจริต : มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นเพื่อกำหนดแนวทางและดำเนินการตรวจสอบ พิจารณา และวินิจฉัยเกี่ยวกับการกระทำที่อาจเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการฯ การเรียกเงินคืน รวมถึงการดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่าง ๆ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไทยคู่ฟ้า